การสอบท้องถิ่นปี 2568 ล่าสุดมีความชัดเจนว่า อาจจัดสอบในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ มีผู้สมัครกว่า 430,000 คน ที่ต่างมีความหวังว่าจะได้เป็นข้าราชการ เช่นเดียวกลุ่มลูกจ้างฯ อปท. ที่อยากมีงานที่มั่นคง เพราะหลายคนถูกเรียกรับเงิน แลกกับการต่อสัญญาฯ
ข้อความจากเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ที่ติดตามปัญหาการจัดสอบบรรจุรับราชการหรือพนักงานท้องถิ่นปี 2568 หรือ การสอบท้องถิ่นปี 2568 สะท้อนกระแส ดราม่าในสื่อสังคมออนไลน์ ที่ถกเถียงเรื่องการจัดสอบว่า “ส่วนกลางหรือ อปท.ควรเป็นผู้จัดสอบ”

ที่สำคัญคือ ทุกครั้งที่มีการจัดสอบ มีกลุ่มใดที่ได้ผลประโยชน์จากการจัดสอบหรือไม่ เพราะจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ความโปร่งใสในการจัดสอบ และการเรียกรับผลประโยชน์ ยังคงเป็นข้อกังวลของหลายฝ่าย และมีความพยายามตรวจสอบและหากลไกแก้ปัญหา
ในยุค คสช. จึงมีคำสั่ง คสช. 8/2560 กำหนดให้ส่วนกลางเป็นผู้จัดสอบแทนจังหวัด และ อปท.ที่เคยจัดสอบเอง เพื่อแก้ปัญหาระบบอุปถัมภ์และการเรียกรับผลประโยชน์ แต่การจัดสอบปี 2568 ยังพบปัญหาร้องเรียนไม่ต่างจากอดีต
กลางเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แจ้งประชาสัมพันธ์เลื่อนสอบฯ ต่อมาในวันที่ 7 ต.ค.2568 ได้แจ้งพร้อมเดินหน้าจัดสอบ โดยระบุว่า กรณีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้คัดเลือกมหาวิทยาลัย เพื่อจ้างดำเนินการจัดสอบแข่งขัน ซึ่งได้มีการอุทธรณ์ผลการพิจารณาการประกวดราคา
ล่าสุดคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ได้พิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ และตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่า กรณีนี้ข้อกล่าวอ้างของผู้อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จึงสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนต่อไป และทางกรมฯ จะได้แจ้งมหาวิทยาลัยที่ได้ประกาศให้เป็นผู้ชนะการเสนอราคา เพื่อดำเนินการจัดจ้างตามระเบียบฯในขั้นตอนต่อไป โดยเร็ว

ล่าสุดมีข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์สอบธรรมศาสตร์ ออกมาระบุว่า อาจสามารถจัดสอบได้ในวันที่ 7 ธ.ค.2568
เตือน อย่าหลงเชื่อจ่ายเงินแสนแลกบรรจุ
เมื่อมีความชัดเจนว่า จะสามารถจัดสอบท้องถิ่นได้ในเร็วๆ นี้ นายโกมล พินิจมนตรี นายกเทศมนตรีตำบลหนองแวงแก้มหอม อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ได้ให้คำแนะนำลูกจ้างเหมาบริการของเทศบาลฯ ให้เตรียมตัวสอบ และสอบบรรจุรับราชการให้ได้ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า มีอาชีพมั่นคง
อย่าหลงเชื่อขบวนการที่บอกว่า หากจ่ายเงินหลายแสนจะสอบได้และถูกเรียกบรรจุ ซึ่งมีทั้งการตกเบ็ดหลอกลวง และเป็นคดีทุจริต เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง เกิดขึ้นมาโดยตลอดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
นายโกมลเล่าว่า ช่วงประมาณก่อนปี 2560 ที่ จ.สกลนคร จัดสอบท้องถิ่น มีขบวนการเรียกรับเงินจากผู้สมัคร คนละ 6-7 แสนบาท แต่สุดท้ายก็ถูกดำเนินคดี
พ่อแม่อยากให้ลูกเป็นข้าราชการ ยอมเสียเงิน 6-7 แสนบาท ต้องขายนามาจ่าย ทำงานได้ 2 ปี ยกเลิกผลสอบ พ่อแม่จะเอาเงินที่ไหนซื้อนาคืน ลูกก็ต้องโดนคดีด้วย
นายกเทศมนตรีตำบลหนองแวงแก้มหอม ระบุว่า ทั้งส่วนกลางจัดสอบ หรือ จังหวัด อปท.จัดสอบ ก็มีจุดที่อันตราย มีช่องโหว่ให้ทุจริตได้ ไม่ว่าหน่วยงานใดจัดสอบ ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จึงอยากให้ภาครัฐแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้การจัดสอบโปร่งใสเป็นธรรมที่สุด ให้คนเก่งมีความสามารถจริง ๆ ได้ทำงานพัฒนาท้องถิ่น
หากเป็นท้องถิ่นจัดสอบ ก็คงเป็นผู้บริหารที่ถูกกล่าวหาว่า มีเด็กเส้น มีผลประโยชน์

สำหรับการจัดสอบท้องถิ่นในปี 2568 ถูกตั้งข้อสังเกตว่า การจัดสอบที่ส่วนกลางดำเนินการพบปัญหาล่าช้า เพราะตั้งแต่ปี 2564 ก็ยังไม่สามารถจัดสอบได้ ทำให้มีตำแหน่งว่างจำนวนมาก และมีการร้องเรียนเรื่องความโปร่งใส
วันที่ 18 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเอกฉันท์ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 8/2560 ทำให้การสอบท้องถิ่นในครั้งต่อไปอาจเปลี่ยนเป็นให้จังหวัด และ อปท.จัดสอบเอง ซึ่งยังเป็นประเด็นถกเถียงว่า จะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่
ความหวังบรรจุราชการของลูกจ้างฯ อปท.
เทศบาลตำบลหนองแวงแก้มหอม อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี มีเจ้าหน้าที่ 80 กว่าคน เป็นลูกจ้างเหมาบริการกว่า 30 คน นายกเทศมนตรี บอกว่า การรับลูกจ้างฯ ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือให้นักศึกษาที่จบใหม่ มีโอกาสทำงานพัฒนาท้องถิ่น เพราะสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้หางานได้ยาก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างหวังให้ลูกหลานได้รับราชการ
ในปีนี้มีลูกจ้างฯ ที่เตรียมสอบบรรจุรับราชการหรือพนักงานท้องถิ่นปี 2568 จำนวน 5 คน หนึ่งในนี้คือ นราพร แสนละมุล เธอใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน หาที่เงียบๆ อ่านหนังสือ และหวังจะสอบบรรจุในตำแหน่ง นักทรัพยากรบุคคล

นราพร แสนละมุล ลูกจ้างเหมาบริการ ทต.หนองแวงแก้มหอม อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี บอกว่า เพิ่งเรียนจบสาขา รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เริ่มทำงานเป็นลูกจ้าง เทศบาลตำบลหนองแวงแก้มหอม ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนิติกร
มีหน้าที่ช่วยทำเอกสาร และรับเรื่องร้องเรียนปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท แม้ได้ค่าจ้างไม่กี่พันบาท แต่เธอก็มองว่า ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ และอยากสอบบรรจุข้าราชการท้องถิ่นให้ได้ เพื่อจะได้ย้ายมาทำงานใกล้บ้าน ตามที่พ่อแม่ตั้งความหวังไว้
พ่อแม่คาดหวัง เพราะกว่าเราจะเรียนจบใช้เงินเยอะ เราเองก็อยากมีงานทำประจำ มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ เผื่อวันหนึ่งพ่อแม่ไม่อยู่ด้วย
นราพร บอกว่า เธอเชื่อมั่นว่า การจัดสอบท้องถิ่นปี 2568 จะดำเนินการอย่างสุจริต ไม่มีการโกง ส่วนการสอบครั้งที่ผ่านมา รุ่นพี่บอกว่าข้อสอบยากมาก เธอจึงใช้เวลาช่วงนี้เร่งอานหนังสือด้วยความหวังและตั้งใจ
ปัญหาลูกจ้างฯถูกเรียกเงินแลกต่อสัญญาจ้าง
ท่ามกลางความหวังของคนเตรียมตัวสอบ ทีมข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคอีสาน ก็ได้รับข้อมูลจากลูกจ้างเหมาบริการส่วนหนึ่ง ที่ทำงานใน อปท. ในจังหวัดภาคอีสาน หลายคนพูดตรงกันว่า หากอยากมีอนาคตที่ดี ต้องสอบบรรจุให้ได้ เพราะเงินเดือน 7,000-9,000 บาท แทบไม่พอใช้ และบางแห่งยังถูกผู้บริหารเรียกรับเงิน แลกกับการต่อสัญญาจ้าง ทั้งรายเดือน และรายปี ไม่ต่างจากที่ปรากฏในข่าวในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
วันที่ 3 ก.ย.2568 เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. ร่วมกับปปป. และสำนักงาน ป.ป.ช. จับกุมนายกเทศมนตรี ต.ท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร และพลเรือน 1 คน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายกเทศมนตรีฯ ข้อหาเรียกรับเงินจากพนักงานจ้างเหมาฯ เพื่อแลกกับการต่อสัญญาจ้าง

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพนักงานจ้างเหมาของเทศบาลตำบลท่าศิลาว่า นายกเทศมนตรีเรียกรับเงินจากพนักงานจ้างเหมาฯ จำนวน 50-60 คน เพื่อแลกกับการต่อสัญญาจ้าง หากใครไม่จ่ายก็จะไม่ต่อสัญญาให้
วันที่ 7 ก.ค.2568 ลูกจ้างเหมาเทศบาลตำบลลำคลอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้าร่วมประชุมเจรจาไกล่เกลี่ยหาทางออกปัญหา ร่วมกับท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม หลังนายกเทศมนตรีตำบลลำคลอง สั่งเลิกจ้างลูกจ้างแบบรวดเดียว 18 คน หลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยที่บอกล่วงหน้าเพียง 2-3 วัน ทำให้หลายคนหางานใหม่ไม่ทัน แบกรับภาระหนี้สิน ค่าใช้จ่ายดูแลครอบครัว
ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า นายกเทศมนตรีตำบลลำคลอง จะจ้างลูกจ้างทั้ง 18 คนต่อ โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้าง 7,000-9,000 บาท ต่อเดือน การจ้างเป็นสัญญาแบบเดือนต่อเดือน และต้องปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถ ตามระเบียบของราชการ ส่วนสาเหตุที่เลิกจ้างนั้น นายกเทศมนตรีฯ ชี้แจงว่า เนื่องจากได้รับรายงานว่า สถานะทางการเงินการคลัง อาจจะไม่เพียงพอต่อการจ้างลูกจ้าง
เสียงคัดค้าน-เห็นด้วย บรรจุข้าราชการท้องถิ่นกรณีพิเศษ
ข้อมูลจากเพจ เฟซบุ๊ก “เตรียมสอบและสรุป ก.พ.และท้องถิ่น 68-69” ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2024 เปิดเผยข้อมูลสถิติการสอบท้องถิ่น จำนวนผู้เข้าสอบและจำนวนผู้สอบผ่าน

จำนวนผู้สอบผ่านชี้ให้เห็นว่า การสอบบรรจุท้องถิ่นไม่ใช่เรื่องง่าย
หากย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 มีกระแสข่าวที่สั่นสะเทือนการสอบท้องถิ่น ในสื่อสังคมออนไลน์
“ลูกจ้างท้องถิ่น" เฮ! เป็นลูกจ้าง 3 ปีขึ้นไปได้บรรจุ
คณะอนุกรรมการโครงสร้าง ก.ท.เตรียมพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ การคัดเลือกพนักงานจ้าง เป็นข้าราชการใน อปท. เป็นกรณีพิเศษ โดยไม่ต้องสอบแข่งขัน”
ในเอกสารระเบียบวาระการประชุมคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างและอัตรากำลัง (อ.ก.ท. โครงสร้าง) ครั้งที่ 11/2567 วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ส่วนหนึ่งระบุว่า มีวาระพิจารณา การกำหนดมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการคัดเลือกกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขัน กรณีขาดแคลนอัตรากำลังข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
ต้นเรื่อง
1.ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. ในการประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567
มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกรณีปัจจุบัน มีอัตราข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นสายงานผู้ปฏิบัติ สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่างเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล และการแก้ไขปัญหาแก่ประชาชนในพื้นที่
โดยเฉพาะในหลายตำแหน่ง ที่เคยมีการเปิดสอบแข่งขันโดยส่วนกลาง แต่ไม่มีผู้สอบแข่งขันได้ หรือมีผู้สอบแข่งขันได้จำนวนน้อย รวมทั้งกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นพื้นที่ห่างไกลหลายพื้นที่ ซึ่งไม่มีผู้ประสงค์ไปบรรจุและแต่งตั้ง
จึงเห็นควรมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ ไปพิจารณากำหนดมาตรฐานทั่วไป เกี่ยวกับการคัดเลือกกรณีที่มีเหตุพิเศษ ที่ไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขันเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
2.สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือเสนอ ให้มีการพิจารณากำหนดให้สามารถดำเนินการคัดเลือก กรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขันเพื่อบรรจุลูกจ้าง พนักงานจ้างขององค์กรส่วนท้องถิ่น ที่ปฏิบัติงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามปีขึ้นไป เป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นได้
เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้บุคลากรที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานท้องถิ่น ได้คนในท้องถิ่นทำงาน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเกิด อันจะเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทันทีที่มีข่าวเผยแพร่กรณีการผลักดันให้เกิดการคัดเลือกพนักงานจ้าง เป็นข้าราชการใน อปท. เป็นกรณีพิเศษโดย ไม่ต้องสอบแข่งขัน ก็มีทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งสนับสนุน และคัดค้าน ฝ่ายสนับสนุนก็มองว่า จะได้ข้าราชการที่มีประสบการณ์และทำงานเป็นอยู่แล้ว เปิดโอกาสให้ลูกจ้างที่มีความสามารถได้สอบบรรจุราชการเป็นกรณีพิเศษ
ฝ่ายคัดค้านยกเหตุผลว่า หากจัดสอบท้องถิ่นกรณีพิเศษได้จริง จะยิ่งส่งเสริมระบบอุปถัมภ์ เป็นทางลัดให้ลูกท่านหลานเธอที่ใช้เส้นสายเข้าทำงานเป็นลูกจ้างจะรับราชการกันถ้วนหน้า แต่คนเก่งตั้งใจสอบอาจไม่มีโอกาส
ทีมข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคอีสาน ได้รับข้อมูลจากเครือข่ายต้านทุจริตในพื้นที่ จ.บึงกาฬ และสกลนคร ที่อ้างว่า ในการจัดสอบท้องถิ่นปี 2564 มีผู้สมัครที่จ่ายเงินจำนวน 7 แสนบาท สามารถสอบได้ และได้รับการบรรจุ
โดยวิธีการ กลุ่มนายหน้าจะติดต่อผู้ที่สมัครว่า จะยอมจ่ายเงินหรือไม่ หากยินยอม ขั้นแรกให้จ่ายเงิน 5,000-10,000 บาท จากนั้นจะได้ข้อสอบ และได้ไปติว เมื่อผลสอบออกมา ใครสอบได้ ก็เตรียมจ่ายเงินแสน ใครสอบไม่ได้ ก็รับเงินคืน 5,000-10,000 บาท

