ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดประวัติ "ทูตสีหศักดิ์" ผู้พลิกเกมเวทีโลกดึงไทยกลับสู่ "จอเรดาร์"

การเมือง
13:04
291
เปิดประวัติ "ทูตสีหศักดิ์" ผู้พลิกเกมเวทีโลกดึงไทยกลับสู่ "จอเรดาร์"
"อดีตทูตสีหศักดิ์" รมว.ต่างประเทศวัย 67 ปี เป็นที่จับตาทันทีหลังขึ้นเวที UNGA 80 และตอกกลับกัมพูชาอย่างดุดันเรื่องชายแดน ทำให้ไทยกลับมาอยู่บน "จอเรดาร์" ในฐานะผู้เล่นที่ไม่ยอมอ่อนข้อ และยังเป็นชาวเอเชียคนแรกที่เป็นประธาน UNHRC และคีย์แมนร่างกฎบัตรอาเซียน

วงการการทูตไทยได้ส่ง "นักการทูตอาวุโส" ผู้มากประสบการณ์ทางการทูตกว่า 4 ทศวรรษ ขึ้นสู่เวทีโลกอีกครั้ง "นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว" อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ เพียงวันเดียว ก็ต้องเดินทางไปเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติสมัยที่ 80 (UNGA 80) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

เหตุการณ์ที่ทำให้นายสีหศักดิ์กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง คือการกล่าวถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นการ "ตอกกลับ" ผู้แทนกัมพูชาอย่างเผ็ดร้อน หลังกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและกล่าวหาไทยในเวทีโลก

รมว.ต่างประเทศของไทยเปิดเผยว่า เดิมทีตั้งใจจะพูดเรื่องอื่นที่เน้นความหวังในอนาคต แต่จำเป็นต้องเขียนถ้อยแถลงใหม่ทั้งหมด เพราะถ้อยคำที่น่าเสียใจยิ่งจากผู้แทนกัมพูชา นายสีหศักดิ์กล่าวหาว่า กัมพูชายังคง "วาดภาพตัวเองเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า" และนำเสนอข้อเท็จจริงที่บิดเบือนอย่างสิ้นเชิง

อ่านข่าว : "สีหศักดิ์" โต้กลับ "กัมพูชา" ยั่วยุต่อเนื่อง สวนทางกับพูด

อดีตทูตสีหศักดิ์ไม่ได้พูดเพียงแค่หลักการ แต่ได้ยกตัวอย่างที่บาดลึกถึงความรู้สึกของประชาชนชาวไทย โดยถามกลับไปว่า "เหยื่อที่แท้จริงคือใคร ?" และชี้ชัดว่า คือ ทหารไทยที่ต้องเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กนักเรียนที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกโจมตีด้วยจรวดจากกัมพูชา และยังชี้ว่า ข้อกล่าวหาของกัมพูชานั้นไปไกลเกินจริงจนดูน่าขบขัน

สิ่งที่ทำให้หลายฝ่ายต้องหันมาจับตามองท่านอย่างใกล้ชิดคือการที่นายสีหศักดิ์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน ผู้แทนไทยได้พบกับผู้แทนกัมพูชา และมีการพูดคุยกันถึงเรื่องสันติภาพ การเจรจา ความไว้วางใจ แต่สิ่งที่กัมพูชากล่าวบนเวทีกลับ "ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูดไว้เมื่อวาน" จึงตั้งคำถามอย่างจริงจังว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมกับไทยเพื่อแสวงหาสันติภาพตามที่พูดไว้จริงหรือไม่ โดยยืนยันหนักแน่นว่า ไทยจะยืนหยัดมั่นคงในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

ถ้อยแถลงครั้งนี้ ทำให้นายสีหศักดิ์กลายเป็นอีกบุคคลที่น่าจับตามอง ในฐานะผู้นำการทูตที่กล้าเปิดประเด็นและมีจุดยืนที่ชัดเจน โดยได้ประกาศเจตนารมณ์ในการใช้เวทีนี้แสดงวิสัยทัศน์ว่าไทยจะ "กลับสู่จอเรดาร์" ในฐานะผู้เล่นระหว่างประเทศที่มีบทบาทเชิงรุกและสร้างสรรค์

เอเชียคนแรกนั่งประธาน UNHRC - คีย์แมนกฎบัตรอาเซียน

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เกิดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2500 ปัจจุบันอายุ 67 ปี สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านนโยบายสาธารณะระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ (SAIS) สหรัฐอเมริกา

นายสีหศักดิ์เริ่มรับราชการในปี พ.ศ.2522 ผ่านประสบการณ์ในหลายตำแหน่งสำคัญทั้งในและต่างประเทศ เคยประจำการที่สถานทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และกรุงโตเกียว เมื่อกลับมายังประเทศไทย ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญ ๆ เช่น 

  • อธิบดีกรมสารนิเทศ และ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ บทบาทสำคัญช่วงเหตุการณ์ความขัดแย้งใหญ่ การเผาสถานทูตไทยที่กรุงพนมเปญ เมื่อปี พ.ศ.2546
  • อธิบดีกรมอาเซียน และอธิบดีกรมยุโรป
  • รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
  • ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งสูงสุดในราชการฝ่ายพลเรือน (พ.ศ.2556–2557)
  • รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในช่วงวิกฤตการเมืองปี พ.ศ.2557

ในฐานะนักการทูตอาวุโส นายสีหศักดิ์มีประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศอย่างกว้างขวาง เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส และขณะดำรงตำแหน่งที่เจนีวานี่เอง ก็ได้รับเลือกเป็น "ประธานคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC)" ในวาระปี พ.ศ.2553–2554 ถือเป็น "ชาวเอเชียคนแรก" ที่ได้รับเกียรตินี้

นอกจากนี้ นายสีหศักดิ์ยังเคยเป็นผู้นำคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับสูงของอาเซียนหลายครั้ง และเป็นผู้แทนไทยในคณะทำงานระดับสูงที่รับผิดชอบการยกร่างกฎบัตรอาเซียน รวมถึงเป็นประธานคณะทำงานระดับสูงที่ยกร่างข้อกำหนดของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR)

หลังจากพ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวง ยังได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศสำคัญ ๆ ได้แก่

  • เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (พ.ศ.2558) ด้วยความสามารถและผลงานอันโดดเด่น ในปี พ.ศ.2567 รัฐบาลญี่ปุ่นได้มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ "The Order of the Rising Sun, Gold and Silver Star" ให้เพื่อยกย่องบทบาทในการกระชับความสัมพันธ์ไทย–ญี่ปุ่นอย่างยาวนาน

  • เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (พ.ศ.2559–2561)

แม้จะเกษียณอายุราชการตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 แต่นายสีหศักดิ์ยังคงทำงานด้านการทูตและนโยบายอย่างต่อเนื่อง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษด้านการต่างประเทศของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเป็นเลขาธิการสภาสันติภาพและการปรองดองแห่งเอเชีย (APRC)

ก่อนจะกลับมารับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลอนุทิน 1 นายสีหศักดิ์เคยกลับมาช่วยงานในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อปี พ.ศ.2566–2567 มาแล้ว

ในฐานะ รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ นายสีหศักดิ์ได้ให้นโยบายว่า ช่วงเวลา 4 เดือนที่ได้รับมอบหมายต้องเป็น 4 เดือนที่มีความหมาย เน้นการทูตที่คล่องตัวครอบคลุมทุกมิติ ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม หวังที่จะเห็น "พัฒนาการในเชิงบวก" คลี่คลายปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเอกภาพระหว่างการทูตและการทหาร

ที่มาของข้อมูล : The European House – Ambrosetti, กระทรวงการต่างประเทศ

อ่านข่าวอื่น :

"สีหศักดิ์" เชื่อนานาชาติเข้าใจไทยมากขึ้น หลังแจงข้อเท็จจริงเวที UNGA80

“อนุทิน” ชื่นชม “สีหศักดิ์” ทำหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ ในยูเอ็นสมบูรณ์แบบ