วันนี้ (9 ต.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชาที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ ขณะที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ช่วงบ่ายพบว่ามีการรวมตัวของประชาชนราว 100 คน กระจายตัวตามจุดต่างๆ
สอดคล้องกับชาวบ้านที่ได้ยินเสียงประกาศตามสายจากฝั่งกัมพูชา ว่าให้รวมตัวกันเพื่อปกป้องพื้นที่และคาดการณ์ว่าไทยจะเข้าพื้นที่ภายใน 1-3 วันนี้
ขณะที่ชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว ระบุว่า หากทหารมีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งก็พร้อมจะปฏิบัติตามทันที และได้จัดเตรียมเสื้อผ้า พร้อมอพยพออกจากพื้นที่เมื่อมี สถานการณ์

ส่วนชาวบ้านบ้านหนองจานที่ทำกินหลักเขตแดนที่ 48-49 ได้พาหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศลงพื้นที่ สะท้อนความเดือดร้อนที่ถูกชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย และใกล้ถึงฤดูเกี่ยวข้าวเดือน พ.ย. เกรงว่าหากไม่มีการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่จะไม่กล้าเข้าไปเกี่ยวข้าว และที่ผ่านมาจุดนี้ทหารกัมพูชามักอ้างสิทธิ หากมีชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่จะถืออาวุธปืนมาข่มขู่
ส่วนในวันที่ 10 ต.ค.นี้ เป็นวันที่คนไทย โดยเฉพาะชาวบ้านใน จ.สระแก้ว รอดูท่าทีฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล รวมถึงฝั่งกัมพูชาว่าจะดำเนินการอย่างไร จะปฏิบัติตามข้อเสนอของกองทัพภาคที่ 1 และปฏิบัติตามกรอบผลประชุม GBC หรือไม่
ฝ่ายความมั่นคง ย้ำว่า เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้วและทุกขั้นตอนจะดำเนินการจากเบาไปหาหนัก รวมถึงปฏิบัติตามหลักสากลที่ทั่วโลกยอมรับ

ขณะเดียวกันมีการเตรียมขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ 60 ตู้จาก จ.ชลบุรี มาที่ จ.สระแก้ว ในวันที่ 10 ต.ค. โดยจะนำมาเป็นแนวกั้นชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณบ้านหนองจาน เพื่อสนับสนุนกองทัพภาคที่ 1 ในการทวงคืนอธิปไตย
ส่วนที่ จ.ตราด คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาข้อดี-ข้อเสียการยกเลิก MOU43 และ MOU44 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังข้อมูล เบื้องต้นระบุว่าหากจะยกเลิกต้องมีหลักฐานการละเมิดข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชาให้ชัดเจน เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย
อ่านข่าว
ทภ.1 ทำหนังสือด่วน เก็บกู้ทุ่นระเบิดบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว 10 ต.ค.นี้
"ทรัมป์" ส่งจดหมายหา "อนุทิน" ขอไทย-กัมพูชาแก้ชายแดนร้อน
ทภ.1 พร้อมปกป้องอธิปไตย ยันจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ในช่วงที่ได้เปรียบ