วันนี้ (20 ต.ค.2568) ทางการเกาหลีใต้เตรียมคว่ำบาตรทางการเงินต่อธุรกิจต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชา ครอบคลุมถึงการค้ามนุษย์ และมิจฉาชีพออนไลน์ในกัมพูชา หลังจากมีสถิติพลเรือนชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นกว่า 300 คนในปี 2568 จากน้อยกว่า 20 คนเมื่อปี 2567 และมีชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตจากทารุณกรรมแล้วอย่างน้อย 1 คน
- เกาหลีใต้บีบกัมพูชาปราบสแกมเมอร์ ส่งคณะทำงานเร่งช่วย "พลเมือง 63 คน"
- "เกาหลีใต้" ห้าม ปชช.ไปบางพื้นที่กัมพูชา สื่อเผยพบอีกศพใกล้ชายแดน
- "ผู้นำเกาหลีใต้" สั่งระดมช่วยพลเรือนถูกหลอก-ลักพาตัวในกัมพูชา
หนังสือพิมพ์ The Korea Times รายงาน อ้างอิงประกาศดังกล่าวของหน่วยข่าวกรองด้านการเงิน หรือ FIU (Financial Intelligence Unit) ภายใต้คณะกรรมาธิการบริการด้านการเงินของเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) โดยระบุว่า FIU อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า กลุ่มอาชญากรต้องสงสัย และเครือข่ายธุรกิจของพวกเขาเข้าข่าย “กลุ่มบุคคลและธุรกิจถูกจำกัด” หรือไม่ ถ้าเข้าข่ายจะนำไปสู่ประกาศแช่แข็ง หรือห้ามปรับเปลี่ยน หรือเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ทุกชนิดของ “กลุ่มบุคคลและธุรกิจถูกจำกัด” นี้ ครอบคลุมถึงการห้ามดำเนินธุรกิจทางการเงิน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล โดยคาดว่า FIU จะประกาศยืนยันมาตรการที่จะดำเนินการได้ภายในสิ้นเดือน ต.ค. 2568 นี้
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรร่วมกันประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อ Prince Holding Group และ Huione Group ในกัมพูชา โดยกล่าวหาว่า ธุรกิจทั้งสองพัวพันกับการค้ามนุษย์ ฟอกเงิน และฉ้อโกงทางไซเบอร์อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังตั้งข้อหา “เฉิน จื้อ” (Chen Zhi) ชาวจีนที่ถือสัญชาติกัมพูชา วัย 38 ปี ผู้ก่อตั้ง และประธาน Prince Holding Group อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุนมาเนต และอดีตนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา ฐานอยู่เบื้องหลัง “ธุรกิจมืด” ดังกล่าวในกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลแหล่งกบดานของเฉิน
รายงานระบุว่า เฉิน และ Prince Holding Group ของเขา อีกทั้ง Huione Group อยู่ในเป้าหมายของ FIU เช่นกัน แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ของ Prince Holding Group และ Huione Group ในเกาหลีใต้ และว่าฝ่ายตำรวจเกาหลีใต้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีสาขาของ Prince Holding Group ในกรุงโซลของเกาหลีใต้หรือไม่เพื่อเดินหน้าสอบสวนเอาผิดตามกฎหมาย
ข้อมูลจากฝ่ายตำรวจระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งที่ใช้ชื่อ KINGMEN REAL ESTATE GROUP ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 16 ของอาคารแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงโซลจะมีความเชื่อมโยงกับ Prince Holding Group โดยบังหน้าเป็นธุรกิจจัดหางานเพื่อล่อลวงชาวเกาหลีใต้ให้ตกเป็นเหยื่อเครือข่าย “ธุรกิจมืด” ดังกล่าวในกัมพูชา
รายงานชี้ว่า จุดยืนของทางการเกาหลีใต้ปรับเปลี่ยนสู่มาตรการลงโทษอย่างเฉียบขาด ครอบคลุมถึงการขยายการสอบสวนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องสงสัยเข้าข่ายฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับสกุลเงินดิจิทัลทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในสิ้นปี 2568 จากเดิมที่เน้นวิถีทางด้านการทูต
ทั้งนี้ หลังจากภาครัฐถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เชื่องช้าในการดำเนินการ ท่ามกลางรายงานที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลักพาตัว และการกักขังควบคุมตัวพลเรือนชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงฝ่ายกิจการต่างประเทศของเกาหลีใต้ระบุว่า มีจำนวนพุ่งสูงถึงราว 330 คน ณ เดือนส.ค.2568 จากเพียงราว 17 คนตลอดปี 2566 ในจำนวนดังกล่าว เป็นพลเรือนชาวเกาหลีใต้จำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงเกี่ยวกับการจ้างงาน ก่อนถูกบังคับด้วยการข่มขู่ การควบคุมตัว และทรมานกรรมให้เข้าร่วมกับแก๊งอาชญากรรมมิจฉาชีพออนไลน์ในกัมพูชา โดยเบางรายถึงขั้นเสียชีวิต เช่นนักศึกษาชายชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปีรายหนึ่ง ซึ่งถูกทรมานจนถูกพบเสียชีวิตในกัมพูชาเมื่อเดือน ส.ค. 2568
รายงานระบุว่า กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ได้เริ่มติดประกาศเตือนที่ท่าอากาศยานนานาชาติ Incheon International Airport ของเกาหลีใต้เพื่อให้กลุ่มผู้โดยสาร โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้ ซึ่งจะเดินทางไปยังกัมพูชาให้ระมัดระวังการตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงการจ้างงานเท็จจากเครือข่าย “ธุรกิจมืด” ดังกล่าว ส่วนสายการบินต่าง ๆ ก็แจ้งเตือนเช่นกัน และให้ข้อมูลช่องทางช่วยเหลือ
อย่างไรก็ดี มีชาวเกาหลีใต้ 64 คนในกัมพูชาถูกส่งตัวกลับมาตุภูมิแล้วเมื่อเสาร์ (18 ต.ค.) หลังจากทีมพิเศษร่วมพหุภาคีของทางการเกาหลีใต้เดินทางเข้าพบหารือกับทางการกัมพูชา แต่กระนั้นฝ่ายตำรวจให้ข้อมูลว่า พวกเขาทั้งหมดยังคงถูกควบคุมตัวเพื่อสอบสวนว่า ร่วมมือกับเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชาหรือไม่ และโดยสมัครใจ หรือถูกบีบบังคับ
ที่มา : The Korea Times
แปล/เรียบเรียง : ทันโลก กับThaiPBS
อ่านข่าว : 2 ชาวเกาหลีใต้ เล่านาทีถูกแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาทารุณกรรมอย่างไร้มนุษยธรรม
คณะทำงานพิเศษเกาหลีใต้ถึงกัมพูชา สางปัญหาแก๊งสแกมเมอร์หลอกลวงชาวเกาหลีใต้
คาดมี "ชาวเกาหลีใต้" ทำงานในฐานอาชญากรรมเขมร 1,000 คน