ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ที่ประชุม สมช.อนุมัติหลักการสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา

การเมือง
17:15
213
ที่ประชุม สมช.อนุมัติหลักการสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา
อ่านให้ฟัง
06:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ที่ประชุม สมช.อนุมัติหลักการสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงมาตรการทางการทหารและปิดชายแดนต่อไป เล็งเพิ่มการเยียวยาผู้ได้รับกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ดังกล่าว

วันนี้ (2 ต.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นัดแรก

นายอนุทิน กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม สมช.เห็นชอบในหลักการอนุมัติสร้างรั้วตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนพิกัดในการสร้างกองบัญชาการกองทัพไทยจะพิจารณาว่าจะสร้างช่วงไหนและรูปแบบใด ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศและความเหมาะสม 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ร่วมประชุม สมช.นัดแรก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ร่วมประชุม สมช.นัดแรก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ร่วมประชุม สมช.นัดแรก

ส่วนนโยบายในการผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำอธิปไตยของไทยบริเวณบ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้วจังหวัดสระแก้วอย่างไร ซึ่งในวันที่ 10 ต.ค.นี้จะครบเส้นตายที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ขีดเส้นเอาไว้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องใช้กฎหมายที่ถูกต้องและต้องคำนึงหลักมนุษยธรรม รวมถึงผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึก พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ซึ่งกองทัพ จะต้องไปหารือกับผู้ว่าจังหวัดสระแก้ว รวมถึงกระทรวงมหาดไทย

ส่วนจะถึงขั้นใช้กำลังผลักดันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เนื่องจากเป็นประชาชน ไม่ใช่ทหาร จึงต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตเนื่องจากคนลำบากอยู่แล้วมีทั้งเด็ก สตรี คนชรา พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลจะผลักดัน ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำออกจากพื้นที่ ในเวลาที่เหมาะสม

ส่วนจะมีการระบุเป็นไทม์ไลน์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันเวลาขึ้นอยู่กับความเหมาะสม แต่คงไม่ใช่วันที่ 10 ต.ค. นี้

ส่วนเสียงสะท้อนของประชาชนในพื้นที่จะกดดันรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจ พร้อมทั้งระบุว่า การประชุมสมช.วันนี้ ไม่ได้มีการหารือถึงการยกเลิกเอ็มโอยู 43 ซึ่งให้เป็นเรื่องของสภาดำเนินการ

ส่วนในที่ประชุมจะมีแนวทางหรือมาตรการอย่างไรในการกดดันให้กัมพูชาทำตามข้อตกลง เช่น การถอนอาวุธหนักและกำลังทหารออกจากพื้นที่ นายกฯ กล่าวว่า จะใช้กรอบการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทยกัมพูชา (GBC) ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฝ่ายไทย และได้ประชุมมาก่อนแล้ว ซึ่งไทยก็ยังยืนยันจุดยืนว่าก่อนที่จะมีการดำเนินการใดๆ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่ไทยต้องการให้กัมพูชาดำเนินการก่อน

ส่วนการประชุม RBC และ GBC ที่ผ่านมาเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างไม่ยอมไปไหน นายกฯ ตอบทันทีว่า จากนี้ไปก็จะเริ่มไปไหนแล้ว อีกทั้งยังมีความคืบหน้าของการเจรจา อย่างกรณีที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงในเวทีการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN)ในการชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกบิดบิดเบือนไป ซึ่งมองว่าจะนำไปสู่การเจรจา

ส่วนที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลมุ่งหวังจะใช้เวทีต่างประเทศ ในการกดดันทางกัมพูชามากกว่าการใช้กำลังทางทหารใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุ ว่าก็ต้องใช้ควบคู่กันไป ในส่วนของกองทัพ ก็ต้องมีความพร้อม โดยไทยก็ได้ไปบอกที่สหประชาชาติว่าไทยไม่ใช่ผู้รุกราน แต่เป็นไทยต่างหากที่ถูกรุกราน ฉะนั้นจึงต้องรักษาสถานะตรงนี้ เพราะไทยไปยืนยันว่าเป็นผู้ที่ถูกรุกราน แต่เรื่องของการป้องกันอธิปไตย ทางกองทัพมีความพร้อมในการป้องกันอธิปไตยและแผ่นดิน ซึ่งได้รับการยืนยันมาจากกองทัพแล้ว และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนกองทัพ ดูได้จากผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกในการอนุมัติงบประมาณกว่า 800 ล้าน เพื่อเสริมสร้างความพร้อมของกองทัพ ปกป้องแผ่นดินของราชอาณาจักรไทย

เราไปบอกสหประชาชาติว่า เราไม่ใช่ผู้รุกราน แต่ต่างหากที่ถูกรุกราน สถานะตรงนี้ต้องรักษาเอาไว้ และการรักษาอธิปไตยกองทัพมีความพร้อม และทางรัฐบาลก็ให้การสนับสนุน และการประชุม ครม.ล่าสุดก็ให้เกิดความพร้อมในการรักษาแผ่นดินของราชอาณาจักรไทย

นายกฯ ยังกล่าวว่า ถ้าเขาไม่ตอบรับ เราก็ไม่ตอบสนอง หากเขาจะขอให้ทำอะไร เช่นขอให้ช่วยเปิดด่านก็ไม่จะทำ ไม่อยากใช้คำว่า กดดัน ทุกวันนี้ก็กดดันมากอยู่แล้ว แต่จะสื่อไปว่า อยากจะอยู่กันแบบนี้ให้ชีวิตประชาชนที่เขารับผิดชอบดีขึ้น เขาก็ต้องตอบรับเรา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวเสริมว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตามกรอบ GBC คุยกันแล้วว่า ตกลงจะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในรายละเอียดจะต้องคุยกัน ทั้งการถอนอาวุธหนัก การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการคุยกันในรายละเอียด และวันก่อนทางนอร์เวย์ก็บอกว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องการกู้ทุ่นระเบิดจะทำร่วมกัน แต่จะไปคุยกันในรายละเอียด ซึ่งจากที่คุยกันที่นิวยอร์ก เราก็แสดงความมุ่งมั่นว่าจะทำในสิ่งที่ตกลงให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจที่จะปฏิบัติตามที่ได้ตกลงกัน

ไปเวทีระหว่างประเทศ ทางอ้อมเราก็กดดันเขาว่า จะคุยเรื่องสันติภาพก็จะต้องมีการกระทำและการแสดงออกที่เห็นเป็นรูปธรรม และสิ่งที่ตกลงกันไว้แล้วต้องเดินหน้า

ขณะที่ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช.กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมและยังคงเห็นชอบตามมาตรการเดิม ทั้งมาตรการด้านการทหาร การดูแลชายแดน และชายแดนจะยังคงปิดอยู่ รวมถึงจะสร้างเอกภาพในการสื่อสาร และยังคงใช้การทูตเชิงรุก

นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช.

นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช.

นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช.

นอกจากนี้ ยังเพิ่มมาตรการเยียวยาซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มที่ตกหล่น ได้แก่ ผู้เสียชีวิตทางอ้อมจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทาง สมช.จะไปเพิ่มนิยามความหมายเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ และมอบให้ มท.ดูแลผู้ได้รับผลกระทบกว่า 2,000 ครัวเรือนด้วย

ขณะที่ สถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุมเห็นชอบร่างนโยบายบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 ปี ระหว่างปี 2568 - 2570 ซึ่งร่างดังกล่าวเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะนำเสนอสู่ ครม. และจะแถลงต่อรัฐสภาต่อไป 

 

 

อ่านข่าว : สมช.ถกตั้งประธาน JBC คนใหม่ สร้างรั้ว-ไล่เขมร พ้นบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

"รัฐบาลอนุทิน" กับกองทัพ หนุนงบฯ อาวุธยุทโธปกรณ์ 

"นพดล" เสนอรัฐบาลมอบ สมช.ศึกษาข้อดีข้อเสีย MOU 43-44 ก่อนทำประชามติ