ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กพท.ยังห้ามบินโดรนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน-พื้นที่ความมั่นคง

การเมือง
15:06
81
กพท.ยังห้ามบินโดรนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน-พื้นที่ความมั่นคง
กพท. ออกประกาศฉบับที่ 6 ยังคงห้ามบินโดรนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน และพื้นที่ความมั่นคง ถึงวันที่ 30 ก.ย.68

วันนี้ (13 ก.ย.2568) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง "ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา" โดยยกเลิกประกาศฉบับที่ 5 ที่มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 ก.ย. 2568 ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

การขยายเวลาประกาศครั้งนี้มีขึ้นตามการประสานงานจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ยังคงเห็นความจำเป็นในการควบคุมพื้นที่บางส่วนเพื่อรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประเทศ ขณะเดียวกัน CAAT ตระหนักถึงความจำเป็นของประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการที่ต้องใช้งานโดรนในชีวิตประจำวันและภาคการเกษตร จึงผ่อนคลายให้สามารถทำการบินได้ในเกือบทุกพื้นที่ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

พื้นที่ที่ยังคงห้ามบินเด็ดขาด

• 5 จังหวัดชายแดนที่ประกาศกฎอัยการศึกหรือมีกองกำลังภาคพื้น ได้แก่ สระแก้ว บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี

• พื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี, อ.เมือง จ.ระยอง, อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ และ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี

• พื้นที่รัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบิน รวมถึงสนามบินโคกกระเทียม จ.ลพบุรี และสนามบินประจวบฯ

• พื้นที่ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงประกาศเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะ

มีเงื่อนไขสำคัญในการปฏิบัติการบิน

• ผู้ใช้งานต้องขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรนและอากาศยานกับ CAAT ให้ถูกต้องครบถ้วน

• ยื่นคำขออนุญาตและแจ้งรายละเอียดพื้นที่ วันเวลา และวัตถุประสงค์การบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ผ่านระบบ UAS Portal (uasportal.caat.or.th) และแจ้งต่อ ศูนย์ต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (ศบตอ.น.) อีเมล: antidrone.police@gmail.com

• สามารถบินได้ในเวลา 06.00–18.00 น. หากต้องการบินนอกช่วงเวลาดังกล่าว ต้องขออนุญาตจาก CAAT แต่ห้ามบินในช่วงเวลา 00.01–04.00 น. ทุกกรณี

• การปฏิบัติการบินที่แตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนด ต้องยื่นคำขออนุญาตเพิ่มเติมต่อ CAAT ผ่าน UAS Portal
สำหรับโดรนของราชการทหาร ตำรวจ ศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรฯ และสำนักข่าวกรองฯ สามารถปฏิบัติการได้ตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้เฉพาะโดรนของศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ หากมีการบินในพื้นที่ห้ามบิน ต้องแจ้งข้อมูลล่วงหน้าผ่าน UAS Portal และต่อ ศบตอ.น. รวมถึงหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ

หากพบเห็นการใช้งานโดรนที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรืออาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ ให้แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น ลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็วผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้

• กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 02-568-8851 หรืออีเมล uas_us@caat.or.th

• ศูนย์บังคับและต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศบตอ.น.) โทรศัพท์ 02-126-7846 หรืออีเมล antidrone.police@gmail.com

• ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ

CAAT ย้ำว่า การออกประกาศฉบับนี้เป็นการดำเนินการตามข้อเสนอของหน่วยงานความมั่นคง เพื่อให้มาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของประเทศมีความรัดกุมมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน CAAT เข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ใช้งานโดรน เร่งพัฒนาระบบ UAS Portal และขั้นตอนการขออนุญาต ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และสอดคล้องกับการใช้งานจริง เพื่อให้การใช้งานโดรนในประเทศไทยมีทั้งความปลอดภัย มั่นคง  

อ่านข่าว : "ประชาธิปัตย์" แจงปม "เฉลิมชัย" ลาออกหัวหน้าพรรค​เหตุปัญหาสุขภาพ​

ผู้ต้องสงสัยยิง "ชาร์ลี เคิร์ก" สารภาพกับพ่อ ก่อนถูกจับกุม

“ศ.ดร.พวงทอง” แนะไทยควรเปิดด่าน เพื่อผลประโยชน์เศรษฐกิจของไทยเอง