วันนี้ (1 ต.ค.2568) พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาว่า ที่ผ่านมาดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 จึงไม่รู้สึกหนักใจ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่กับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 คนก่อน และยืนยันว่าขณะนี้กำลังพลมีความพร้อม และย้ำว่า ไม่มีมอตโต้ หรือ คติพจน์ในการทำงาน อะไรเป็นพิเศษ และมั่นใจว่าการทำงานไม่มีรอยต่อ ที่ผ่านมาก็ทำงานร่วมกันมาโดยตลอด
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่มีการยั่วยุหรือไม่นั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่าถือเป็นเทคนิค ที่จะยั่วยุก่อกวน ซึ่ง ทางกัมพูชา ก็จะมีการใช้มาตรการทางทหารสลับไปมา ส่วนทหารไทยก็ต้องระวัง และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
กองทัพภาคที่ 1 ส่งมอบหน้าที่ "แม่ทัพไก่"
กองทัพภาคที่ 1 จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 1 ระหว่าง พล.อ.อมฤต บุญสุยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 กับ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 โดยมีพิธีลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า จากนั้นได้ร่วมกันตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ และกระทำพิธีส่งมอบธง และการบังคับบัญชาแม่ทัพภาคที่ 1 ณ ลานหน้าอาคารกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1
พล.อ.อมฤต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ตนรับหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานทุกท่าน ส่งผลให้ภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบจากผู้บังคับบัญชาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จนเป็นที่เชื่อมั่นของผู้บังคับบัญชา และเป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงขอขอบคุณทุกคน
สำหรับแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ความเป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา จึงมั่นใจว่า กองทัพภาคที่ 1 ภายใต้การนำของแม่ทัพภาคที่ 1 จะมีความเจริญก้าวหน้า เป็นกำลังหลักของกองทัพบก รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน และพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความผาสุก ให้แก่พี่น้องประชาชน และประเทศชาติสืบไป
พล.ท.วรยส กล่าวว่า ตนรับหน้าที่นี้ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กองทัพภาคที่ 1 เป็นเหมือนทหารที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ และความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ให้ปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการพิทักษ์ความมั่นคงของชาติ และดูแลรักษาพระบรมเดชานุภาพ แห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นกองทัพภาคที่ 1 จะเป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง โดยใช้ขีดความสามารถในการพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน และมุ่งมั่นไปสู่การเป็นกองทัพที่พร้อมรบ และพร้อมถวายงานอย่างสูงสุด
พร้อมกันนี้ขอให้คำมั่นว่า กองทัพภาคที่ 1 จะปฏิบัติตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกอย่างเคร่งครัด ด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และช่วยเหลือประชาชน อีกทั้ง เป็นหนึ่งเดียวกับทุกภาคส่วนในการพัฒนาประเทศ เพื่อประชาชนและสร้างความมั่นคงของชาติ
ทั้งนี้หลังเสร็จพิธี แม่ทัพภาคที่ 1 ได้กล่าวย้ำถึงเจตนารมณ์ส่วนตัวว่า ขอให้เชื่อมั่นในกองทัพภาคที่ 1 ที่พร้อมจะปกป้องรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ โดยจะทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ และด้วยชีวิต โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
สำหรับภารกิจหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก มีพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร และ 25 จังหวัดภาคกลางของประเทศ มีภารกิจสำคัญในการป้องกันประเทศ โดยปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทของ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 จัดกำลังป้องกันชายแดน 2 กองกำลัง คือ กองกำลังบูรพา รับผิดชอบชายแดนด้านตะวันออก ในพื้นที่ จ.สระแก้ว และกองกำลังสุรสีห์ ดูแลภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ ช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ
อ่านข่าว :
นายกฯ ชี้ "คนละครึ่ง" ลงทะเบียนกลาง ต.ค.68 ยังไม่ชัดงบ 864 ล้านสร้างรั้วชายแดน