ผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันจำนวนหนึ่ง อาจถูกระงับบัญชีจากแพลตฟอร์ม หากไม่มีใบขับขี่สาธารณะและไม่จดทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะ ตามที่กฎหมายกำหนดตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.2568
สำหรับไรเดอร์ส่วนหนึ่ง การจดทะเบียนให้ถูกต้องยังมีข้อจำกัด ทำให้พวกเขาหันไปให้บริการส่งอาหารแทนการรับส่งผู้โดยสาร เพื่อประคองรายได้ แต่การตบเท้าเข้าสู่บริการส่งอาหารมากขึ้นทำให้เกิดการแย่งงานกันเอง คนที่ส่งอาหารอยู่แล้วรายได้จึงลดลง
คนขับรถยนต์รับส่งคนหนึ่งกล่าว่า เพิ่งเริ่มอาชีพนี้ได้เพียง 1 วันและตัดสินใจมาจดทะเบียนรถสาธารณะทันที แม้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ดีกว่ามีปัญหาหากถูกจับ

ขณะที่ผู้ขับรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันส่วนหนึ่งมีความกังวลว่า การจดทะเบียน รย.18 จะทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นจากประกันภัยรถยนต์สาธารณะที่แพงกว่า รวมถึงกระบวนการในการเบิกเล่มออกมาเพื่อจดทะเบียน ไม่ง่ายนักสำหรับผู้ที่ยังผ่อนรถอยู่กับไฟแนนซ์ บางคนยังกังวลว่าการจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะ อาจมีผลกับการประเมินราคารถยนต์ในอนาคตหากจะขายออก
สุภาภรณ์ พันธ์ประสิทธิ์ ประธานกลุ่ม Rider Center ระบุว่า เสียงสะท้อนจากกลุ่มผู้ขับรถรับจ้างอยากทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร
แต่เงื่อนไขและกระบวนการบางอย่างไม่เอื้อต่อการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะ เช่น ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของรถ, จำกัดขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 125 ซีซี, ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่จดทะเบียน หรือมีผู้เซ็นรับรอง เป็นข้อจำกัดสำหรับไรเดอร์ต่างจังหวัดที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ
พร้อมเสนอว่า เมื่อออกกฎควบคุมไรเดอร์แล้ว อยากให้ภาครัฐพิจารณาควบคุมราคาอย่างเป็นธรรมด้วย เพราะทุกวันนี้ค่ารอบน้อยลงมาก ในขณะที่ไร้การคุ้มครองเพราะไม่ได้อยู่ในกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

กฎหมาย พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ.2565 หรือ กฎหมาย DPS (Digital Platform Services) กำหนดให้แพลตฟอร์มดิจิทัลประเภท Ride Sharing หรือ "แอปเรียกรถ" ต้องยกระดับมาตรฐานและความปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการมากขึ้น
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ได้รับอนุญาต 9 แอปฯ คาดว่าจะมีรถในระบบกว่า 100,000 คัน แต่ในจำนวนนี้มาจดทะเบียนเพียง 21,000 รายเท่านั้น ซึ่งหากมีการทำผิดจะจับปรับจริง รวมถึงยังมีอำนาจรวบรวมหลักฐานให้คณะกรรมการกลั่นกรองเสนอกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงดีอี เพื่อพิจารณาปิดแอปพลเคชันต่อไป
ขณะที่แอปพลิเคชันเรียกรถ Maxim ประเทศไทย เผยว่า คนขับที่ได้รับใบขับขี่สาธารณะเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.2568 แต่ยังมีปัญหาในการจดทะเบียนรถสาธารณะ

ผลสำรวจคนขับกว่า 2,000 รายใน 8 จังหวัด พบว่า 45.9% ติดปัญหาเรื่องรถเช่าซื้อ, 31.2% ไม่สามารถลงทะเบียนรถที่ไม่ใช่ชื่อของตน, 26.5% ใช้รถเกิน 9 ปี และปัญหาอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมและประกันที่สูง
นายพงศ์พัฒน์ อักษราวรกานต์ กรรมการผู้จัดการ Maxim ประเทศไทย เตือนว่า หากไม่มีการผ่อนผัน อาจมีคนขับหลายพันรายหลุดจากระบบ ซึ่งเป็นรายได้หลักของพวกเขา พร้อมยืนยันสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ขอความยืดหยุ่นเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างทั่วถึงและยั่งยืน เพื่อให้ทุกคนเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ถูกตัดโอกาสในการหาเลี้ยงครอบครัว
อ่านข่าว
กฎใหม่ Ride Sharing "ไรเดอร์" เลือกงานได้-ค่าโดยสารโปร่งใส
เปิดรายละเอียด "คนละครึ่งพลัส" ใครได้สิทธิ ? ตรวจคุณสมบัติด่วน
"อนุทิน" คิกออฟ 28 ต.ค.68 เพิ่มทางเลือกประชาชนซื้อยานอกรพ.เอกชน