ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทบ.เพิ่มมาตรการ รปภ.ชายแดนไทย-กัมพูชา

การเมือง
16:07
197
ทบ.เพิ่มมาตรการ รปภ.ชายแดนไทย-กัมพูชา
อ่านให้ฟัง
02:40อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทบ.เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกกองทัพบก ทำกิจกรรมบริเวณแนวการวางกำลังทางทหาร งดเผยแพร่ข้อมูลหรือภาพถ่ายที่บ่งชี้ปฏิบัติการทางทหาร

วันนี้ (23 ก.ย.2568) พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า จากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในปัจจุบัน ที่ยังคงตรวจพบการปฏิบัติการทางทหาร และการละเมิดมาตรการหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกำลัง การลักลอบใช้ทุ่นระเบิด การนำโดรนบินตรวจการณ์ รวมถึงการดำเนินการในลักษณะยั่วยุอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยทหารในพื้นที่ เป็นไปอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ กองทัพบกจึงขอความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วน ปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้

1.การมอบสิ่งของและเยี่ยมกำลังพล
ให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะมอบสิ่งของหรือเข้าเยี่ยมกำลังพล ให้ประสานงานกับหน่วยที่รับผิดชอบล่วงหน้า และดำเนินการเฉพาะในพื้นที่ที่หน่วยทหารกำหนดไว้เท่านั้น

2.การเดินทางเข้าพื้นที่ที่ตั้งหน่วยทหารตามแนวชายแดน
กองทัพบกไม่อนุญาตให้ประชาชนหรือบุคคลจากหน่วยงานภายนอกกองทัพบกเข้าไปประกอบกิจกรรมใด ๆ ในบริเวณแนวการวางกำลังของหน่วยทหาร หากมีความจำเป็นต้องเข้าพื้นที่ จะต้องได้รับการอนุมัติจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกก่อนเท่านั้น

3.การเผยแพร่ข้อมูลและภาพถ่ายการปฏิบัติการทางทหาร
ขอความร่วมมือประชาชนและองค์กรต่าง ๆ งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลหรือภาพถ่ายที่อาจบ่งชี้ถึงการปฏิบัติการทางทหาร เช่น แผนที่ที่แสดงการวางกำลัง ภูมิประเทศสำคัญในพื้นที่ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติของหน่วยทหาร

ทั้งนี้ กองทัพบกขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน และด้วยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน จะเป็นพลังสำคัญในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กองทัพบก ในการปฏิบัติภารกิจพิทักษ์ปกป้องอธิปไตยของชาติ ให้เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

อ่านข่าว : ทภ.2 พบทหารเขมรยิงปืนเล็กยั่วยุเข้าเขตไทยที่ศรีสะเกษ

สุรินทร์อ่วมน้ำป่าทะลัก ทล.24 สูงเกือบ 1 ม.- สังขะอ่างเก็บน้ำชำรุด

“อนุทิน” ไม่ไปประชุม “ยูเอ็น” ปม “กัมพูชา” ยังคุกรุ่น ข้อปฏิบัติ รธน.ยังไม่ชัด