เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2568 The cambodai daily อ้างอิงรายงานของสื่อต่างประเทศ The Diplomat ซึ่งเป็นสื่อจากกรุงวอชิงตัน ระบุว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตของกัมพูชา ซึ่งดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลา 2 ปี 27 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.2566 หลังจากรับช่วงต่อจาก ฮุน เซน ผู้เป็นบิดา ยังไม่สามารถนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากปัญหาคอร์รัปชัน ความยากจน และการขาดหลักนิติธรรมได้
โดย The Diplomat รายงานเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2568 ว่า กัมพูชายังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดในโลก โดยอยู่ในอันดับที่ 158 จากดัชนีคอร์รัปชันระดับโลก และอันดับที่ 141 จากการจัดอันดับหลักนิติธรรมของ World Justice Project ปี 2567 ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ระยะยาวของประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน
ในช่วง 2 ปีของการบริหารประเทศ ฮุน มาเนต ถูกวิจารณ์ว่ามีการใช้การปราบปรามทางการเมือง โดยมีการจับกุมและจำคุกสมาชิกฝ่ายค้าน นักสหภาพแรงงาน นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม และนักปกป้องสิทธิที่ดินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถูกมองว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพและทำให้ประชาธิปไตยในกัมพูชายังคงเป็นเพียงความหวังที่เลือนราง
นอกจากนี้ The Diplomat ยังระบุว่า ความหวังของกัมพูชาที่จะก้าวสู่สถานะประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับล่างกำลังเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากภาษีใหม่ของสหรัฐและการลงทุนจากต่างชาติที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว และยังสะท้อนถึงอดีตอันเจ็บปวดของกัมพูชาในยุคเขมรแดง แต่ระบุว่าในปัจจุบัน ประเทศกำลังเผชิญกับการปกครองแบบเผด็จการรูปแบบใหม่ที่จำกัดสิทธิของประชาชน
ด้าน The Cambodia Daily รายงานว่า นักวิเคราะห์และนักการเมืองฝ่ายค้านมองว่า การบริหารของฮุน มาเนต ยังคงอยู่ภายใต้อิทธิพลของอดีตผู้นำประเทศ ฮุน เซน
ซึง เซนการุณา ประธานองค์กรประชาธิปไตยเขมร กล่าวว่า ฮุน มาเนต ยังไม่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำประเทศอย่างอิสระ และดูเหมือนเป็นผู้นำที่ยังอยู่ในช่วงฝึกหัด เนื่องจากบิดายังคงมีอำนาจควบคุมอย่างเด็ดขาด
อ่านข่าวอื่น :
"เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ" กรมบัญชีกลาง จ่ายซ้ำ 3 รอบ เฉพาะรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ
นายกฯ นำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ 24 ก.ย.