วันนี้ (1 ก.ย.2568) รศ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองฯ นิด้า ให้สัมภาษณ์รายการมุมการเมือง ว่าตอนนี้พรรคประชาชนจะใช้อะไรเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ
รศ.พิชายกล่าวว่า คงหนักใจมาก เพราะทั้งสองพรรค เพื่อไทยและภูมิใจไทย ยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนด้วยกันทั้งคู่ เป็นสถานการณ์ที่คาดว่า มันอาจจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ว่า จะตัดสินใจได้ยากสำหรับพรรคประชาชน แต่เกมต่าง ๆ ถ้าจะต้องเลือกว่า จะสนับสนุนใคร หรือจะทางเลือกที่สามว่า ไม่หนุนใครเลยนั้นมีข้อควรพิจารณา
อย่างแรกในแง่ความจริงใจของทั้งสองพรรค พฤติกรรมหลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นตำแหน่ง จะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยแสดงท่าทีที่จริงใจมาก อย่างทันทีทันใด ทั้งหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ไปพรรคประชาชนทันที เจรจาและยอมรับเงื่อนไขโดยไม่แสดงท่าทีงอแงหรือต่อรองเพิ่มเติม
ส่วนพรรคเพื่อไทยยังรีรอ และคาดหวังว่าตัวเองจะยังตั้งรัฐบาลได้ ด้วยการกระชับพรรคร่วมเดิม แต่ไม่สำเร็จ และทำให้พรรคร่วมบางส่วนแตกออกไปอยู่กับภูมิใจไทย และมีความพยายามดีลหลังบ้าน โดย นายทักษิณ ชินวัตร และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ท้ายที่สุดก็ยอมมาเจรจา ดูเหมือนจะมีความกระตือรือร้นที่น้อยกว่าพรรคภูมิใจไทย
ประการที่สองต้องดูประวัติที่ผ่านมา ภูมิใจไทยมีจุดยืนอนุรักษ์นิยมและไม่สอดคล้องกับพรรคประชาชนมากนัก รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญด้วย ที่เขาแสดงท่าทีคัดค้าน ส่วนเพื่อไทยจุดยืนกลับไปกลับมา ตอนเป็นฝ่ายค้านก็หนุนแก้รัฐธรรมนูญ แต่พอเป็นรัฐบาลก็มีท่าทีถ่วงรั้งและทำให้กระบวนการล่าช้า ในแง่นี้ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไร น้ำหนักพอ ๆ กัน
ส่วนที่สามคือ ใครจะมีแนวโน้มรักษาสัญญามากกว่ากัน เพื่อไทยมีประวัติการบิดพริ้วไม่รักษาสัญญามาแล้วกับพรรคก้าวไกลโดยตรง ส่วนภูมิใจไทยไม่มีพฤติการณ์ที่บิดพริ้วกับพรรคประชาชนในอดีต แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือ ภูมิใจไทยเคยไม่รักษาสัญญากับพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน คือการถอนตัวออกมา
ถ้าดูสามประการนี้ และเงื่อนไขการสนับสนุนที่เฉพาะเจาะจง เข้ามาเพื่อยุบสภา ภายใน 4 เดือน ไม่ใช่หนุนให้มีการตั้งรัฐบาลในระยะยาว ประมวลทั้งหมดแล้วคิดว่าพรรคภูมิใจไทยน่าจะถูกเลือกมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเกิดการบิดพริ้วในภายหลัง ด้วยการเติมเสียงจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยกลายเป็นเสียงข้างมากหรือไม่
รศ.พิชายกล่าวว่า มันเกิดขึ้นได้หมด ไม่ว่าสนับสนุนใครก็อาจเกิดกรณีแบบนี้ได้ ในเมื่อมีโอกาสเกิดขึ้นหมด ก็ทำให้ปัจจัยนี้น้ำหนักเท่ากัน
ขั้นตอนของมัน สมมุติว่า วันนี้พรรคประชาชนสนับสนุนภูมิใจไทย มันจะเข้าสู่ห้วงการตัดสินใจอันสำคัญของพรรคเพื่อไทย ว่าจะยุบสภาฯ หรือไม่ หากเพื่อไทยประเมินว่า ตนเองแพ้เขาจะมีความพยายามยุบสภาฯ ตอนนี้พรรคภูมิธรรมยืนยันว่า มีอำนาจด้วย แต่แน่นอนว่า จะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
ถ้ายุบสภาฯ สำเร็จก็จบ ไปเลือกตั้งใหม่ แต่ถ้าไม่สำเร็จและมีคนไปฟ้อง กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีก็จะเดินต่อไป หากเขาไม่ยุบสภาฯ และพรรคประชาชนยังไม่โหวตจนเลือกนายกฯ ไม่ได้ ก็อาจทำให้ภูมิใจไทยกับเพื่อไทยมาเจรจากัน เพื่อไทยอาจต้องยอมภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า ข้อเสนอของพรรคประชาชน จะยิ่งทำให้การเมืองไปต่อได้ยากหรือไม่
นายพิชายกล่าวว่า เป็นข้อเสนอภายใต้เงื่อนไขที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราจะเห็นว่า คนเบื่อหน่ายนักการเมือง
การเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ ด้วยการยุบสภาฯ ก็เหมือนเปิดเวทีการเมืองใหม่อีกครั้งหนึ่ง ได้สร้างความหวังให้ประชาชน อาจมีตัวเลือกใหม่ ๆ เกิดขึ้นในสนามเลือกตั้ง ทางเลือกยุบสภาฯผมว่าเป็นทางเลือกที่จะทำให้ประชาชนมีโอกาส
เมื่อถามว่า ช่วงนี้การเข้าไปหารือกับพรรคประชาชน ไม่เห็นตัวนายชัยเกษม นิติสิริ
นายพิชายกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกับชัยเกษมมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ด้านหนึ่งเขาชูขึ้นมาแต่อีกด้านก็ไม่ใช่ว่าจะไว้วางใจ และไม่ได้มองเห็นศักยภาพนายชัยเกษมเท่าไร เหมือนเป็นตัวแทนที่ไม่มีอำนาจ เป็นนายกฯ ในเชิงสัญลักษณ์ คนกุมอำนาจแท้จริงคือทักษิณ เบื้องหน้าคือภูมิธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครได้ดีลนี้ จะส่งผลได้เปรียบในการเลือกตั้งด้วยไหม
รศ.พิชายกล่าวว่า แน่นอนว่าถ้าอนุทินได้คุมอำนาจรัฐ เขาจะได้เปรียบในสนามเขตเลือกตั้งมาก สส.บ้านใหญ่คงทยอยเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคเพื่อไทยจะแตกสลายโดยเฉพาะบรรดา สส.อีสาน และจังหวัดที่ติดกับชายแดนกัมพูชา ตอนนี้เราเห็นร่องรอยของการย้ายออกมาแล้ว ทั้งที่จะยังตั้งรัฐบาลไม่เสร็จเลย
บรรดา สส.เขตอีสานใต้ คงจะทยอยย้ายมาภูมิใจไทย ส่วนเพื่อไทยคงเสียตรงนี้ และอีกด้านกระแสชาตินิยมที่ดำรงอยู่พอสมควร จะยิ่งทำให้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียงยากขึ้นในอีสาน อาจไม่ชนะเหมือนเดิม
สถานการณ์ที่มีการยุบสภาฯ หากภูมิใจไทยคุมเสียง ก็จะได้เปรียบสูง แต่ถ้ายุบสภาฯ ตอนนี้ พรรคเพื่อไทยยังคุมอยู่ ก็อาจชะลอเลือดที่ไหลได้บางระดับ แม้จะไม่สามารถตรึงไว้ได้เท่าเดิมก็ตาม
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่เพื่อไทยจะร่วมกันตั้งรัฐบาลกับภูมิใจไทย แล้วหานายกฯ คนนอกหรือไม่
รศ.พิชายกล่าวว่า คิดว่าคงไม่หานายกฯ จากคนนอก นายอนุทินจะต้องยืนกรานให้หนุนตัวเองไม่งั้นคงไม่สามารถอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม นายอนุทินก็มีแต้มต่อในแง่ว่า ถ้าทำตามเงื่อนไขพรรคประชาชน ก็มีโอกาสเป็นนายกฯ แต่กรณีที่พรรคประชาชนไม่โหวตก็ยังดำรงแต้มต่ออยู่ดี เพราะเพื่อไทยนั้นสูญเสียความเชื่อถือจากประชาชนมาก ในแง่นี้อนุทินมีแต้มต่อมากกว่าหากสองพรรคเจรจากัน
อ่านข่าว : โหวตนายกฯ ไม่ทัน 3 ก.ย. "วันนอร์" คาดเป็นไปได้ช่วง 4-5 ก.ย.
ทบ.ยันไทยยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง ร้องนานาชาติจับตากัมพูชาใช้โล่มนุษย์
ก.ตร.เคาะชื่อโยกย้ายตำรวจประจำปี 68 "นพศิลป์" ขึ้น พล.ต.ท.- "รุ่งโรจน์" นั่ง ผบช.ตชด.