วันนี้ (19 ก.ย.2568) พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีพื้นที่พิพาทชายแดนจันทบุรี และตราด ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ โดยเฉพาะการสร้างกาสิโนที่รุกล้ำพื้นที่อ้างสิทธิ์ของไทย ว่า อยากให้สื่อมวลชนได้ลงไปดูพื้นที่จริงที่ จ.ตราด ซึ่งมีหลายจุดที่มีการเคลมซ้อนกันอยู่ และผู้ที่รับผิดชอบได้ทำหนังสือประท้วง แต่การประท้วงยังไม่เกิดผลอะไร ซึ่งหลายพื้นที่มาก ตั้งแต่บริเวณเขื่อนและอาคาร ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ต้องไปเจรจากับฝ่ายกัมพูชาว่าจะจัดการกับพื้นที่ดังกล่าวอย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจน
ผบ.ทร.กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในโหมดของการเจรจา เราก็ต้องเคารพกติกา แต่หากเจรจากันไม่รู้เรื่อง ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะปรับโหมดหรือไม่ รวมถึงนานาชาติ อีกทั้งจะทำอย่างไรให้แต่ละประเทศรู้ว่าอาณาเขตของตัวเองเป็นอย่างไร หากกัมพูชาเข้าร่วมสำรวจเส้นเขตแดนที่ชัดเจนก็จะเป็นช่องทางที่ดี และนำไปสู่แนวทาสันติ แต่หากไม่ร่วมฯ ก็ต้องดูว่าไทยมีมาตรการอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าไทยปล่อยให้มีการสร้างกาสิโนขนาดใหญ่มาได้อย่างไร อีกทั้งมีการตัดถนนเชื่อมต่อ ผบ.ทร.ระบุว่า ทั้งหมดอยู่ที่ข้อตกลง และต้องรอการเจรจาแนวทางว่าต้องการรื้อ หรือทุบบางส่วน หรือใช้อาคารร่วมกันคนละครึ่ง
เมื่อถามย้ำว่าตัวอาคารกาสิโนเป็นของไทยครึ่งหนึ่งใช่หรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า อยู่ที่กัมพูชาจะยอมรับหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันเขาไม่ยอมรับ หากยึดตามเส้นที่ไทยขีดไว้ จะพบว่ากาสิโนล้ำเข้ามาฝั่งไทย
ส่วนโอกาสที่จะเกิดการปะทะกันในพื้นที่นั้น ผบ.ทร.ระบุว่า ทุกกองกำลังยังเตรียมพร้อมอยู่ เพราะยังไม่มีความเรียบร้อยในพื้นที่ฝั่งกองทัพภาคที่ 2 แต่ฝั่งของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หรือ กปช.จต. การขยับกำลังจะไม่เหมือนฝั่งอีสานใต้ แต่หากฝั่งอีสานใต้เคลื่อนไหว กปช.จต.ก็เคลื่อนไหวตาม ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์
ส่วนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้ในช่วงการปะทะนั้น ผบ.ตร.ยอมรับว่า การเข้าไปในพื้นที่ค่อนข้างยากลำบาก และมีสนามทุ่นระเบิดจำนวนมาก จึงต้องค่อย ๆ เคลียร์พื้นที่ แต่ได้สั่งการว่าให้ดำเนินการกับพื้นที่ดังกล่าวอย่างไร เพราะปัจจุบันนี้ไม่มีกำลังทหารของกัมพูชาอยู่ในพื้นที่
พล.ร.อ.จิรพล ระบุว่า แม้ตนเองกำลังจะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่สถานการณ์ชายแดนยังมีอยู่ ซึ่ง ผบ.กองกำลังดูแลพื้นที่ได้ดี ในขณะที่ ผบ.ทร.คนใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ขณะที่ประเด็นด่านชายแดนจันทบุรีและตราดนั้น วันนี้ (19 ก.ย.) ในที่ประชุม ผบ.เหล่าทัพ เห็นชอบร่วมกันว่ายังคงปิดด่านจนกว่ากัมพูชาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อไทย
สิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงคิดตอนนี้ คือ กัมพูชายังเป็นภัยคุกคาม เราก็ยังไม่คุยเรื่องเปิดด่าน
อ่านข่าว : ผบ.เหล่าทัพเห็นชอบ "ปิดด่าน" จนกว่ากัมพูชาไม่เป็นภัยคุกคามไทย
ผบ.เหล่าทัพเห็นชอบ "ปิดด่าน" จนกว่ากัมพูชาไม่เป็นภัยคุกคามไทย
กต.ซัด "กัมพูชา" ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ยั่วยุบ้านหนองหญ้าแก้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง: