ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"เท้ง" ขอ "ภูมิธรรม" ชัดเจนปมทูลเกล้าฯ ยุบสภา จี้ "ศุภชัย-สุรทิน" ถอนแจ้งความ

การเมือง
10:08
685
"เท้ง" ขอ "ภูมิธรรม" ชัดเจนปมทูลเกล้าฯ ยุบสภา จี้ "ศุภชัย-สุรทิน" ถอนแจ้งความ
อ่านให้ฟัง
02:31อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ณัฐพงษ์" เรียกร้อง "ภูมิธรรม" ชัดเจนกรณียังเดินหน้ากระบวนยุบสภา หรือไม่ ไม่เห็นด้วยที่จะใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการกลั่นแกล้ง หรือ นิติสงคราม จี้ "ศุภชัย-สุรทิน" ถอนคำฟ้องกระทำผิด มาตรา 112 และ มาตรา 157

วันนี้ (4 ก.ย.2568) เวลา 09.45 น.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวระบุว่าหลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในการประชุมในวันที่ 5 ก.ย.2568 ประกอบกับพรรคเพื่อไทยได้มีมติในการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตามระเบียบวาระที่จะถึงนี้ แต่กลับมีกระแสข่าวเมื่อวาน (3 ก.ย.) เกิดขึ้นว่าทางรัฐบาลเตรียมที่จะเสนอความเห็นเพิ่มเติม ต่อสำนักองคมนตรีเพื่อยืนยันว่ารัฐบาลปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการทูลเกล้าฯ ยุบสภา

พรรคประชาชนมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า 1. ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีหรือรักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการยุบสภา แต่อย่างไรก็ตาม ทางพรรคประชาชนไม่ได้มีอำนาจตีความในเรื่อง แต่เป็นอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือสภาพความไม่ชัดเจน จากการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 ก.ย. กับกรณีที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ แต่สิ่งที่วันนี้มีความชัดเจนแล้วคือระเบียบ วาระกำลังเดินหน้าสู่การโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือพรรคเพื่อไทย หรือนายภูมิยังคงเดินหน้ากระบวนการยุบสภาอยู่หรือไม่

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังวล หรือความขัดแย้งในข้อกฎหมายหรือการดำเนินการต่อจากนี้ สิ่งหนึ่งจึงเรียกร้องไปยัง นายภูมิธรรมและรัฐบาลเพื่อเกิดความชัดเจน เพื่อการเดินหน้าประชุมในวันพรุ่งนี้เป็นไปด้วยความถูกต้องที่สุด

"อยากได้ความชัดเจนว่าตอนนี้รัฐบาลยังคงเดินหน้ากระบวนการยุบสภาอยู่หรือไม่ แต่ถ้ากระบวนการหรือการโหวตนายกรัฐมนตรี หรือการยุบสภาฯ ยังคงไม่เกิดความชัดเจนอยู่แบบนี้ต่อไป เห็นควรว่าควรจะต้องตามระเบียบวาระที่ได้มีการบรรจุวาระการประชุม โดยใช้อำนาจประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ได้บรรจุไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยต่อไปในวันพรุ่งนี้" 

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เมื่อวาน (3 ก.ย.) สิ่งที่เกิดขึ้นเห็นว่ามีการดำเนินคดีมาตรา 112 กล่าวโทษนายภูมิธรรมโดยนายสุรทิน พิจารณ์ และการดำเนินคดีกล่าวโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยนายศุภชัย ใจสมุทร โดยพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยที่ใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการดำเนินคดีดังกล่าว ดังนั้นอยากเรียกร้องขอให้ทั้ง 2 คน ถอนคำกล่าวโทษในการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อสร้างบรรยากาศที่เราสามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ เพราะไม่เห็นด้วยกับการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้ง หรือดำเนินการนิติสงครามไม่ว่ากับฝ่ายใด

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ โหวตนายกรัฐมนตรีแข่งในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ด้วยว่า การดำเนินการของพรรคเพื่อไทยอาจมีการย้อนแย้งในตัวเอง ทั้งที่พรรคเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีกระแสข่าวว่ายังดำเนินการเรื่องการยุบสภา เป็นสิ่งที่ต้องเรียกร้องเพื่อขอความชัดเจนจากนายภูมิธรรม ว่าตกลงยุติการยื่นยุบสภาฯ แล้วหรือไม่ และได้ยินกระแสข่าวว่ามีการนำความเห็นประกอบเพิ่มเติมไปยังสำนักองคมนตรี จึงต้องการความชัดเจนในตอนนี้ ว่ายุติการยื่นยุบสภาฯแล้วหรือไม่แล้วเดินหน้าสู่กระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่

และย้ำว่ามติของพรรคประชาชนสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ยังยืนยันอย่างหนักแน่นอีกหนึ่งครั้ง ว่ามติของพรรคประชาชนที่รับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน ได้ไตร่ตรองและทบทวนอย่างดีแล้ว แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่ในสภาพสิ่งที่พรรคเห็นว่าอำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการยุบสภา แต่รัฐบาลยังมีการกระทำที่ย้อนแย้งและเกิดความไม่ชัดเจน จึงต้องการให้มีความชัดเจนก่อน หากรัฐบาลยังคาราคาซังไม่ทำให้เกิดความชัดเจน พรรคประชาชนเห็นว่าควรเดินหน้าโหวตนายกรัฐมนตรีตามวาระในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.)

เชื่อว่าในนามพรรคประชาชนแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ในขณะนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมกับชี้ว่าการที่พรรคประชาชนจะเป็นนั่งร้านตามข้อสังเกตหรือไม่อยู่ที่การแสดงออกของประชาชนเองในสภา ซึ่งเป็นการแสดงออกให้เห็นว่าใช้เสียงที่มีในการกำกับทิศทางทางออกทางการเมืองได้อย่างไร ยอมรับว่าภายนอกสภาพรรคประชาชนไม่สามารถไปห้ามคนที่จะยื่นฟ้องร้องได้

โดยย้ำว่าการเซ็น MOA ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นการร่วมรัฐบาล แต่เมื่อไหร่เห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูกต้องขัดกับหลักการก็จะใช้เสียง 143 สส.ในการกำกับทิศทางให้รัฐบาลเดินไปในทิศทางที่คิดว่าถูกต้อง และจากการแถลงข่าวครั้งนี้เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วม จะได้เห็นสัญญาณที่ได้ส่งไป และหากมีการฝ่าฝืนข้อตกลงก็พร้อมที่จะดำเนินการยื่นอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ทันที เช่นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อล้างคดีให้กับกลุ่มผลประโยชน์พวกพ้องเอง เป็นสิ่งที่ภาคประชาชนยอมรับไม่ได้

ส่วนการดำเนินการหลังที่จะทำให้คะแนนนิยมของพรรคประชาชนเพิ่มมากขึ้นและเข้าใจสิ่งที่พรรคประชาชนจำเป็นต้องดำเนินการเป็นไปเพื่ออะไร เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจดี พร้อมกับยืนยันว่าประชาชนได้ประเมินฉากทัศน์ทางการเมืองอย่างรอบด้าน จากข้อเสนอของพรรคประชาชนเป็นข้อเสนอที่มองเห็นและเสนอไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ 2 เดือนที่ผ่านมา จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอด และเห็นว่าทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ ไม่ใช่กับพรรคประชาชน

ส่วนหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ยังไม่ได้คิดไปไกลว่าจะจับมือกับพรรคการเมืองใด แต่คิดตอนนี้ในการเดินหน้านำไปสู่การยุบสภาพร้อมกับการเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้นคือการเสนอนโยบายและรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ได้ สส. ในสภามากที่สุดถึงบอกได้ว่าหน้าตาของรัฐบาลในอนาคตจะเป็นอย่างไร ตอนนี้สิ่งที่สามารถบอกได้ในนามหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมที่จะลงสนามการเลือกตั้ง และเป้าหมายคือการได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

อ่านข่าว :

เปิดขั้นตอนโหวต "นายกรัฐมนตรี คนที่ 32"

“วันนอร์” บรรจุวาระโหวตนายกฯ คนที่ 32 วันที่ 5 ก.ย.นี้

"ภูมิธรรม" ไม่ให้สัมภาษณ์ หลังมีกระแสข่าว​สำนักองคมนตรี ตีกลับ​ ร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา