เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2568 กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมและรื้อย้ายชุมชนริมแม่น้ำสาย หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ และต้องการความชัดเจนถึงมาตรการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอาจต้องมีการรื้อย้ายบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อสร้างแนวพนังป้องกันน้ำท่วม
น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณชุมชนเกาะทราย เพื่อดูผลกระทบการวางแนวป้องกันบิ๊กแบ็ก กระทบบ้านเรือนและการเข้าออกของชุมชน พร้อมกับร่วมรับฟังปัญหาจากชาวบ้านบริเวณชุมชนเกาะทราย ตลาดสายลมจอย และชุมชนหัวฝาย ซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2567
ซึ่งทั้ง 3 ชุมชนที่ลงพื้นที่อาจต้องถูกรื้อถอนและย้ายบ้านเรือนของชาวบ้านไปอยู่ในที่อยู่แห่งใหม่ ตามการออกแบบของกรมโยธาธิการและผังเมืองที่จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็น อย่างน้อย 3 เวที

น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณชุมชนเกาะทราย รับฟังผลกระทบของชาวบ้าน
น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณชุมชนเกาะทราย รับฟังผลกระทบของชาวบ้าน
ในช่วงบ่ายได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เทศบาลตำบลแม่สาย โดยมีนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน ก่อนที่ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะให้หน่วยงานและประชาชนได้แสดงความเห็น

เวทีรับฟังความเห็นประชาชน และหน่วยงานต่าง ของ กสม.ที่เทศบาลตำบลเม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เวทีรับฟังความเห็นประชาชน และหน่วยงานต่าง ของ กสม.ที่เทศบาลตำบลเม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
นายณัฐพล ต้นแก้ว วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงแผนศึกษาออกแบบฯ ตอนนี้ได้รับงบประมาณ 24 ล้านบาท จากคณะรัฐมนตรีจ้างบริษัทที่ปรึกษาคาดว่าจะลงนามบริษัทที่ปรึกษาได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อศึกษาการแก้ปัญหาน้ำหลากและอุทกภัยดินโคลน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยจะศึกษา 2 ระบบ คือ ระบบป้องกันน้ำหลาก จากแม่น้ำสายไม่ให้เข้าพื้นที่ตัวเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ระบบที่สอง คือ จัดให้มีระบบการระบายน้ำในเมืองเพื่อระบายน้ำออกให้ได้เร็วที่สุด

แนวทางการแก้ปัญหาน้ำหลาก อุทกภัย-โคลน และปัญหาน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย แบบยั่งยืน
แนวทางการแก้ปัญหาน้ำหลาก อุทกภัย-โคลน และปัญหาน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย แบบยั่งยืน
ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2568 บริษัทที่ปรึกษาได้ออกแบบเป็น 3 แนวทางแก้ปัญหา คือ ถนนป้องกันน้ำท่วมจะยกระดับและมีถนนอยู่ด้านบน โดยทั้ง 3 แนวทางจะไปแนวทางเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันในถนน เช่น พื้นที่เศรษฐกิจจะมีถนนเดิมและถนนใหม่ เมื่อถึงด่านแห่งที่สองจะมีถนนเดิมอย่างเดียว

พื้นที่แนวเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ริมแม่น้ำสาย และแนวคันดินที่จะมีการก่อสร้าง ระยะทาง 3.96 กม.
พื้นที่แนวเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ริมแม่น้ำสาย และแนวคันดินที่จะมีการก่อสร้าง ระยะทาง 3.96 กม.
แนวทางการแก้ปัญหาน้ำหลากอุทกภัยโคลนและปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตชุมชนแม่สายแบบยั่งยืนในพื้นที่มีการจำแนกที่ดินเอกมีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือเป็นที่ราชพัสดุ หรือสถานที่ราชการ มีการจำแนกไว้หมด
โดยจะมีจำนวนหลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบในการทำคันกั้นน้ำ จะย้ายหรือดำเนินการต่อไปจะเป็นขั้นตอนในการดำเนินการต่อไปซึ่งเป็นแนวคิดซึ่งทางที่ปรึกษาจะนำไปรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่อีกครั้งซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ร่างขึ้น
น.ส.จันทร์สม เป็นตาธรรม ธนารักษ์พื้นที่เชียงราย กล่าวว่า แนวริมแม่น้ำที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา มี 14 ราย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมีการบอกเลิกสัญญาเช่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหลืออีกประมาณ 40 หลังคาเรือนที่อยู่ในโครงการขั้นตอนของการศึกษา
การที่ดูแลหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามเงื่อนไขของกฎหมายที่ราชพัสดุจะไม่มีการชดเชยไม่มีการเยียวยาใดๆทั้งสิ้นตามเงื่อนไขสัญญาเช่า
ในกลุ่มผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจะให้ยื่นคำขอแจ้งความประสงค์ไว้และนำเสนอเรื่องนี้ผ่านไปที่จังหวัดเชียงรายเพื่อรวบรวมเป็นฐานข้อมูลให้กับคณะกรรมการที่ศึกษาแนวทางกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการหรือย้าย
นายนิวัติ มีวรรณสุขสกุล เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย กล่าวว่าพื้นที่ป่าไม้ริมแม่น้ำสายได้เชิญชาวบ้านมาประชุม 3 ครั้ง ได้อธิบายให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือทำหนังสือยินยอมให้รื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำแม่สาย และอีกส่วนหนึ่งชาวบ้านบอกว่าต้องได้ค่าชดเชยหรือค่าที่อยู่อาศัยก่อนจึงจะให้ความร่วมมือ
ป่าไม้ไม่มีระเบียบค่าทดแทน เพราะเป็นพื้นที่ป่า

ประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
ประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าพื้นที่ริมแม่น้ำแม่สายได้มีการสำรวจหมดแล้ว มี 843 หลังคาเรือน แต่ยังไม่ประเมินแต่ละหลังมีค่าก่อสร้างเท่าไหร่สำรวจเฉพาะบ้านเรือนและบ้านเลขที่มีกี่หลังและประชากรเท่าไหร่
การเยียวยาต่างๆอยู่ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง จะรวบรวมข้อมูลว่าที่มีกรรมสิทธิ์ อาจมีค่าที่ดิน ส่วนที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ รัฐจะจ่ายอย่างไรเป็นเรื่องระเบียบของราชการ ตรงนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน
นายประสงค์กล่าวอีกว่าถ้าไม่มีการย้ายออก หรือถ้าย้ายชาวบ้านจะไปอยู่ตรงไหน รัฐจะต้องเยียวยาหรือดูแลอย่างไร ต้องมีการเจรจา
ว่าที่ ร.ต.หญิงลภัส อมรพลัง เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการชุมชนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กล่าวว่าเรื่องการดูแลและช่วยเหลือเบื้องต้น ทางหน่วยงานภัยพิบัติปี 2567 ได้มีการสนับสนุนงบซ่อมแซมบ้านจากภัยพิบัติ ตอนนี้ให้สภาองค์กรชุมชนในพื้นที่สำรวจข้อมูลพื้นที่ได้รับผลกระทบ
การสนับสนุนหรือย้ายบ้าน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนสนับสนุนที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย มีงบสนับสนุนการสร้างบ้านใหม่ สิ่งสำคัญคือเรื่องที่ดินที่จะไปอยู่ ต้องอยู่ได้ไม่เปลี่ยนอาชีพเดิมมาก และต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจว่าจะย้ายหรือไม่
นายอัครวิน สวัสดี หัวหน้าสถานีใบยาสูบเวียงพางคำ ตัวแทนหัวหน้าสำนักงานยาสูบเชียงราย กล่าวว่าพื้นที่กรรมสิทธิ์ของโรงงานยาสูบในพื้นที่อำเภอแม่สายมีหลายส่วน ที่ใกล้ชุมชนมากที่สุดเป็นที่ดินที่ทำการสถานีใบยาสูบเวียงพางคำมีพื้นที่ 75 ไร่เศษใกล้เมืองมากที่สุด ที่ดินส่วนนี้ปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงงานยาสูบแห่งประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.การยาสูบปี 2561 ได้แบ่งแยกทรัพย์สินระหว่างกรมธนารักษ์กับโรงงานยาสูบเรียบร้อยแล้ว
ที่ดินของโรงงานยาสูบ ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลัง ที่ผ่านมากรมทางหลวงขอใช้พื้นที่บางส่วนทำถนน แต่ขอเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์เรื่องอื่นยังไม่มี ถ้าจังหวัดเชียงรายต้องการใช้ต้องทำหนังสือผ่านคณะกรรมการยาสูบแห่งประเทศไทย
นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่าปี 2567 มีเหตุการณ์ดินถล่ม น้ำท่วมหนัก ที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้ดำเนินการก่อสร้างพนังป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวและกึ่งถาวร ระยะทาง 3.6 กิโลเมตรในอำเภอแม่สาย และขุดลอกแม่น้ำรวกอีก 42 กิโลเมตร ส่วนทางการเมียนมาได้ดำเนินการขุด ได้ 7เปอร์เซ็นต์ และไม่ขุดต่อ
งบในการก่อสร้างหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่อไปตอนนี้ยังไม่มี ล่าสุดได้ทำหนังสือแจ้งทางจังหวัด
ส่วนแผนแก้ปัญหาระยะยาว บริษัทที่ปรึกษาถ้ามีการลงนามศึกษาในเดือนพฤศจิกายน จะดำเนินการ 8 เดือนคาดว่าจะเสร็จในช่วงกลางเดือนมิถุนายน แต่ปีหน้าน้ำก็จะมาอีกแม่สายก็มีน้ำท่วมอีก
นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่สาย กล่าวว่าศักยภาพท้องถิ่นไม่สามารถทำได้ ถ้าปีหน้าการเจรจาไม่สำเร็จและต้องมานั่งซ่อมบิ๊กแบ็คก็ยังไม่มีงบประมาณ ที่ของบประมาณไปได้รับแจ้งจากทางอำเภอไม่ได้รับงบประมาณ ถ้าเป็นอย่างนี้ในช่วง 8 เดือนที่จะทำงานจนก่อนถึงเดือนมิถุนายน น้ำมาก่อนอยู่แล้วอาจจะต้องมีการของบจากส่วนอื่น

ชาวบ้าน อ.แม่สาย ที่มาร่วมรับฟังและร่วมแสดงความคิดเห็น
ชาวบ้าน อ.แม่สาย ที่มาร่วมรับฟังและร่วมแสดงความคิดเห็น
นายนพดล กันทะวงค์ ตัวแทนชาวชุมชนเกาะทราย อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่าที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยินแต่ข่าวลือ เช่น ทุบตึก ชาวบ้านตกใจเพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน หรือไปนอนที่ไหน มีแผนรองรับหรือไม่ ชาวบ้านอยากทราบแผนที่ชัดเจนอยากได้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน
”มีข่าวลือมาเรื่อยๆ ชาวบ้านไม่สบายใจ ชาวบ้านอยากทราบว่าถ้ามีการอพยพออกจากพื้นที่เพื่อไม่ให้น้ำท่วมกระทบคนในแม่สาย อยากถามว่าพวกเราจะไปอยู่ที่ไหน จะมีบ้านเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างหรือไม่
พวกผมเลือกเกิดไม่ได้ อยากมาเกิดไกลๆแม่น้ำ เมื่อเป็นอย่างนี้ปัญหาทุกปัญหาจะมีการปรองดองอย่างที่พูดไว้อย่างไร
ต้องขอบคุณกรรมการสิทธิมนุษยชนที่เห็นชาวบ้านแม้เป็นส่วนเล็กน้อยที่ต้องโดนหรือถอนหรือโยกย้ายออกจากถิ่นที่อยู่อาศัย ซึ่งตัวเองอยู่ในบ้านเกาะทรายมาสามรุ่นแล้ว
ด้านชาวบ้านชุมชนเกาะทรายอีกคนบอกว่า ตัวเองได้รับผลกระทบเหมือนกันอยากมีทางออกที่ดี กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีความชัดเจนหน่วยงานไหนจะเข้ามาดูแลหรือให้ความมั่นใจได้เลย
ชาวบ้านชุมชนเกาะทราย อีกคนกล่าวว่าที่ผ่านมาได้มีหน่วยงานให้ตัวเองเซ็นเอกสารยินยอมให้มีการรื้อถอนร่วมกับชาวบ้านรวม 7 หลัง หน่วยงานให้เซ็นบอกว่าจะนำเข้าไปใน ครม. บ้านเพียงแค่ 6-7 หลังจะไม่รับ ถ้า 10 หลังขึ้นไปจะได้นำเข้าไปสู่การชดเชยเยียวยา
ชาวบ้านที่เซ็นยินยอมยังไม่ทราบว่าตัวเองจะไปอยู่ที่ไหนถ้ามีการทุบบ้าน ไม่มีแผนรองรับบ้านและอาชีพ

ภูมิทัศน์ชุมชนเกาะทรายหลังรื้อย้าย โดยในรายงานของกรมโยธาธิการและผังเมือง หากก่อสร้างเสร็จจะช่วยลดผลกระทบความเสียหายทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 6,000 ล้านบาท
ภูมิทัศน์ชุมชนเกาะทรายหลังรื้อย้าย โดยในรายงานของกรมโยธาธิการและผังเมือง หากก่อสร้างเสร็จจะช่วยลดผลกระทบความเสียหายทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 6,000 ล้านบาท
ขณะที่ความกังวลของชาวบ้านเกาะทราย อีกหลายคนกล่าวว่า คนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ชาวบ้านเข้าใจระเบียบของทางราชการในการชดใช้หรือเวนคืน มีความกังวล และรับทราบว่าต้องใช้เวลาอีกนาน
ชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีการคัดค้าน น้ำท่วมครั้งหนึ่งเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านยินยอมที่จะออก แต่ทุกคนกังวลว่าชาวบ้านที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์มีทางไหนที่จะช่วยชาวบ้านให้ได้เต็มที่จะไปหาที่อยู่อาศัยใหม่ได้คือความกังวลที่สุดของชาวบ้านเวลานี้
น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า หลังได้มารับฟังข้อมูลแล้วโครงการย้ายชุมชนเป็นโครงการของกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งรัฐบาลได้ให้เงินมา 24 ล้านบาท จัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาจะมาจัดรับฟังความคิดเห็น 3 ครั้ง ที่จะเสนอแบบทำผนังป้องกัน น้ำท่วม อาจจะมี 2-3 แบบให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมมีกระบวนการเยียวยาชดเชยอย่างไร

ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
น.ส.ศยามล กล่าวว่า ระหว่างที่ดำเนินการอาจจะต้องมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจะรื้อถอนอย่างไรแบบไหน ถ้าจะจ่ายค่าเยียวยาหรือชดเชย หรือพบว่าที่ดินส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ราชพัสดุ บริเวณตลาดสายลมจอย และถนนบริเวณหน้าเกาะทราย ติดแม่น้ำสาย เป็นพื้นที่ป่าไม้ ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 ที่กรมป่าไม้ดูแล ชาวบ้านอาจจะไม่รู้ว่าที่ดินตรงนี้เป็นของใคร การสร้างบ้านเรือนสร้างมาตั้งแต่ปี 2529 ชาวบ้านอาศัยอยู่มามากกว่า 20 ปีขึ้นไป และมีการก่อสร้างอาคารที่อาจไม่ได้รับใบอนุญาตตาม การควบคุมอาคาร
การรื้อถอนมีความระมัดระวัง ตัวเองค่อนข้างเป็นห่วงน้ำจะมาทุกปีฝากเทศบาลตำบลแม่สายให้ทางช่างโยธาไปสำรวจความมั่นคงปลอดภัยของบ้านที่สร้าง ให้ดูว่าจะอยู่ได้หรือหรือไม่อย่างใร
ส่วนระยะยาว จะมีการย้ายชุมชนอย่างไร มีที่ดินที่ไหนบ้าง แต่ต้องมีการฟังชาวบ้านว่ามีที่ดินตรงไหนบ้าง หลังจากนั้นให้ทางจังหวัดเสนอไปยังรัฐบาลในการดำเนินการหาพื้นที่รองรับ และให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนมาช่วยให้ข้อมูลถ้าจะสร้างบ้านชั่วคราวหรือระยะยาวต้องมีเงื่อนไขอย่างไรเพราะไม่ได้สร้างบ้านให้เปล่าๆ และเป็นกรรมสิทธิ์ที่ดินยังเป็นของรัฐต้องให้ข้อมูลกับชาวบ้านชัดเจน จากตัดสินใจย้ายหรือไม่หรือไปอยู่ที่อื่นเลย ชาวบ้านจะได้ดูข้อมูลเรื่องที่จะย้าย

พื้นที่สิ่งปลูกสร้างที่จะต้องรื้อถอนบริเวณชุมชนริมแม่น้ำสาย จำนวน 843 หลังคาเรือน
พื้นที่สิ่งปลูกสร้างที่จะต้องรื้อถอนบริเวณชุมชนริมแม่น้ำสาย จำนวน 843 หลังคาเรือน
น.ส.ศยามล กล่าวถึงค่าเยียวยาเบื้องต้นชาวบ้าน ”ใช้วิธีปรองดอง“ ถ้าเป็นที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินจะใช้กฎหมายเวนคืนที่ดินจะได้ค่าราคาที่ดินตามราคาซื้อขาย หรืออาจจะต่ำ คนที่มีโฉนดก็จะได้ค่าที่ดินพร้อมกับค่าสิ่งปลูกสร้าง แต่ถ้าอยู่ในที่ดินราชพัสดุหรือที่ดินป่าไม้จะได้ค่าชดเชยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไม่ได้ค่าที่ดิน ชาวบ้านต้องรู้จะจ่ายค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกี่บาท ต้องคุยให้ลงตัว ถึงจะเรียกว่าวิธีปรองดอง
ชาวบ้านจะตัดสินใจเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร จะให้บริษัทที่ปรึกษารับฟังข้อมูลทั้งหมด กสม.จะนำข้อกังวลทั้งหมดทำหนังสือที่กรมโยธาธิการและผังเมือง รัฐบาล และจังหวัดเชียงราย เป็นประเด็นที่ต้องนำไปจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้ชาวบ้านตัดสินใจร่วมกันทุกครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาน้ำหลาก อุทกภัย-โคลนและปัญหาน้ำท่วม น้ำท่วมขังพื้นที่ชุมชนแม่สายแบบยั่งยืนได้ออกแบบแนวทางไว้ 3 รูปแบบ โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นทางเลือกให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
โดยตลอดแม่น้ำสายทางทิศเหนือมีการก่อสร้างคันกั้นน้ำและดินโคลน ระยะทาง 3.96 กิโลเมตร โดยจะมีการปรับภูมิทัศน์ ใน 6 โซน คือ 1.พื้นที่นันทนาการชุมชนและพื้นที่รองรับน้ำ 2.ลานกิจกรรมชุมชน 3.ลานวัฒนธรรมแม่สาย แลนด์มาร์กและลานจอดรถ 4.พื้นที่นันทนาการชุมชนและพื้นที่รองรับน้ำ 5.สวน 10 ชาติพันธุ์ 5.พื้นที่สวนป่าและพื้นที่รองรับน้ำ

พื้นที่อาจจะต้องมีการเวนคืนที่ดิน 275 ไร่ สิ่งปลูกสร้างต้องรื้อถอน 843 หลังคาเรือน
พื้นที่อาจจะต้องมีการเวนคืนที่ดิน 275 ไร่ สิ่งปลูกสร้างต้องรื้อถอน 843 หลังคาเรือน
สำหรับพื้นที่ต้องเวนคืนมีทั้งหมด 275 ไร่ สิ่งปลูกสร้างที่ต้องรื้อถอน 843 หลัง ประชาชนที่ได้รับประโยชน์ 16,980 ครัวเรือน 35,060 คน ลดการสูญเสียมากกว่า 6,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้งบประมาณโครงการ 3,430 ล้านบาท โดยเป็นค่าก่อสร้าง 1,600 ล้านบาท และค่าทดแทนและค่าชดเชย 1,830 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการปลายปี 2568 - 2573 ใช้เวลาประมาณ 5 ปี โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจะเร่งรับฟังความคิดเห็น 3 เวที คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 8 เดือน ก่อนนำเสนอให้กับคณะรัฐมนตรีพิจารณา
อ่านข่าว : ผบ.ตร.พร้อมทวงคืน "หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว" คุยได้คุย-คุยไม่ได้ใช้กฎหมายจัดการ
“ศักดิ์ดา” เผยคนเพื่อไทย จ่อลาออกอีกเพียบ อึดอัดแก้ราคาพืชผลการเกษตรไม่ได้
เก็บวัตถุโบราณ เร่งบูรณะ “พระธาตุโนนตาล” อายุ 121 ปี พังถล่ม