ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

หวัง “มาร์ค” นำประชาธิปัตย์ฟื้นคืนชีพ คิดง่ายแต่ทำได้ยาก

การเมือง
12:43
77
หวัง “มาร์ค” นำประชาธิปัตย์ฟื้นคืนชีพ คิดง่ายแต่ทำได้ยาก
จดหมายลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส่งผลสะเทือนต่อพรรคค่ายสีฟ้าแน่ ๆ อย่างน้อยต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

ทั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมทั้งเลขาธิการพรรค ที่หัวหน้าพรรคจะเป็นคนเสนอ

การลาออกจากหัวหน้าพรรคของ “เสี่ยต่อ” ให้เหตุผลมีปัญหาสุขภาพ จะส่งผลต่อการทำงาน ท่ามกลางความงุนงงของคนใกล้ชิด และคนในพรรค เพราะที่ผ่านมาก็เห็นเขาทำงานได้ตามปกติ

แต่เรื่องเกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาความเป็นเอกภาพในพรรค เมื่อเขาไม่เห็นด้วยกับการเดินทางไปเจรจาเรื่องขอเสียงสนับสนุนโหวตเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ ที่พรรคประชาชน กับคณะของพรรคเพื่อไทย ของนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ หรือไม่

ทั้งย้ำว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค เขาได้รับฉันทามติ เป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกทางไหน หรือจะหนุนใคร

จนกลายเป็นว่า มีสุ้มเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเรื่องปัญหาทางการเมือง หรือเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับนายเดชอิศม์หรือไม่

แต่ที่ชัดเจนที่สุด คือ ประชาธิปัตย์เสียงแตกยับแบ่งเป็น 2 ฝ่ายอีกครั้ง เมื่อมี สส.4 คนโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ สวนทางกับมติพรรคที่ให้งดออกเสียง

ที่สำคัญ 3 ใน 4 คนก็เป็น สส.ในสังกัดกลุ่มใหญ่ ที่เคยโหวตหนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ มาแล้ว

กระทั่งมีข่าวลูกสาวนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตแกนนำรุ่นใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ และบิดาของนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา ซึ่งเป็นอีก 1 ใน 4 ที่โหวตหนุนนายอนุทิน มีชื่อจะได้เป็นรัฐมนตรีใน ครม. ก่อนจะเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย

ที่ถูกจับตาเช่นเดียวกัน คือภาพการพบปะและโพสต์ภาพร่วมกัน ระหว่างอดีต สส.ประชาธิปัตย์ กทม. ซึ่งปัจจุบันไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายอนุชา บุรพชัยศรี และนายสามารถ มะลูลีม กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งมีการนำไปเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียล ไล่เลี่ยกับข่าวนายเฉลิมชัย ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค

จุดกระแส “มาร์ครีเทิร์น” เพื่อฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์อีกรอบ หลังมีความพยายามมาหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ล่าสุด คือการประชุมใหญ่สามัญของพรรค โหวตเลือก “เสี่ยต่อ” เป็นหัวหน้าพรรค

ข่าวนี้มีอดีตแฟนคลับของพรรคและเอฟซีนายอภิสิทธิ์ ตลอดจนคนในพรรคอย่างนายชวน หลีกภัย ออกมาขานรับไม่น้อย เพราะด้านหนึ่งต่างเชื่อกันว่า เลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า ปชป.จะถดถอยลงมาอีก และอาจจะได้ สส.ต่ำกว่าหลักสิบด้วยซ้ำ

แต่ความคาดหวังนี้ ก็ใช่ว่าจะง่ายดายในทางปฏิบัติ และเป็นฝันที่อาจไม่เป็นจริงก็ได้ ในเมื่อโหวตเตอร์ หรือผู้มีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงมีการกำหนดสัดส่วนการโหวตเอาไว้

โดย สส.จะมีสัดส่วนผลโหวต 40 % ลดลงจากเดิมที่สูงถึง 70 % ส่วนกรรมการบริหารพรรคมีสัดส่วนการโหวต 20 % และอีก 40 เป็นสัดส่วนของสมาชิกพรรคที่เป็นโหวตเตอร์

แม้สัดส่วนของกลุ่มที่มีสิทธิ์โหวตเลือก (โหวตเตอร์) จะเปลี่ยนแปลงไป จากเมื่อครั้งนายเฉลิมชัยได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อปลายปี 2566 แต่ในทางปฏิบัติ หาก สส.ปัจจุบัน ยังรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน และมีแนวร่วมในกลุ่มกรรมการบริหารพรรค หรือแม้กระทั่งสมาชิกพรรคที่เป็นโหวตเตอร์ โอกาสที่คนไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางอำนาจของพรรค อย่างนายอภิสิทธิ์ ที่ออกไปจากพรรคเกือบ 2 ปีแล้ว จะได้กลับมาใหม่ ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

ไม่เพียงจุดขายที่จะชูธงนำในสนามเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องฐานเสียงปัจจุบันของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะอยู่ที่ใด

กรุงเทพฯ ก็ถูกพรรคสีส้ม ยึดครองไว้ได้เกือบทั้งหมดแล้ว

ภาคใต้ที่เคยเป็นฐานเสียงหลักค่ายสีฟ้า ตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจนแทบไม่เหลือของเดิม หนำซ้ำ ยังเป็นพื้นที่การแข่งขันรุนแรงไม่แพ้ภาคอื่น

ความหวังจะพลิกฟื้นประชาธิปัตย์ โดย มาร์ค-อภิสิทธิ์ จึงอาจไม่ต่างจากเข็นครกขึ้นภูเขา

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : นักกฎหมาย จ่อส่ง 3 คำร้องให้ "พท." ให้ สส.เข้าชื่อถอดถอน "อนุทิน"

"ทนายความ" ยืนยัน "ทักษิณ" ไม่มีสิทธิพิเศษ ยังไม่ถึงเวลาขอคุมขังนอกเรือนจำ

"แพทองธาร-พินทองทา-คุณหญิงพจมาน" เข้าเยี่ยม "ทักษิณ"