วันนี้ (21 ส.ค.2568) ภายหลังตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ออกหมายจับและดำเนินคดีกับนายก๊กอัน ในความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เชื่อมโยงเครือข่ายคอลเซนเตอร์ และได้ออกหมายจับเพิ่ม หลังสืบสวนขยายผลพบเส้นทางการเงินเป็นผู้รับผลประโยชน์จากเครือข่ายเว็บการพนันรายหนึ่ง พร้อมพวก 20 คน ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ เปิดเผยว่าสำนวนนายก๊กอัน ทั้งหมดจะถูกส่งให้กับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. พิจารณายึดทรัพย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสืบทรัพย์ร่วมกับตำรวจ พร้อมขยายผลถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องและเครือญาติ รวมถึงความเชื่อมโยงเกี่ยวกับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชาอีกกว่า 50 แห่ง ในประเทศกัมพูชา
ส่วนกรณีที่สหรัฐคว่ำบาตรและเตรียมยึดทรัพย์นายลี ยงพัด นักธุรกิจและนักการเมืองของกัมพูชา โดยสหรัฐระบุว่าเป็นบุคคลที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้แรงงานค้ามนุษย์เพื่อก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของสมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ไทยและสหรัฐอเมริกา ทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายคอลเซนเตอร์และการค้ามนุษย์ ส่วนนายลี ยงพัด ทางการไทยยังไม่มีหลักฐานเพื่อที่จะออกหมายจับในขณะนี้
การตั้งวอร์รูม หรือศูนย์บริหารเหตุการณ์เหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ ตั้งแต่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งสถาบันการเงิน บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ รวมถึงหลายประเทศที่พร้อมจะเข้าร่วม เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงสหรัฐอเมริกา แต่ยืนยันว่าจะไม่มีตัวแทนจากกัมพูชา เพราะขาดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะท่าทีของชาติที่เข้าร่วมมองว่าท่ากลางกัมพูชาไม่ได้จริงจังในการปราบปรามเครือข่ายคอลเซนเตอร์ และการค้ามนุษย์ ส่วนจะยกระดับทำเรื่องถึงสหประชาชาติคว่ำบาตรกัมพูชาหรือไม่นั้น ยังไม่มีนโยบายในเวลานี้
อ่านข่าว :
สธ.ลุยตรวจวัดพระบาทน้ำพุ พบศพดอง-สถานพยาบาลไม่ถูกต้อง
ตำรวจ สอท.เผยออกหมายจับเพิ่ม "ก๊กอาน" รับผลประโยชน์เว็บพนัน
จำคุก "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" 8 ปี คดีออกเอกสารปลอมที่ดินสระบุรี