โดยกลุ่มนายหน้าอ้างว่า การสอบผ่านได้ขึ้นบัญชี และถูกเรียกบรรจุต้องจ่ายเงิน 7 แสนบาท และใน จ.บึงกาฬ มีคนที่จ่ายเงินแล้วถูกเรียกบรรจุจริง ๆ
แม้จะมีการอ้างถึงปัญหานี้ และมีข้อมูลว่า มีขบวนการใน จ.สกลนคร เรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือให้สอบท้องถิ่นได้ และถูกเรียกบรรจุในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยทำเป็นขั้นตอนรัดกุม รอดพ้นจากการตรวจสอบเอาผิดจาก ป.ป.ช. แต่เครือข่ายต้านทุจริตในพื้นที่ จ.บึงกาฬ และสกลนคร มองว่า การจัดสอบที่ส่วนกลางนั้น ทุจริตได้ยาก แต่อาจมีการทุจริตในขั้นตอนการเรียกบรรจุ
ที่น่าเป็นห่วงคือ หากให้จังหวัด และ อปท. จัดสอบเอง อาจยิ่งทำให้เกิดปัญหาทุจริต และเรียกรับเงินได้ง่าย โดยทางเครือข่ายฯ ขอให้หน่วยตรวจสอบทั้ง ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.ได้ติดตามการสอบท้องถิ่นปี 2568 โดยเฉพาะขั้นตอนการเรียกบรรจุ
มีกระแสข่าวว่า ผู้บริหาร อปท.บางแห่งมองว่า แม้จะมีการขึ้นบัญชีผู้ที่สอบผ่านปี 2568 แต่ก็จะไม่เรียกบรรจุ เพราะจะรอจัดสอบเองในครั้งต่อไป เพื่อที่จะได้คนของตัวเองเข้ามาทำงาน และเรียกรับเงินได้ง่าย กรณีนี้จะทำได้หรือไม่ และจะมี อปท.ที่กล้าทำจริงหรือไม่
นี่คือสาเหตุที่ทำให้หลายภาคส่วน กำลังติดตามการแก้ปัญหาการสอบท้องถิ่น รวมทั้งการผลักดันกฎหมายใหม่ อย่าง ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งมีทั้งร่างฯ ที่เสนอโดยพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยความโปร่งใส รวมทั้งจะนำไปสู่การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ได้อย่างไร
รายงาน : พลอยไพฑูรย์ ธุระพันธุ์ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ขาวภาคอีสาน
อ่านข่าว :
แท็กที่เกี่ยวข้อง: