วันนี้ (15 ก.ย.2568) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวพระวัดใน จ.ปทุมธานี มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ซึ่งโอนเงินเข้าบัญชีสีกาคนหนึ่ง ว่า ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว โดยมีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร โดยสิ่งที่ต้องตรวจสอบหลัก ๆ คือ เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย นำหลักฐานออกมาเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเจ้าตัวมาสอบถามข้อมูลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน คาดว่าอีกไม่นานจะมีความชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2561 โดยมีสีกาคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งสีกาคนนี้ถูกพระลูกวัดแห่งหนึ่ง จ.ปทุมธานี ฟ้องแพ่งเกี่ยวกับเงินของวัด เนื่องจากพระรูปดังกล่าว ได้โอนเงินจำนวนประมาณ 12.2 ล้านบาท เข้าบัญชีของสีกา
กระทั่งพระอยากให้สีกาโอนเงินกลับเข้าบัญชีส่วนตัวของพระจำนวน 13 ล้านบาท แต่สีกาไม่โอนคืน ทางพระจึงแจ้งความคดีแพ่ง อ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินค่าเดินทาง เงินเดือน และค่าอาหารแมว
ต่อมาสีการู้ว่าเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินส่วนตัวของพระ แต่เป็นเงินของวัด จึงได้มีการปรึกษาทนายความก่อนจะมาแจ้งความกลับไว้ เมื่อประมาณต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขบวนการนี้พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 9 คน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า อยากฝากถึงพระรูปดังกล่าว ว่า หากอยากมาชี้แจงความบริสุทธิ์ก็เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจได้ เพราะหากไม่เข้ามาให้ข้อมูลอาจถูกดำเนินคดี เนื่องจากตำรวจพบข้อมูลและพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าพระรูปดังกล่าวมีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิด
อ่านข่าว : "บิ๊กเต่า" เร่งสอบปมพระโยงเงินบริจาค รับมีร้องเรียนกว่า 500 เคส
แท็กที่เกี่ยวข้อง: