วันนี้ (22 ก.ย.2568) พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดน ว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44

สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชา ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี 2549 โดยในส่วนของหลักเขตแดนที่ 42 ได้สำรวจเมื่อวันที่ 2–29 ต.ค.2549 พบว่ายังอยู่ในสภาพดี แต่ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องที่ตั้ง ประมาณ 80 เมตร ส่วนหลักเขตแดนที่ 43 ได้สำรวจเมื่อวันที่ 8 พ.ย.–12 ธ.ค.2549 พบว่าหลักล้ม และถูกฝังอยู่ในดิน อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงที่ตั้งที่ถูกต้องร่วมกันได้ และได้สร้างหมุดชั่วคราว (Temporary Marker: TM) ไว้ ณ ตำแหน่งดังกล่าว
ผลการสำรวจร่วมทั้งหมด 74 หลัก รวมถึงหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ได้รับการรับรองแล้วในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2568 แต่ยังไม่ได้สำรวจแนวเขตแดนในส่วนของเส้นตรงระหว่างหลักทั้งสอง

อย่างไรก็ตาม ในหลักฐานบันทึกวาจาและแผนผังแสดงที่ตั้งหลักเขตแดนทั้งสอง ซึ่งเป็นไปตามที่ระบุในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 ได้ระบุแนวเขตแดนเป็นเส้นตรงระหว่างหลักทั้งสอง
สำหรับบันทึกวาจาและแผนผังแสดงที่ตั้งหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 เป็นบันทึกของข้าหลวงปักหลักเขตแดนระหว่างประเทศสยามกับอินโดจีนของฝรั่งเศส จัดทำขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1908–1909 โดยใช้ต้นไม้หรือเสาไม้ติดแผ่นโลหะเป็นหลักเขตแดน ต่อมาในปี ค.ศ.1919–1920 ได้เปลี่ยนเป็นหลักคอนกรีตทดแทน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหลักไม้หรือเสาไม้เดิม โดยในแผนผังแสดงที่ตั้งหลักเขตแดนของบันทึกวาจาทั้งสองห้วง ได้กำหนดแนวเขตแดนเป็นเส้นตรงระหว่างหลักที่ 42 และ 43 โดยแนวเส้นตรงดังกล่าวผ่านกึ่งกลางของหลักเขตแดนทั้งสองอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ กองทัพไทย ยืนยันว่า บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) อยู่ในเขตอธิปไตยของไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนที่เกิดจากความแตกต่างของการลากเส้นตรงระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการรับรองร่วมกันแล้ว ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU 2543) และการหารือในระดับคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) อย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าว : ทบ.ยันหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นตามกรอบ JBC จี้เขมรหยุดบิดเบือน
"ทรงฤทธิ์" ชี้กัมพูชาเรียกคะแนนสงสาร แนะไทยใช้เวทีทางการบีบดิ้นไม่หลุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง: