วันนี้ (6 ต.ค.2568) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2568 ที่เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ด้วยการดึงแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายที่อาศัยอยู่ในประเทศ ทั้ง 4 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม มาทดแทน
- "มหาดไทย" ออกประกาศ ให้แรงงานกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตทำงานในไทยเป็นกรณีพิเศษ
- "แรงงาน" แห่กลับบ้านสะเทือนเศรษฐกิจ "กัมพูชา"
- "พงศกวิน" เล็งดึง "แรงงานศรีลังกา" ทดแทน "กัมพูชา" ที่กลับประเทศ
กระทรวงแรงงานจึงเตรียมเปิดขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.นี้ ให้สามารถอยู่และทำงานได้เป็นกรณีพิเศษ เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยคาดว่า จะมีแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายที่รอขึ้นทะเบียนนี้อยู่ประมาณ 338,000 คน หรืออาจมากถึง 500,000 – 700,000 คน หากจะเทียบเคียงกับการเปิดขึ้นทะเบียนครั้งก่อน
นางสาวตรีนุช กล่าวว่า แรงงานกัมพูชา หรือ ต่างด้าวทั้ง 4 สัญชาติ ที่ขณะนี้อยู่ในประเทศไทยแล้ว และมีนายจ้าง กลุ่มบุคคลนี้สามารถลงทะเบียนได้
นอกจากนี้ น.ส.ตรีนุช ยังเปิดเผยว่า มีความกังวลในเรื่องของแรงงานข้ามชาติลักลอบเข้าเมืองทะลักเข้ามาในช่วงนี้ จึงล็อกช่วงเวลาลงทะเบียนเพียง 15 วัน เพื่อไม่ให้กระทบกับความมั่นคงในประเทศ ส่วนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายที่ไม่มีนายจ้าง อาจต้องรอมาตรการในขั้นต่อไป เพื่อทำการประเมินอีกครั้ง

ด้านนายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยถึง ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายทั้ง 4 สัญชาติ
1.นายจ้าง ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนแรงงานข้ามชาติ และชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 15 – 29 ต.ค.2568 ตลอด 24 ชม.ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยจะได้รับหลักฐานเพื่อใช้แสดงการได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 28 ธ.ค.2568
2.นายจ้าง พาแรงงานข้ามชาติเข้ารับการตรวจสุขภาพ จัดทำประกันสุขภาพ และไปตรวจจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้งนี้ แรงงานสัญชาติกัมพูชาต้องรายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทุก 60 วัน
3.หลังจากดำเนินการครบทุกขั้นตอน กรมการจัดหางานจะออกใบอนุญาตให้ทำงานเป็นระยะเวลา 1 ปี จนถึงวันที่ 14 ต.ค.2569
อ่านข่าว : ครม.ขยายเวลาให้แรงงานกัมพูชา อยู่ต่อในไทยได้อีก 6 เดือน
4. ในระหว่างที่ได้รับการผ่อนผัน 1 ปี ให้แรงงานข้ามชาติ ไปดำเนินการจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติและออกบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย กับกรมการปกครอง ซึ่งการผ่อนผันจะสิ้นสุดทันทีเมื่อแรงงานข้ามชาติเดินทางกลับออกไปนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้จัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทาง และได้ขอวีซ่าอยู่ในราชอาณาจักรกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว สำหรับค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียน ประกอบด้วย

1. ค่าธรรมเนียมการอนุญาตทำงาน เวลา 1 ปี จำนวน 1,000 บาท ของกรมการจัดหางาน
2. ค่าธรรมเนียมการตรวจสุขภาพ จำนวน 500 บาท ของกระทรวงสาธารณสุข
3. ค่าประกันสุขภาพ
- ความคุ้มครอง 6 เดือน (กรณีทำงานในกิจการที่ต้องเข้าประกันสังคม) ของรัฐ 900 บาท หรือของบริษัทประกันภัยเอกชน 990 บาท
- ความคุ้มครอง 1 ปี (กรณีทำงานในกิจการที่ไม่ต้องเข้าประกันสังคม) ของรัฐ 1,600 บาท หรือของบริษัทประกันภัยเอกชน 1,790 บาท

4. ค่าธรรมเนียมจัดการทำทะเบียน/บัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย จำนวน 80 บาท
ของกรมการปกครอง
5. ค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (Visa) 500 บาท ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (เฉพาะกรณีแรงงานข้ามชาติมีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแล้ว)
โดยการขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายครั้งนี้ รวมถึงการขึ้นแรงงานข้ามชาติทั่วไป กรมการจัดหางาน ได้จัดทำระบบ “e-WorkPermit” ในการลงทะเบียนขออนุญาตทำงานออนไลน์ ตลอด 24 ชม.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการจ้างเหมาเอกชนผลิตใบอนุญาตทำงานและให้บริการรับคำขอ และการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (Outsourcing Service)

โดยครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การยื่นคำขอ ตรวจสอบสถานะ การอนุมัติ จนถึงการรับใบอนุญาตทำงาน โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เป้าหมายเพื่อพัฒนากระบวนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติให้มีความทันสมัย สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 13 ต.ค.2568 ผ่านทางเว็บไซต์ eworkpermit.doe.go.th จะช่วยลดการใช้เอกสาร ลดขั้นตอน ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้บริการ เพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน รวมถึงการสร้างฐานข้อมูลแรงงานข้ามชาติแบบบูรณาการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถใช้ร่วมกันได้
นอกจากนี้ กรมการจัดหางาน ได้เปิดศูนย์บริการใบอนุญาตทำงานจำนวน 54 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับระบบใหม่ ประกอบด้วย ศูนย์บริการใบอนุญาตทำงานแรงงานข้ามชาติ จำนวน 40 แห่งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง จำนวน 5 แห่ง หน่วยบริการเคลื่อนที่ จำนวน 8 หน่วย ศูนย์กำกับและควบคุมการปฏิบัติงาน จำนวน 1 แห่ง
อ่านข่าว : มทภ.3 เข้มดูแลชายแดนแม่ฮ่องสอน ป้องกันแรงงานเถื่อน-ยาเสพติดทะลัก
ครม.อนุมัติความร่วมมือ "ศรีลังกา" นำเข้าแรงงานทดแทนกัมพูชา
"พงศ์กวิน" จ่อนำแรงงานเมียนมา 4.2 หมื่นคนทดแทนแรงงานกัมพูชา