วันนี้ (23 ส.ค.2568) ผ่านมา 1 เดือน หลังไทยและกัมพูชาตกลงหยุดยิง ตลาดกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เริ่มกลับมามีชีวิตชีวา ต่างจากช่วงเหตุปะทะชายแดนที่เงียบเหงา ตลาดกลางเมืองนี้เป็นแหล่งค้าขายสำคัญ มีทั้ง อาหารสด อาหารแห้ง อาหารพื้นบ้าน ขนมหวาน และอาหารแปรรูป ช่วงเย็นผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็น บรรยากาศคึกคักเพิ่งกลับมาไม่นานหลังไร้เสียงระเบิด
อย่างไรก็ตาม ตลาดผลไม้ในพื้นที่กลับเงียบเหงา นายวิศัย ศรีด้วง ชาวกันทรลักษ์ เล่าว่าแผงผลไม้ส่วนใหญ่ยังว่าง ลูกค้าแทบไม่มี และไม่มีคำสั่งซื้อล่วงหน้า จากเดิมที่ร้านเคยเต็มไปด้วยผลไม้จนไม่มีที่เดิน ปัจจุบันเหลือเพียงแผงโล่ง ๆ เขาลดการสั่งซื้อแตงโมจากวันละ 100 ถุง เหลือไม่ถึง 20 ถุง และรถบรรทุกผลไม้ที่เคยเต็มคัน วันนี้ขนมาไม่ถึงครึ่งกระบะ ก่อนปะทะ นายวิศัยลงทุนซื้อผลไม้จากตลาดกลางวันละเกือบ 50,000 บาท แต่หลังเหตุการณ์ ลดลงเหลือไม่ถึง 4,000 บาท เพราะกลัวต้องอพยพฉุกเฉิน สินค้าขายไม่ทันจะเสียหาย
ร้านค้าริมถนน ใกล้แนวปะทะก็ได้รับผลกระทบ ผู้ค้าส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชน เพิ่งกลับมาขายได้ไม่กี่วันหลังอพยพตั้งแต่เหตุปะทะวันแรก นางน้อย ทองปัญญา แม่ค้าขายไก่ย่างในกันทรลักษ์ บอกว่าต้องเร่งขายไก่ให้หมดก่อนเวลาปกติ เพราะยังกังวลสถานการณ์ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ และ เจ้าหน้าที่ชายแดน เธอลดการลงทุนจากเดิมซื้อไก่วันละ 15 ตัว เพราะกลัวขายไม่หมด
ธุรกิจขนาดเล็กในกันทรลักษ์ เช่น ร้านค้าและแผงผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบหาเช้ากินค่ำก็ได้รับผลกระทบหนัก การปะทะชายแดนทำให้ขาดรายได้จากการอพยพนาน และขาดเงินลงทุนใหม่ ฟื้นตัวยากขึ้นเมื่อลูกค้าหายไป

อ่านข่าวอื่น :