วันนี้ (18 ก.ย.2568) นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม นำปัญหาส่วยสัญชาติ หรือ ส่วยชายแดนมาสะท้อนให้เห็น โดยอ้างอิงจากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบข้อร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการเรียกสินบนรับส่วย ตั้งแต่ 3,000 ถึง 40,000 บาท หากนับจำนวนประชาชนที่ต้องขอสัญชาติกว่า 483,626 คน ก็จะเป็นเงินเรียกสินบนกว่า 2,500 ล้านบาท
พร้อมเปิดเผยว่าได้พูดคุยกับนายอนุทิน ชาวีรกุล นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้คำตอบว่าตอนนี้ยังไม่มีมีอำนาจเต็มจึงขอให้นายกเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน เนื่องจากในวันนี้ยังไม่มีมาตรการใดจัดการกับบุคคลที่เรียกรับสินบน และจากข้อมูลพบจังหวัดเดียวที่ประชาชนร้องเรียนมา แต่ยังมีประชาชนที่ต้องดำเนินการขอสัญชาติอีกในหลายจังหวัด นอกจากการแก้ไขปัญหาที่ระบบราชการแล้ว นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ต้องมีเจตจำนงทางการเมืองในการปราบปรามคอร์รัปชัน
นายกัณวีร์ จึงมีข้อเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะว่าที่ รมว.มหาดไทย 5 เรื่อง คือ 1. การกำจัดคอร์รัปชันไม่ให้เกิดส่วยสัญชาติ 2. สร้างมาตรฐานจากส่วนกลางที่มีมาตรการส่งรายชื่อกำหนดคิวที่ชัดเจนไม่ให้เกิดช่องทางในการทุจริตโกงกิน 3. ทำอำเภอเคลื่อนที่ เพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงบริการของภาครัฐได้มากขึ้น 4. สนับสนุนงบประมาณและกำลังพลให้กับนายอำเภอจัดการอย่างเป็นระบบ และ 5. ชี้แจงกรอบดำเนินการของภาครัฐให้ชัดเจนแก่ประชาชน
สำหรับวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ยังไม่มีการตั้งกระทู้ถามสด ซึ่งต้องรอ ครม.ชุดใหม่เข้ามาทำงานก่อน ซึ่งมีวาระพิจารณาร่างกฎหมาย เช่น ร่างกฎหมายบริหารบุคคลส่วนท้องถิ่น และร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมในช่วงบ่าย
สาระสำคัญเกี่ยวกับสิทธิ์การลาของลูกจ้างให้มีความเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ และกำหนดให้นายจ้างจัดสถานที่ให้นมบุตรหรือปั๊มนมด้วย รวมถึงสิทธิ์ลาหยุดพักผ่อนประจำปี ซึ่งวันนี้กลุ่มเครือข่ายแรงงาน 2 กลุ่ม จะเข้ายื่นหนังสือถึงนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่ขอให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย
อ่านข่าว : ผบ.ตร.ห่วงใยตำรวจเจ็บ 4 นาย เหตุมวลชนกัมพูชารื้อรั้วบ้านหนองหญ้าแก้ว