วันนี้ (3 ก.ย.2568) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว หลังน้ำในแม่น้ำป่าสัก เริ่มลดระดับลง แต่ยังมีบางจุดที่น้ำล้นพนังกั้นของเทศบาลเอ่อท่วมเส้นทางสัญจรและเข้าท่วมชุมชน
ชาวบ้านเริ่มเข้าทำความสะอาดบ้านเรือน และ สำรวจความเสียหายแล้ว หากไม่มีน้ำเข้าเติม คาดว่าวันนี้ ในเขตเมืองหล่มสักจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ขณะที่นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองหล่มสัก คาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักจะค่อยๆ ลดลงต่อเนื่อง คาดว่าน้ำจะกลับไปอยู่ในระดับต่ำกว่าพนังกั้นน้ำ
และหลังจากนี้น้ำในเขตเมืองหล่มสัก จะไหลไปพื้นที่รับน้ำ เขตเทศบาลตำบลปากดุก อ.หล่มสัก ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ เร่งอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงออกจากพื้นที่
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย แจ้งเตือนพื้นที่เริ่มน้ำป่าสักให้เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งในอำเภอหล่มสัก และ 3 ตำบลในอำเภอเมือง
ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะนี้มีหน่วยงานราชการและองค์การต่างๆ 23 หน่วยงาน ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ที่ยังติดค้างอยู่ตามบ้าน และการแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ประสบภัย ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งมีการตั้งโรงครัวทำอาหารไว้ 5 จุด ส่วนความเสียหายมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 50 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัยกว่า 17,000 คน หลังจากนี้อยู่ระหว่างประเมินความเสียหายและให้การช่วยเหลือต่อไป

เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 2 คนเหตุดินถล่มบ้านปางอุ๋ง เชียงใหม่
นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงคืนวันที่ 27 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากเหตุดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
ล่าสุดจากการสำรวจข้อมูลความเสียหาย พบว่าได้รับผลกระทบในพื้นที่ 4 ตำบล 15 หมู่บ้าน 769 ครัวเรือน 2,816 คน มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 157 หลัง มีผู้เสียชีวิต 8 คน ได้บาดเจ็บ 15 คน (กลับบ้านแล้ว 8 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 7 คน) และสูญหาย 2 คน ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งค้นหาร่างผู้สูญหายอยู่ โดยมีการกำหนดพื้นที่และจะขุดเปิดหน้าดินเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหายที่คาดว่าจมอยู่ใต้โคลนต่อไป และคาดว่าจะสามารถพบร่างได้ในเร็วๆ นี้

ส่วนแผนการฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ กรณีผู้ที่เสียชีวิตจะได้รับเงินสงเคราะห์ เยียวยาตามระเบียบและหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด และสำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 33 หลัง ทางภาครัฐจะดำเนินการสร้างบ้านให้ใหม่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการสำรวจพื้นที่ดูค่าความชื้นในดินว่าจุดไหนจะเหมาะกับการสร้างบ้านเรือนให้ประชาชนและมีความสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้ทุกหน่วยงานได้ระดมสรรพกำลังพล เครื่องจักร และทรัพยากรต่างๆ มาช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัย เร่งเคลียร์พื้นที่และเศษซากอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายออกจากพื้นที่ ฉีดล้างทำความสะอาดให้กลับคืนสภาพเดิมโดยเร็ว

ขณะที่เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 2 ก.ย. เพจวิทยุจราจร จราจรเพื่อชุมชนเชียงใหม่ ระบุเทศบาลตำบลช้างเผือก แจ้งเตือนเร่งด่วนถึงประชาชนชาวชุมชนไฟแดงช่างเคี่ยนเจ็ดยอด ขณะนี้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องบนดอยสุเทพ ส่งผลให้น้ำป่ากำลังไหลแรงลงมาจากดอยสุเทพ น้ำป่ากำลังหลากลงอย่างส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำรอระบาย ช่างเคี่ยน-เจ็ดยอด ถนนคันคลองมุ่งหน้าแยกภูคำ ต.ช้างเผือก รวดเร็ว ขอให้ประชาชนในพื้นที่ รีบยกของขึ้นที่สูงทันที ด้านเจ้าหน้าที่เร่งระบายแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (3 ก.ย.) เวลา 06.30 น. ถ.คันคลอง-ช่างเคี่ยน- เจ็ดยอด-แยกภูคำ สัญจรได้ปกติไม่มีน้ำรอการระบาย
อ่านข่าว :
"หล่มสัก" ระดับน้ำยังสูง เร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง-เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบาง
น้ำท่วมหล่มสักยังอ่วม กระทบ 1.7 หมื่นคน จนท.ช่วยเด็ก 3 คนติดต้นไม้กลางทุ่งนา