ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"แพทองธาร" ยกเครื่องเพื่อไทย ลั่นไม่สูญพันธุ์ ตั้ง "สุริยะ" คุมศึกเลือกตั้ง

การเมือง
16:00
182
"แพทองธาร" ยกเครื่องเพื่อไทย ลั่นไม่สูญพันธุ์  ตั้ง "สุริยะ" คุมศึกเลือกตั้ง
พรรคเพื่อไทยประกาศ ยกเครื่องพรรค-ยกเครื่องประเทศ "แพทองธาร" ลั่นเพื่อไทยไม่เคยสูญพันธุ์ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมอบหมาย "สุริยะ" คุมศึกเลือกตั้ง ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะประกาศในเวลาที่เหมาะสม ส่วนตัวลงเป็นแคนดิเดตไม่ได้แล้ว

วันนี้ (7 ต.ค.2568) พรรคเพื่อไทยจัดงาน "ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย" ที่สำนักงานใหญ่พรรค เพื่อแสดงความพร้อมสู่การเลือกตั้งหลังการยุบสภา และเปิดตัวผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส.ล็อตแรกจำนวน 185 คน จากทั่วประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก โดยมีกรรมการบริหารพรรค อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนพรรคร่วมกิจกรรมมากกว่า 500 คน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดเวทีว่า วันนี้เป็นครั้งแรกหลังความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ หัวใจของคนเพื่อไทยได้มารวมพลังกันอีกครั้ง โดยกล่าวถึงสถานการณ์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยถูกกระทำให้กลายเป็นฝ่ายค้าน, ดร.ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคต้องอยู่ในเรือนจำ และผลการเลือกตั้งซ่อมที่มีทั้งชัยชนะที่เชียงราย และความพ่ายแพ้ที่ศรีสะเกษ

"หลายคนพูดว่าพรรคเพื่อไทยถึงทางตันแล้ว ใกล้จะตายสูญพันธุ์ ดิฉันไม่เคยเชื่อแบบนั้น เพราะถ้าจะสูญพันธุ์ พรรคนี้สูญพันธุ์ไปนานแล้ว เราคือพรรคการเมืองที่มีผลงานเป็นรูปธรรมที่สุด และเผชิญชะตากรรมทางการเมืองอย่างสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย"

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่าพรรคเพื่อไทยผ่านทั้งการรัฐประหาร 2 ครั้ง การยุบพรรค 2 พรรค การตัดสิทธิ์กรรมการบริหารเกือบ 200 คน และการปลดนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งถึง 6 คน โดยผู้ก่อรัฐประหารไม่ถูกดำเนินคดี ในขณะที่ผู้ก่อตั้งพรรคถูกต้องจำ แต่ยังคงยืนหยัดได้เพราะมีประชาชนเป็นรากฐาน

จิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เลือดที่ไหลตามอำนาจ แต่คือเลือดของประชาชนที่อยากเห็นประเทศดีขึ้น ทุกครั้งที่เลือดไหล เราจะมีเลือดใหม่เข้ามา และเราจะรวมพลังกันอีกครั้ง

น.ส.แพทองธารกล่าวย้ำว่า พรรคเพื่อไทยคือพรรคแห่งโอกาส ที่จะยังคงเดินหน้าผลักดันนโยบายเพื่อยกระดับชีวิตประชาชน เพิ่มโอกาสให้คนจน สร้างหลักประกันให้ผู้ประกอบการ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ดิฉันพร้อมสู้ และพรรคเพื่อไทยของเราจะสู้ไปด้วยกัน

น.ส.แพทองธารยังกล่าวต่อว่า ประเทศไทยในปัจจุบันยังต้องการ การเมืองที่สร้างสรรค์และไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่จะปรับตัวให้เท่าทันยุคสมัย สิ่งที่ประเทศไทยต้องการคือพรรคการเมืองที่คิดยาว คิดไกล วางรากฐานให้อนาคตมั่นคง นี่คืออุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย และเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศไทยในฝันเกิดขึ้นได้จริง

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยต้องกล้าที่จะทบทวนสิ่งที่ขาดหาย เสริมจุดแข็ง สรุปบทเรียน และเปลี่ยนแปลงจากภายใน เพื่อเตรียมพร้อมสู่สนามการเมืองที่เข้มข้นกว่าเดิม เพราะถ้าเราสามารถเปลี่ยนพรรคเพื่อไทยได้ เราก็สามารถเปลี่ยนประเทศไทยได้เช่นเดียวกัน

น.ส.แพทองธารย้ำว่า โชคชะตาของพรรคเพื่อไทยกับประเทศไทยผูกพันกันอย่างแยกไม่ออกทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นได้ ประเทศไทยก็มักจะมีพลังใหม่ที่รุ่งโรจน์ตามไปด้วย โดยพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าในรูปแบบที่มีเอกภาพ โปร่งใส และทันต่อสถานการณ์ทางการเมือง โดยกำหนดอำนาจการตัดสินใจที่ชัดเจน ซึ่งอำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของพรรค อยู่ที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ต่อจากนี้จะไม่มีเส้นทางลัดหรือเส้นทางอ้อมใดๆ อีกแล้ว มีแต่เส้นทางตรงที่ชัดเจน

