ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับตา รับเงื่อนไข "พรรคประชาชน" แล้วเปลี่ยนทีหลัง "พท.-ภท." ชิงความได้เปรียบก่อนเลือกตั้ง

การเมือง
11:19
267
จับตา รับเงื่อนไข "พรรคประชาชน" แล้วเปลี่ยนทีหลัง "พท.-ภท." ชิงความได้เปรียบก่อนเลือกตั้ง
จับตา รับเงื่อนไข “ปชน.” แล้วเปลี่ยนทีหลัง นักรัฐศาสตร์ เชื่อแค่ 4 เดือน มากพอ “พท.-ภท.” ชิงความได้เปรียบก่อนเลือกตั้ง

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เชื่อแม้พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะประกาศรับเงื่อนไข “พรรคประชาชน” แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หลังเป็นรัฐบาลแล้ว ชี้ทุกพรรคต้องการอยู่ยาวและไม่จริงจังเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แต่หวังใช้อำนาจควบคุมกลไกรัฐ-ช่วงชิงงบปี 2568 ลด-แลก-แจก-แถม สร้างคะแนนนิยม มั่นใจรัฐบาลอายุสั้น เหตุไร้เสถียรภาพคุมเสียง ระบุ “ภูมิธรรม” ไม่มีอำนาจยุบสภา-หากทำตอนนี้ “เพื่อไทย” เจ็บหนักสุด

ดร.ปุรวิชญ์ วัฒนสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พยายามช่วงชิงการเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล

โดยพบว่า ทั้งสองพรรคได้ตอบรับเงื่อนไขของพรรคประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภาฯ ภายใน 4 เดือน การจัดให้มีการออกเสียงประชามติและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อปูทางไปสู่การเป็นรัฐบาล แต่เมื่อเป็นรัฐบาลได้แล้ว ทุกพรรคย่อมต้องการที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ดังนั้นสิ่งที่เคยรับปากไว้ ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เช่นเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นต่อกรณีการฉีกบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อปี 2566 พรรคก้าวไกลในขณะที่กำลังพยายามจัดตั้งรัฐบาลและเกิดการข้ามขั้วในที่สุด

การตอบรับเงื่อนไขเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงการต่อรองกันทางการเมืองเท่านั้น เพราะรูปธรรมที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดกว่าสองปีที่ผ่านมาคือ มีเพียงพรรคประชาชนที่เอาจริงเอาจังกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่พรรคเพื่อไทยติดอยู่แค่ขั้นตอนของการตีความ และพรรคภูมิใจไทยก็แทบมองไม่เห็นการขับเคลื่อนเหล่านี้ จึงไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นเพราะยังไม่เห็นเจตจำนงที่จะผลักดันร่วมกันโดยถ้วนหน้าจากทุกฝ่ายทางการเมือง

ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมีอายุสั้นมาก เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมือง เสียงมีความกระจัดกระจาย ไม่ว่าขั้วไหนก็คงไม่สามารถคุมเสียงได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ถึงแม้ว่าระยะเวลาจะสั้น แต่ก็เพียงพอที่จะเข้าควบคุมกลไกรัฐได้ทั้งหมด จึงเป็นผลดีต่อการเลือกตั้งในอนาคต ไม่ว่าพรรคไหนก็อยากเลือกตั้งตอนที่ตัวเองอยู่ในอำนาจ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย หวังจะออกนโยบายลดแลกแจกแถม เพื่อนำไปสู่การหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งถัดไป เพราะรู้ว่าอายุรัฐบาลใหม่เหลือไม่มาก ส่วนตัวคิดว่ากว่าที่รัฐบาลใหม่จะเข้าทำงานได้ก็คงเป็นช่วงปลายเดือน ก.ย. หรือ ต้นเดือน ต.ค. นี้ ซึ่งทันพอดีกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 และหลังจากนั้นจะเป็นช่วงเวลาของการเบิกจ่ายทำผลงานสร้างคะแนนนิยมกันอย่างแน่นอน

ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวอีกว่า หากเกิดการยุบสภาขึ้นในเวลานี้ ผู้ที่บาดเจ็บหนักที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย เพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ได้ทำให้ความไว้วางใจของประชาชนสูญสิ้น และโพลคะแนนความนิยมของรัฐบาลก็ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ยังไม่นับว่านโยบายเรือธงจำนวนมากก็ไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ให้ความหวังไว้

สำหรับข้อถกเถียงเรื่องอำนาจของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจในการยุบสภาหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่สามารถยุบได้ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ให้นายกรัฐมนตรีถวายคำแนะนำ ให้พระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชกฤษฎีกายุบสภา ซึ่งตอนนี้เราไม่มีนายกฯ แต่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ

คำถามแบบหลักรัฐศาสตร์เบื้องต้นเลยก็คือ คำว่านายกรัฐมนตรี กับผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเทียบเท่ากันหรือไม่

มากไปกว่านั้นคือ ยังไม่เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน ที่รักษาการนายกฯ จะมาดำเนินการยุบสภา และเมื่อสืบค้นต่อไปว่า เคยมีประเทศไหนในโลกหรือไม่ ที่เป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภา และมีรักษาการนายกฯ ยุบสภาในช่วงการเมืองอยู่ในสภาวะสุญญากาศ ก็ยังค้นไม่เจอ

อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กล่าวต่ออีกว่า กลไกที่ฝังเอาไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้เปิดช่องให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า นิติสงคราม เพื่อใช้กฎหมายเล่นงานฝ่ายตรงข้าม หนึ่งในนั้นคือความผิดเรื่องการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงที่ตีความได้กว้างขวาง

และตนกล้ายืนยันว่า น.ส.แพทองธาร จะไม่ใช่รายสุดท้ายที่โดน แต่จะมีเพิ่มเข้ามาอีก เพราะได้เล็งเห็นถึงอิทธิฤทธิ์ของความผิดฐานนี้แล้วว่า สามารถทำให้นายกรัฐมนตรีต้องหลุดออกจากตำแหน่งได้ง่ายๆ ถึงสองคน และนี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่รัฐธรรมนูญปี 2560 ได้ออกแบบไว้ ซึ่งทำให้ศักยภาพทางการเมืองของสังคมไทยเกิดความไม่แข็งแรง จนทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่มีเสถียรภาพเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาระยะยาวให้กับประเทศได้

อ่านข่าว : "ภูมิธรรม" ตั้ง ศบ.ทก.หลังปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง

“เพื่อไทย” รับข้อเสนอ “พรรคประชาชน” ตั้งรัฐบาล เดินหน้าจัดการ “คดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.”

“อิ๊งค์” หลุดนายกฯ ทักษิณ “พ่าย” หมดฟอร์ม