ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"คลัง" จ่อชง ครม.ดัน 3 มาตรการท่องเที่ยวแพ็กเกจใหญ่

เศรษฐกิจ
15:01
115
"คลัง" จ่อชง ครม.ดัน 3 มาตรการท่องเที่ยวแพ็กเกจใหญ่
อ่านให้ฟัง
05:48อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"คลัง" เตรียมชง ครม.ดัน 3 มาตรการท่องเที่ยวแพ็กเกจใหญ่ ลดหย่อนภาษีเที่ยวเมืองรอง 1.5 เท่า, เร่งเบิกจ่ายงบสัมมนาภายใน ม.ค.69, ให้สิทธิ์โรงแรมเมืองรองหักค่าใช้จ่ายปรับปรุง 2 เท่า พร้อมเร่งรัดเบิกงบปี 69 กว่า 3.78 ล้านล้านบาท

วันนี้ (15 ต.ค.2568) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ว่า มาตรการที่อยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนี้คือ "โครงการคนละครึ่งพลัส" ซึ่งมีการเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนแล้ว

ส่วนมาตรการที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า เป็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องออกมาขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่มีการชะลอตัวอย่างมาก โดยการท่องเที่ยวในประเทศติดลบร้อยละ 8 ใน 8 เดือนที่ผ่านมา

กระทรวงการคลังจะเสนอเป็นแพ็กเกจการท่องเที่ยว ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก ได้แก่

1. มาตรการทางภาษี โดยให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดคนละ 20,000 บาท ซึ่งมาตรการนี้จะให้สิทธิ์ลดหย่อนสำหรับการท่องเที่ยวเมืองหลัก 1 เท่า และให้สิทธิ์สำหรับท่องเที่ยวเมืองรอง 1.5 เท่า เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 15 ธ.ค.2568

2. โครงการเร่งรัดการจัดประชุมสัมมนาของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีงบประมาณของแต่ละภาคส่วนอยู่แล้ว ไม่ใช่งบประมาณใหม่ โดยมีงบประมาณอยู่ราว 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนราชการ 3,000 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 3,000 ล้านบาท สำหรับการอบรมสัมมนา ยังไม่รวมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตั้งไว้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว กำหนดให้เบิกจ่าย 60% ของงบอบรมสัมมนาภายในเดือน ม.ค.2569 แทนที่จะรอจ่ายในไตรมาส 3-4 ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้

นอกจากนี้ ประธานหอการค้าเสนอให้บริษัทนิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายในการพาพนักงานเที่ยวในประเทศ มาหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้

3. มาตรการสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมและที่พัก ให้สิทธิหักค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรมได้ 2 เท่า สำหรับเมืองรองโดยเฉพาะ โดยให้สิทธิ์ใช้จ่ายได้ถึงเดือน มี.ค.2569 โดยสามารถนำไปใช้ในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อลดต้นทุนและความยั่งยืน การจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย

ขณะเดียวกันยังมีการพิจารณามาตรการอื่นๆ เช่น การลดภาษีสถานบริการจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 5 โดยประสานกระทรวงมหาดไทยและกรมสรรพสามิตเชื่อมโยงข้อมูลสถานบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องสามารถเข้าสู่ระบบและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างครอบคลุม

รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ได้หารือเรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2569 วงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมามีงบเหลือจ่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 300,000 ล้านบาท และงบลงทุนเบิกจ่ายได้เพียงร้อยละ 65 เท่านั้น ดังนั้นในปีนี้จึงตั้งเป้าการเบิกจ่ายงบประมาณปกติไว้ที่ร้อยละ 93 และงบลงทุนไว้ที่ร้อยละ 75 รวมทั้งกำหนดเป็นตัวชี้วัด (KPI) ของหัวหน้าส่วนราชการ โดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะติดตามเป็นรายเดือนและรายงานนายกรัฐมนตรีทราบ

ภาพจาก ทำเนียบรัฐบาล

ภาพจาก ทำเนียบรัฐบาล

ภาพจาก ทำเนียบรัฐบาล

เสนอแอ็กชันแพลน ครม.เศรษฐกิจ คาดช่วยดัน GDP 0.4%

ขณะที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้ความสำคัญใน 3-4 ประเด็น โดยเชิญภาคเอกชนมาให้ข้อเสนอแนะในการทำแอ็กชันแพลน

สัปดาห์นี้เริ่มพิจารณาแอ็กชันแพลนของกระทรวงการคลัง ส่วนวันที่ 20 ต.ค.จะพิจารณาแอ็กชันแพลนของกระทรวงพลังงาน และสัปดาห์ถัดไปจะพิจารณาแอ็กชันแพลนของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ซึ่งคาดว่าจากภาพรวมมาตรการทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึงร้อยละ 0.4 ของจีดีพี

ทุกนโยบายต่อจากนี้ที่จะใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้วิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ (Course Benefit) เข้าไปด้วยว่าแต่ละนโยบายใช้งบฯ เท่าไหร่ รายได้ของรัฐจะได้ผลดี ผลเสียเท่าไหร่ และสิ่งที่จะได้ต่อประเทศเป็นอย่างไร

อ่านข่าว

นัดแรก! ประชุม ครม.เศรษฐกิจทำโรดแมป-แอ็กชันแพลน 4 เดือน

สรรพากรพุ่งเป้าเก็บภาษี "อินฟลูเอนเซอร์-คอนเทนครีเอเตอร์"

โฆษก กห.ยันกัมพูชาต้องยอมรับ 4 เงื่อนไข ก่อนขอเปิดด่าน