เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2568 เหตุการณ์หญิงวัย 45 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเต่างอย จ.สกลนคร หมดสติระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งมินิมาราธอนริมฝั่งแม่น้ำโขง ระยะทาง 20 กิโลเมตร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
กิจกรรมครั้งนี้มีนักวิ่งเข้าร่วมจำนวนมาก แบ่งการแข่งขันเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 4, 10 และ 20 กิโลเมตร มีการปล่อยตัวตั้งแต่เวลา 04.00 น. โดยเหตุการณ์เกิดบริเวณกิโลเมตรที่ 18 ก่อนถึงเส้นชัย 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวหมดสติและไม่มีชีพจร โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ 1669 โรงพยาบาลนครพนมเข้าช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจและนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ บื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
สามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางมาที่โรงพยาบาลทันทีหลังทราบเหตุ โดยครอบครัวระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวเป็นไทรอยด์ เดินทางมาร่วมกิจกรรมพร้อมเพื่อนนักวิ่งรวม 9 คน และเข้าพักที่โรงแรมในตัวเมืองนครพนม 1 คืนก่อนวิ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ
ขณะที่ว่าที่ ร.ต.รวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เดินทางมาให้กำลังใจครอบครัว พร้อมยืนยันว่าผู้จัดงานมีทีมแพทย์และพยาบาลประจำการดูแล และจากนี้จะเข้มงวดตรวจสอบประวัติสุขภาพนักวิ่ง ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม
ข้อมูลแพทย์พบส่วนใหญ่เสียชีวิตช่วง "ระยะทางสุดท้าย"
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค พบว่า ส่วนใหญ่กรณีการเสียชีวิตในการแข่งขันวิ่งมักเกิดขึ้นในช่วง "ระยะทางสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย" ขณะที่บางคนอาจไม่รู้ว่าตนเองมีโรคประจำตัว หรือมีโรคประจำตัวแต่ขาดการรักษาทานยาไม่ต่อเนื่อง จึงมีความเสี่ยง
สาเหตุที่ทำให้นักวิ่งหมดสติหรือเสียชีวิต ได้แก่ การเร่งทำลายสถิติตนเอง, ดื่มน้ำไม่เพียงพอ, รับประทานยาที่มีฤทธิ์กดการเต้นของหัวใจ, การฝึกฝนที่ไม่เพียงพอต่อระยะทางที่ลงแข่งขัน และความถี่ของการลงแข่งขันที่บ่อยและหักโหมเกินไป
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคมีข้อแนะนำก่อนการลงแข่งขันสำหรับนักวิ่ง ดังนี้
- เตรียมพร้อม ฝึกฝนร่างกายให้เพียงพอกับระยะทางการลงแข่งขัน
- ไม่ลงแข่งขันวิ่งระยะทางไกลในช่วงเวลาที่ติดต่อกันมากเกินไป
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม
- ไม่ควรรับประทานยาที่มีฤทธิ์กดการเต้นของหัวใจทั้งก่อนวิ่งและขณะวิ่ง
- นักวิ่งที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนลงแข่งขันทุกครั้ง
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันวิ่ง
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
- ให้ข้อมูลสุขภาพที่เป็นจริง เพื่อให้ทีมแพทย์เตรียมความพร้อมดูแลและเฝ้าระวังเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- ตรวจสอบอุณหภูมิและค่าฝุ่น PM2.5 ล่วงหน้าก่อนถึงวันแข่งขันจริง เพื่อเตรียมพร้อมร่างกาย วางแผนการดื่มน้ำระหว่างวิ่งให้เหมาะสม
- หากมีอาการแน่นหน้าอกหรือหน้ามืด ควรหยุดพักและแจ้งหน่วยแพทย์ในงานวิ่งทันที
อ่านข่าว
ตร.เตรียมเข้าสอบปากคำ "อดีตพระอลงกต" ในเรือนจำ
ทบ.ยันหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นตามกรอบ JBC จี้เขมรหยุดบิดเบือน