วันนี้ (7 ต.ค.2568) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือเชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการฟอกเงินของกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยหยิบยกกรณีนายเบน สมิธ ซึ่งเชิญมากรรมาธิการในเวลา 11.30 น.คาดว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จไม่เกินเวลา 12.30 น. ซึ่งเหตุผลที่กรรมาธิการเชิญเนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายเบน
- "ธรรมนัส" โต้ "อนุสรณ์" ยืนยัน "ศร. - ป.ป.ช." ตรวจสอบคุณสมบัติผ่านหมดแล้ว
- "เบน สมิธ" ลั่นถูกใส่ร้ายยันไม่เกี่ยวคอลเซนเตอร์ จ่อฟ้องปกป้องชื่อเสียง
ขณะเดียวกันกรรมาธิการได้เชิญนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้กล่าวในวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเกี่ยวกับเงินสินบน 40 ล้านบาท โดยชี้แจงว่า การพิจารณาเรื่องปัญหาสแกมเมอร์ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเกลียดชังหรือผลประโยชน์ทับซ้อนหรือการกลั่นแกล้งใคร ซึ่งหากมีมูลและมีการดำเนินการจริงถือเป็นความผิด เป็นการปฎิบัติหน้าที่ไม่ชอบ แต่หากไม่มีมูลแล้วพูดโดยไม่มีข้อเท็จจริงก็อาจมีความผิดบางประการ ดังนั้นทำเรื่องนี้ครอบคลุมทุกมิติ ไม่ได้อยู่บนผลประโยชน์ส่วนตัวแต่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติในฐานะ สส.ทำหน้าที่และกินเงินเดือนประชาชน
ผมยืนยันว่า ส่วนตัวผมไม่ได้มีความเกลียดชังต่อใครเป็นการส่วนตัว ไม่ว่าผู้กองธรรมนัส ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน ผมถือว่าทำหน้าที่ในเรื่องการจัดการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งผมตามมาโดยตลอด ใครเกี่ยวพันก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ผมยอมรับว่าการดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน พูดอย่างตรงไปตรงมามันไม่ใช่เรื่องง่าย
นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า ยังรู้สึกงงเรื่องการฟ้องร้อง และกล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เล่นใหญ่ และต้องการเล่นใหญ่กับเรื่องนี้มาก แล้วอยู่ ๆ ก็กลับเป็น 360 องศา ไม่ดำเนินการแล้วโดยไม่ได้อยากถูกฟ้องแต่แค่แปลกใจและตั้งคำถามว่าในแง่นี้ ท่าน ร.อ.ธรรมนัส ยังเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือหรือไม่
ท่านเป็นรองนายกฯ ท่านผู้ว่าจะดำเนินคดีกับผม ทนายของท่านออกมาพูด 2 ประเด็น ประเด็นแรกบอกว่า เรื่องที่ท่านพูดจะฟ้องผมเป็นเรื่องที่บางมาก แม้กระทั่งลูกน้อง ร.อ.ธรรมนัส ยังมองว่า สิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัสพูด ยังไม่มีน้ำหนักเลย และพูดผ่านบางรายการบอกว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีต้นทุนทางสังคมเท่าผม ทั้งที่ตัวท่านไปถึงรองนายกฯ คิดว่า ร.อ.ธรรมนัส ต้องทบทวนตัวเองว่า การให้ข่าวในลักษณะข่มขู่ และการฟ้องที่ จ.พะเยา ไป จ.นราธิวาส เป็นการสร้างภาระให้กับผู้ที่ถูกฟ้องแต่ทำไมอยู่ ๆ พูดไปเรื่อยได้แบบนี้ ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส ต้องมีความรับผิดชอบ
นายรังสิมันต์ ยังเรียกร้องให้ตำรวจตอบคำถามสังคม กรณีที่มีการฟ้องร้อง ของ ร.อ.ธรรมนัส กว่า 300 เคส ว่าเป็นลูกไม้ลูกมือให้กับ ร.อ.ธรรมนัส หรือเปล่า และจะติดตามต่อไปว่า หากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเป็นลูกไม้ลูกมือเพื่อทำให้เกิดการฟ้องปิดปากจะเข้าข่ายเป็นการปฎิบัติหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการต่อไป ก่อนที่จะยืนยันว่าทำหน้าที่กรรมาธิการอย่างตรงไปตรงมา
และอ้างอิงจากการอภิปรายของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่สงสัยว่ามีเงินที่ได้มาชอบด้วยกฎหมายอาจมาจากขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องให้ความใส่ใจซึ่งคนละระดับรองนายกรัฐมนตรีต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ ไม่ใช่การมาดำเนินการทางกฎหมายเพื่อปิดปาก และไม่ทราบจุดยืนของร้อยเอก ธรรมนัสในเรื่องเป็นอย่างไร ล่าสุดได้รับข้อมูล 48 หน้าเกี่ยวกับที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน
อ่านข่าว : "รังสิมันต์" เปิดข้อมูลเครือข่ายสแกมเมอร์ เชื่อมโยงนักการเมืองไทย
ตัวแทน "เบน สมิธ" ยื่นฟ้อง "รังสิมันต์ โรม" หมิ่นประมาทพาดพิงโยงสแกมเมอร์
"ธรรมนัส" บอก หยุดขุดเรื่องเก่าซ้ำซาก ปมอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรี