ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

หั่นเป้าเงินเฟ้อเหลือ 0.0% สนค. เผยราคาพลังงาน-อาหารลด ยันไม่ใช่เงินฝืด

เศรษฐกิจ
14:56
47
หั่นเป้าเงินเฟ้อเหลือ 0.0% สนค. เผยราคาพลังงาน-อาหารลด ยันไม่ใช่เงินฝืด
อ่านให้ฟัง
09:05อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สนค. เผย เงินเฟ้อเดือน ก.ย.ติดลบ 0.72 % ต่อเนื่อง 6 เดือน เหตุราคาพลังงานอาหารสดลง ติด ยันไม่ใช่เงินฝืด หั่นเงินเฟ้อทั้งปี จากเดิม 0.0 – 1.0% เหลือ 0.0 %

วันนี้ ( 6 ต.ค.2568)นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักทำให้เงินเฟ้อลดลงจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงตามนโยบายของภาครัฐ และราคาพลังงานในตลาดโลกลดลง ราคาสินค้าสำคัญในกลุ่มอาหารสดยังคงลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อเดือนก.ย.ลดลง 0.72 % เฉพาะ ไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลง 0.74 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ลดลง 0.19% ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ย 9 เดือนแรกปี 2568 ลดลง 0.01 %

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์

สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนกันยายน (หักกลุ่มอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้น 0.65 % และลดลง 0.05 % จากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ 9 เดือนแรกเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น 0.90 % ทั้งนี้ ในเดือนก.ย.สินค้า 464 รายการที่นำมาคิดคำนวณเงินเฟ้อ พบว่า ราคาลดลง 188 รายการ เท่าเดิม 52 รายการ และเพิ่มขึ้น 224 รายการ เมื่อแยกเป็นหมวดสินค้าในเดือนก.ย. พบว่า หมวด ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 0.99%

สินค้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มพลังงาน (แก๊สโซฮอล์ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู สบู่ถูตัว ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว กระดาษชำระ น้ำยาระงับกลิ่นกาย โฟมล้างหน้า) ค่าโดยสารเครื่องบิน เสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษและสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี กางเกงขายาวบุรุษ) และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยารีดผ้า น้ำยาถูพื้น ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว/น้ำยาซักผ้าขาว ผลิตภัณฑ์ซักผ้า) ขณะที่มีสินค้าสำคัญหลายรายการราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าแต่งผมบุรุษและสตรี และอาหารสัตว์เลี้ยง

ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.24 % จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผักสด (ต้นหอม มะนาว ผักกาดขาว ผักชี พริกสด ผักคะน้า ขิง กะหล่ำปลี) กลุ่มผลไม้สด (ทุเรียน ฝรั่ง องุ่น กล้วยน้ำว้า มะม่วง) ไข่ไก่ ข้าวสารเหนียว และไก่สด อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการราคาสูงขึ้น อาทิ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ (ปลาทู ปลาช่อน) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟ (ร้อน/เย็น) เครื่องดื่มรสช็อกโกแลต) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (กะทิสำเร็จรูป น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน ไอศกรีม)

ผอ.สนค. กล่าวอีกว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปตลอดไตรมาส 4 ของปี 2568 คาดว่าจะอยู่ใกล้ระดับศูนย์ หรือ อัตราเงินเฟ้อต่อเดือนมีโอกาสติดลบได้ต่อเนื่อง ทำให้กระทรวงพาณิชย์ ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี 2568 จากเดิมคาดช่วง 0.0 – 1.0% ค่ากลาง 0.5% มาอยู่ 0.0 % เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อใน 3 ไตรมาสแรกปี 2568 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในระดับต่ำ ราคาผักสดและผลไม้สดยังต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก รวมทั้งภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง อิงสมมุติฐานจีดีพีไทยขยายตัว 1.8-23 % ราคาน้ำมันดิบโลก 63-73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ค่าเงิน 32.5-33.5 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับ ปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงในช่วงที่เหลือปีนี้ ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ภาครัฐได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนก.ย. - ธ.ค. 2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย และราคาผักสดและผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก เป็นผลจากผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก รวมทั้งฐานของราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับสูง

และ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่สูงขึ้น ขณะนี้ปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อน เช่น เนื้อสุกร มะขามเปียก กะทิสำเร็จรูป กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น

เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องมาแล้ว 6 เดือน สะท้อนไทยอยู่ในภาวะเงินฝืดแล้วหรือไม่ นั้น ยังไม่ถือว่าเป็นเงินฝืด แต่เป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงเงินเฟ้อต่ำ เงินฝืดต้องมีองค์ประกอบหลายด้าน ที่สำคัญแม้เงินเฟ้อทั่วไปติดลบแต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก สะท้อนถึงการบริโภคยังมีต่อเนื่อง อัตราจ้างงานของไทยยังไม่ได้เปรียบแปลงจนน่ากังวล และแม้จีดีพีไทยจะต่ำแต่ก็ยังขยายตัว แต่ก็ยอมรับว่าสถานการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า งบประมมาณจากภาครัฐและมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่กำลังออกมา เช่น คนละครึ่ง กระตุ้นท่องเที่ยว เป็นต้น จะมีผลต่อการเพิ่มความเชื่อมั่นการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ก็ไม่มีผลต่อเงินเฟ้อจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับการสูงขึ้นของราคาอาหารสดและราคาพลังงานปีนี้ที่มีสัดส่วนกว่า 29% ในการคำนวณเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ หากเทียบอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ เดือนส.ค. 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลง 0.79 % โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 9 จาก 140 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน 9 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว)

อ่านข่าว:

 ทุเรียนสดแชมป์ ใช้สิทธิ์ FTA พณ.ดันผู้ประกอบการใช้สิทธิส่งออก 

"พาณิชย์" เตรียมทำ MOU รพ.เอกชน ให้ผู้ป่วยซื้อยานอก รพ.

“กรมการค้าภายใน” ลุย Quick Big Win ลดค่าครองชีพ เล็งจัดธงฟ้า 1.3 พันครั้ง