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า พรรคจะมีการนำแบบรวมหมู่ ที่รวดเร็ว โปร่งใส และมีเอกภาพ โดยกระจายอำนาจสู่คณะกรรมการภาคทั้ง 5 ภูมิภาค เพื่อให้สมาชิกและเครือข่ายในแต่ละพื้นที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

คณะกรรมการบริหารพรรคจะได้รับคำปรึกษาจาก 2 คณะหลัก ได้แก่ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ ซึ่งรวมนักคิด นักวางแผนที่อยู่กับพรรคมาอย่างยาวนาน และ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการเมือง ที่ผ่านประสบการณ์สมรภูมิทางการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย

ทั้งนี้ โครงสร้างการทำงานใหม่ของพรรคแบ่งเป็น 4 เสาหลัก ได้แก่

1. สำนักงานกิจการสภาผู้แทนราษฎร ดูแลการประสานงานและการทำงานในสภา
2. สำนักนโยบาย ศึกษาและวิจัยนโยบาย ซึ่งเป็น DNA ดั้งเดิมของพรรคไทยรักไทย
3. สำนักเลขาธิการพรรค ดูแลการบริหารงานกลาง ประสาน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ
4. สำนักสื่อสารพรรค ดูแลยุทธศาสตร์การสื่อสารกับประชาชน

โครงสร้างใหม่นี้เป็นไปเพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้าด้วยเอกภาพมากยิ่งขึ้น

น.ส.แพทองธารยังเปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยได้ยกเครื่องระบบรับสมัครสมาชิกและผู้ร่วมอุดมการณ์ทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ โปร่งใส และเข้าถึงง่าย เพื่อให้ทุกคนที่มีศักยภาพและแนวคิดแบบเดียวกันมีโอกาสร่วมงาน และพรรคเพื่อไทยจะเป็นพื้นที่ของคนที่เชื่อว่าประชาธิปไตยกินได้ และเชื่อว่าการเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยนโยบายสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง

ขณะที่ผู้สมัครหน้าใหม่กว่า 100 คนที่เปิดตัวในวันนี้ มาจากระบบสมัครใหม่นี้ทั้งหมด หลายคนเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ พร้อมเติบโตไปกับพรรค นอกจากนี้ พรรคยังจัดตั้งเวที YPP (Young Pheu Thai Platform) เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเรียนรู้ ฝึกฝน และซึมซับแนวคิดแบบพรรคก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้งจริง

"เรากำลังสร้างเส้นทางใหม่ให้คนที่อยากเปลี่ยนประเทศ เส้นทางนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะมาจากจังหวัดใดหรืออาชีพใด ถ้าคุณมีอุดมการณ์ คุณมีที่ทางในพรรคนี้แน่นอน"

นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดเวทีใหม่ชื่อ "เวทีตาดูดาว เท้าติดดิน (Moonshot Forum)" เพื่อศึกษา วิจัย และค้นหาทางออกใหม่ของประเทศในยุคที่โลกเผชิญความผันผวนทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ซึ่งไม่ใช่แค่เวทีพูดคุยทั่วไป แต่คือการตั้งเป้าหมายใหญ่เหมือนโครงการอะพอลโลที่ส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ เราจะคิดให้ใหญ่ เพื่อเปลี่ยนประเทศอย่างก้าวกระโดด โดยเวทีดังกล่าวจะเริ่มที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ภายในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนขยายสู่ภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้ประชาชนจากทุกภาคมีส่วนร่วมในการออกแบบนโยบายโดยตรง

ส่วนการยกเครื่องประเทศจะเริ่มจากการยกเครื่องระบบราชการ ที่ถือเป็นรากฐานของการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เรามีข้าราชการที่เก่งและมีใจ แต่ระบบกลับไม่ปลดปล่อยศักยภาพของเขา พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนค่านิยมจาก "ไม่ทำก็ไม่ผิด" ไปสู่ "ทำเต็มที่เพื่อประชาชน" และทำให้ข้าราชการภูมิใจที่ได้เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง

พรรคเพื่อไทยพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน โดยได้แต่งตั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง และตั้งกองอำนวยการเลือกตั้งเพื่อขับเคลื่อนพรรคในสนามใหญ่

พรรคจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบทั้ง สามคน และจะเปิดตัวพร้อมกันในเวลาที่เหมาะสม มั่นใจได้เลยว่าจะถูกใจพี่น้องประชาชนทุกระดับ

อ่านข่าว :

"เพื่อไทย" ลุกขึ้นสู้ เปิดยุทธศาสตร์ "ยกเครื่อง"

เพื่อไทยยกเครื่องใหญ่! เปิดตัวผู้สมัคร สส. เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง

"ตีหัวเข้าบ้าน" ยุทธศาสตร์ 4 เดือน เพื่อไทย?