ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"รัฐบาลอนุทิน" กับกองทัพ หนุนงบฯ อาวุธยุทโธปกรณ์

การเมือง
13:18
104
"รัฐบาลอนุทิน" กับกองทัพ หนุนงบฯ อาวุธยุทโธปกรณ์
อ่านให้ฟัง
05:01อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

"มหาดไทย" ในฐานะฝ่ายปกครอง นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล เข้ากระทรวงไปมอบนโยบายมาแล้ว เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2568 ก่อนไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมมอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจ และวันที่ 2 ต.ค.2568 เรียกถกสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. พร้อมกำหนดภารกิจช่วงสุดสัปดาห์นี้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ด้วยรัฐบาลเฉพาะกิจ 120 วัน กำหนดภารกิจสำคัญไว้ที่การสางปมขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบกับที่ลั่นวาจาไว้ จะมอบอำนาจเต็มให้กับกองทัพเคลียร์แล้ว นายกฯ อนุทิน ยังตั้งเจตนาว่าต้องการให้ ทหาร-ตำรวจและฝ่ายปกครอง สนธิกำลังในการขับเคลื่อนแก้โจทย์ใหญ่นี้ อย่างเป็นระบบและมีเอกภาพ

ได้ฤกษ์เข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้เดินนำนายกฯ อนุทิน เดินตรวจแถวกองเกียรติยศ แล้วเปิดห้องมอบนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงความเป็นพี่-น้องกัน ระบุถึงความสัมพันธ์นับทศวรรษ

โดยใช้คำว่า "ในยุคนี้ ไม่มีใครรู้จักตำรวจได้ดีเท่ากับผม" ก่อนขอความร่วมมือ แก้​ปัญหายาเสพติดและปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์

จากนี้ ก็เตรียมจับจ้อง วันที่นายกฯ อนุทิน จะเข้ากลาโหม มอบนโยบาย แต่จะว่าไปแล้วรัฐมนตรีกลาโหม ที่นั่งคุมกองทัพ ก็เป็นบุคคลเชิงสัญลักษณ์ ตามตำนานการเมือง อิงนิทานอีสป "ราชสีห์กับหนู" จึงไม่แปลกถ้าไม่รื้อแผนหรือโครงการใดเหมือนกระทรวงอื่น โดยเฉพาะการสนับสนุนกองทัพ จัดซื้อ-จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์

อ้างอิงตามสถานการณ์ก่อนหน้า เมื่อครั้งเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา จะว่าไปตั้งแต่ อาวุธปืน-ปืนใหญ่-รถถัง-ยานเกราะ ไปจนถึงเครื่องขับไล่เอฟ-16 กริพเพน ถูกงัดออกมาใช้งาน ตามแผนปฏิบัติการทางทหาร "ยุทธบดินทร์" เพื่อตอบโต้กัมพูชา และเป็นไปได้ว่ายังคงจำเป็นพร้อมใช้อยู่

สอดรับกับเหตุผลหนึ่ง ที่กองทัพยังต้องเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ สมุดปกขาว แจกแจงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บ การรบแบบ 3 มิติ ต่อเนื่องจากรัฐบาล "เพื่อไทย" มาถึง "ภูมิใจไทย"

โดยกองทัพบก เร่งจัดซื้อ-จัดหา "เฮลิคอปเตอร์-แบล็กฮอว์ก" 3 เครื่องใหม่ ที่เป็นโครงการต่อเนื่อง รวมถึงแบล็กฮอว์ก-มือสอง 3 เครื่อง และโครงการซ่อมเฮลิคอปเตอร์ "เอ็มไอ-17" และรถถัง วีที-4 ด้วย

ส่วนกองทัพเรือ เดินหน้าโครงการเรือดำน้ำลำแรก หลังแก้สัญญาใช้เครื่องยนต์จีนและขยายเวลาต่อเรือ โดยกำหนดส่งมอบปี 2571 ตามหลักการ ครม.ปี 2558 คู่ขนานกับโครงการ คือ จัดซื้อเรือฟริเกต

กองทัพอากาศ ก็ยังคงผลักดัน โครงการเครื่องบินขับไล่กริพเพน หลังลงนาม ซื้อ-ขาย เมื่อปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ตามเดิมที่ ครม.อนุมัติไว้ 1 ฝูงบิน 12 ลำ ซื้อกันแบบ "จีทูจี" กำหนดส่งมอบ 4 ลำแรก ปี 2572

ส่วนโครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ถูกจัดสรรไว้มากกว่า 31,000 ล้าน รวม 42 โครงการ โดยส่วนหนึ่งเป็นงบฯ ผูกพัน นับแต่ปี 2569 ผ่านข้อสังเกตที่ไม่ระบุประเภทอาวุธ​

โดยกองทัพบก ตั้งไว้ 12,500 ล้าน ขณะที่กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ซึ่งต่างก็ตั้งไว้เกือบหมื่นล้าน และเขียนโครงการไว้ในลักษณะเดียวกัน คือ เสริมสร้างยุทโธปกรณ์, การจัดหายุทโธปกรณ์, ซ่อมแซม-ปรับปรุง ยุทโธปกรณ์ หรือ สร้างเสริมกำลังพล

2 ต.ค.รัฐมนตรีกลาโหม 2 คน เข้ากระทรวงวันแรก ก็เปิดประชุมสภากลาโหม นัดแรกของปีงบประมาณ 2569 โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพชุดใหม่เข้าร่วม เต็มองค์ประชุมคะ และช่วงบ่ายวงถก สมช.ก็ถือเป็นนัดแรกแบบเต็มคณะเช่นกัน

แต่การลงพื้นที่ชายแดนของนายกฯ อนุทิน สุดสัปดาห์นี้ จะไปปิดท้ายที่ จ.บุรีรัมย์ ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครูใหญ่ "เนวิน ชิดชอบ" 

อ่านข่าว :

เปิดแผนจัดซื้ออาวุธกองทัพปี 69 เสริมเขี้ยวเล็บ 3 เหล่าทัพ

ครม.ไฟเขียวล้างท่องบฯปี 68 เกือบ 6 หมื่นล้านบาท

"นพดล" เสนอรัฐบาลมอบ สมช.ศึกษาข้อดีข้อเสีย MOU 43-44 ก่อนทำประชามติ