วันนี้ (9 ต.ค.2568) การเห็นชอบข้อตกลงสันติภาพระยะแรกระหว่างอิสราเอลและฮามาส ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จเด่นของ ปธน.สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่พยายามแทรกแซงยุติความขัดแย้งในกาซาและจุดร้อนทั่วโลก เพื่อหวังคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญยืนกรานว่า ทรัมป์ไม่มีโอกาสครองรางวัลนี้แน่นอน แม้จะพยายามแค่ไหน
ภาพครอบครัวตัวประกันชาวอิสราเอลในวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ปรบมือดีใจหลังทรัมป์โทรแจ้งว่าคนที่หายไปจะกลับบ้านได้วันจันทร์หน้า (13 ต.ค.) สะท้อนความสำเร็จในการนำสันติภาพสู่กาซา ซึ่งทรัมป์มุ่งหวังให้เป็นจุดขายลุ้นโนเบล ทรัมป์ย้ำเสมอว่าเขาสมควรได้รางวัลนี้ เพราะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งถึง 8 จุด แต่ผู้เชี่ยวชาญสวนกลับว่าทรัมป์ไม่ใช่ตัวเลือกดีที่สุด
นักประวัติศาสตร์ผู้ศึกษารางวัลโนเบล ชี้ว่าทรัมป์หมดโอกาสเพราะหลายเหตุผล เช่น การสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกาซา และความสัมพันธ์อันดีกับวลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.รัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญบางคนเสริมว่า แก่นของรางวัลนี้คือผู้ที่ส่งเสริมมิตรภาพระหว่างประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ทรัมป์กลับทำตรงข้าม โดยถอนสหรัฐฯ จากองค์การอนามัยโลกและความตกลงปารีส รวมถึงก่อสงครามการค้ากับนานาชาติ
ปีนี้มีผู้เสนอชื่อชิงรางวัลถึง 338 รายชื่อ แบ่งเป็นบุคคล 244 คน และ องค์กร 94 แห่ง โดยผู้ชนะอาจเป็นองค์กรมนุษยธรรม หน่วยงานสหประชาชาติ หรือม้ามืดก็ได้ หากไม่นับทรัมป์ ตัวเก็งอันดับต้น ๆ คือ เครือข่ายอาสาสมัครช่วยเหลือฉุกเฉินแห่งซูดาน ที่ให้ความช่วยเหลือท่ามกลางสงครามในซูดาน "ยูเลีย นาวัลนี" ภรรยาของอเลกเซย์ นาวัลนี แกนนำฝ่ายค้านรัสเซียที่ถูกลอบสังหารขณะถูกคุมขังปีที่แล้ว และสำนักงานสถาบันประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งติดตามการเลือกตั้งและส่งเสริมประชาธิปไตย
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงการคาดการณ์ เพราะรายชื่อผู้เสนอชื่อทั้งหมดเก็บเป็นความลับ ส่วนการประกาศผู้ชนะจะมีขึ้นพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) ประมาณ 16.00 น. ตามเวลาไทย
อ่านข่าวเพิ่ม :
"ขีปนาวุธ–AI–โดรน" เกาหลีเหนือเปิดคลังแสงฉลอง 80 ปีพรรคแรงงาน
"ทรัมป์" จ่อเยือนอียิปต์ เชื่ออิสราเอล-ฮามาสใกล้บรรลุหยุดยิง