ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“อนุทิน” ลอยลำนั่งนายกฯ “ชัยเกษม” ปราชัย “ทักษิณ” พ่ายยับ

การเมือง
20:01
73
“อนุทิน” ลอยลำนั่งนายกฯ “ชัยเกษม” ปราชัย “ทักษิณ” พ่ายยับ
แม้จะเปิดโปรแรง พร้อมยุบสภาทันที หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากโหวตเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ

ต่อเนื่องจากการจุดพลุ ต่อต้านอำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง ขวางกั้นการถวายพระราชกฤษฎีกายุบสภาของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ

แต่สุดท้ายไม่บรรลุผล การลงคะแนนด้วยการขานชื่อ สส.ทีละคน ปรากฏว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคภูมิใจไทย ออกสตาร์ทนำตั้งแต่ต้นจนจบ รวดเดียว ได้ไป 311 เสียง ขณะที่นายชัยเกษม ได้เพียง 152 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง จากสส.ทั้งหมด 490 คน

นอกจากแพ้แบบลุ้นไม่ขึ้นแล้ว ยังน่าเจ็บปวดที่หนึ่งในเสียงที่ไม่โหวตหนุน ทั้งที่อยู่พรรคเดียวกัน แต่ไปโหวตให้นายอนุทิน คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนดังแห่ง “บ้านใหญ่บางบอน”

ส่วนที่งดออกเสียง ส่วนใหญ่เป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายชวน หลีกภัย

ทั้งที่เลขาธิการรพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง ออกตัวแรง เป็นหนึ่งในทีมไปเจรจาที่พรรคประชาชน พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย จนถูกหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ้อน ดิสก์เบรกจนหัวทิ่ม

สาเหตุที่กลายเป็นมวยคนละชั้น สำหรับนายชัยเกษม ส่วนหนึ่งเกิดจากเรื่องในอดีตที่เคยทำกับพรรคประชาชน เมื่อครั้งเป็นพรรคก้าวไกล เรื่องจับมือตั้งรัฐบาล ก่อนสุดท้ายจะเขี่ยพรรคสีส้มทิ้ง ไปจับมือกับขั้ว “2 ลุง” ซึ่งคนส่วนใหญ่ในพรรคไม่ลืม

ประกอบกับการเจรจาให้พรรคสีส้มพิจารณาจะเลือกใคร ปรากฎว่า มีการเปิดโปรแบบกะปริดกะปรอย ปรับเพิ่มทีละนิด จึงไม่อาจมัดใจได้ ต่างจากพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศยอมรับ 3 เงื่อนไข ตั้งแต่วันแรก

แต่พรรคเพื่อไทย เพิ่งมาเปิดโปรแรง 'ยุบสภาทันที' ไม่ต้องรอ 4 เดือนก็ต่อเมื่อสายไปแล้ว

ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่งผลต่อความปราชัยแบบยับเยินครั้งนี้ คือ การบินออกนอกประเทศของ “นายใหญ่” นายทักษิณ ชินวัตร ผู้มากบารมีตัวจริง ที่จู่ ๆ ก็มีข่าวโดน ตม.ไทย หรือตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กักตัวไว้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) นานเกือบ 2 ชั่วโมง

จนเจ้าตัวต้องโพสต์และอ้างเหตุผล ทำให้เดินทางออกนอกประเทศล่าช้า ไปลงที่สิงคโปร์ไม่ทัน จึงเปลี่ยนไปลงที่ดูไบแทน

ไม่ว่าการอ้างเรื่องจะไปตรวจสุขภาพที่ทำทุกปีที่สิงคโปร์ แต่สุดท้ายจะได้ไปเจอหมอที่เคยรักษาอาการป่วย ก่อนกลับประเทศไทยที่ดูไบ จะเป็นความจริงหรือแค่แก้เกี้ยวก็ตามที แต่ผลพวงการบินไปต่างประเทศด้วยเครื่องบิน Jet ส่วนตัว ส่งผลต่อความมั่นใจที่ลดลงทันทีสำหรับ สส.พรรคเพื่อไทย และมวลชนเสื้อแดง ที่เป็นแนวร่วมมาแต่ไหนแต่ไร

เพราะด้านหนึ่งอาจถูกตีความได้ว่า เกรงจะไม่รอดคดีชั้น 14 จึงเป็นความตั้งใจ หรือหวังไปตั้งหลัก หรือไปเพื่อประเมินสถานการณ์ ในคดีนี้ ซึ่งศาลนัดฟังคำพิพากษา 9 ก.ย.นี้

แต่ได้กลายเป็นเรื่องในเชิงลบ เพราะแทนที่จะยืนหยัดสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ให้กำลังใจลูกน้อง กลายเป็นถูกมองว่า เผ่นเอาตัวรอดไปตั้งหลักในต่างประเทศก่อน

แม้เจ้าตัวจะยืนยันกลับมาฟังคำตัดสินของศาล 9 ก.ย.แน่ ๆ แต่บรรยากาศการรับมือศึกชิงตำแหน่งนายกฯ ในพรรคเพื่อไทย ที่สภาฯ เมื่อเช้าวันศุกร์ (5 ก.ย.) ดูกร่อยไปถนัดตา

ก่อนผลลัพธ์จะออกมาอย่างที่เห็น

ไม่เพียงนายชัยเกษม จะปราชัยอย่างสู้ไม่ได้เท่านั้น แต่นัยส่งผลสะท้อนมากกว่านั้น คือความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของนายทักษิณ

บารมี อำนาจ เกียรติยศ ชื่อเสียงที่เปี่ยมล้นในอดีต พลันหายวับไปสิ้น

และมีแนวโน้มจะติดลบจมดิน หากไม่รอดคดีชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย. หรือหากเจ้าตัวหายวับเข้ากลีบเมฆ ไม่มาปรากฏตัวในวันพิพากษา

ตอกย้ำ “โลกธรรม 8” มียศ เสื่อมยศ มีลาภ เสื่อมลาภ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : 6 ก.ย.นี้ "วันนอร์" ทูลเกล้าฯ ชื่อ "อนุทิน" นั่งนายกฯ คนที่ 32

เปิดเสียงโหวต "อนุทิน" ภท.ไม่แตกแถว-ปชน.มาครบ 143 สส.

"อนุทิน" เปิดใจหลังได้รับเสียงหนุนนั่งนายกฯ คนที่ 32 ขอออกสภาฯ ไปกราบพ่อ