สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ ประกาศภารกิจอันดับแรก แผนช่วยชาวเกาหลีใต้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในกัมพูชาทั้ง 63 คนได้กลับบ้าน โดยตั้งเป้าทำให้สำเร็จภายใน 1 เดือน หลังมีรายงานว่าชาวเกาหลีใต้กลุ่มนี้ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัวในปฏิบัติการกวาดล้างศูนย์หลอกลวงออนไลน์ ช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นทันที หลัง อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นั่งหัวโต๊ะร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เร่งช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการอาชญากรรม และถูกหลอกไปทำงานที่กัมพูชา
อี แจ-มยอง ให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการทุกอย่างที่ทำได้ทันที เพื่อรับประกันความปลอดภัยให้กับพลเรือน หลังจากการลักพาตัวในกัมพูชาทำอันตรายอย่างมากให้กับชาวเกาหลีใต้ โดยมีตัวเลขผู้ที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนไม่น้อย
หากรวบรวมข้อมูลจากรายงานของสื่อท้องถิ่นช่วงหลายวันที่ผ่านมา จะพบว่าปฏิทินงานของทางการเกาหลีใต้ค่อนข้างแน่น เริ่มตั้งแต่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศเรียกตัวเอกอัครราชทูตกัมพูชาเข้าพบเพื่อประท้วง และร้องขอให้กัมพูชาเร่งปราบปรามการหลอกทำงานและอาชญากรรมอื่น ๆ ในประเทศ
นอกจากจะมีประชุมเจ้าหน้าที่แล้ว ทางการยังเตรียมส่งคณะทำงานร่วม ที่ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานข่าวกรอง เดินทางไปกัมพูชาในวันนี้ (15 ต.ค.2568)
ขณะที่สัปดาห์หน้า คณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาเกาหลีใต้ เตรียมร่วมประชุมที่สถานเอกอัครราชทูตในกรุงพนมเปญ เพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ และในวันถัดมา ตำรวจเกาหลีใต้เตรียมหารือกับกัมพูชาเพื่อหามาตรการป้องกัน ซึ่งขณะนี้ทั้งสองประเทศตกลงจัดตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อสืบสวนคดีที่ชาวเกาหลีใต้ตกเป็นเหยื่อแล้ว
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ที่พลเมืองถูกหลอกให้มาทำงานที่ศูนย์สแกมเมอร์ ซึ่งตั้งขึ้นในหลายเมืองของกัมพูชา แต่คดีที่ทำให้ปัญหานี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คือ กรณีนักศึกษาเกาหลีใต้ วัย 22 ปี ถูกพบว่าเสียชีวิตหลังเดินทางเข้ากัมพูชาไม่ถึง 1 เดือน
นักศึกษาคนดังกล่าวเดินทางไปกัมพูชา เพื่อร่วมนิทรรศการจัดหางาน ก่อนจะหายตัวไป ซึ่งครอบครัวระบุว่าได้รับการติดต่อจากคนที่มีสำเนียงจีน เรียกค่าไถ่ 50 ล้านวอน หรือกว่า 1 ล้านบาท ขณะที่ทางการพบศพของนักศึกษาคนนี้ในเดือน ส.ค. การชันสูตรเบื้องต้น พบว่า เสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายหลังถูกทรมานอย่างรุนแรง
อีก 3 วันถัดมา ผู้ต้องสงสัยชาวจีน 3 คน ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและฉ้อโกงออนไลน์ และอยู่ระหว่างติดตามตัวอีก 2 คน ซึ่งการสืบสวนทางคดียังไม่คืบหน้า โดยตำรวจเกาหลีใต้ ระบุว่า ตำรวจกัมพูชาไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ทำให้คดีล่าช้าและเจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงข้อมูล ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตยังไม่ถูกส่งกลับประเทศ
สำหรับคดีนักศึกษาวัย 22 ปี เป็นเพียงหนึ่งในหลายคดีที่เกิดขึ้นในปีนี้ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 พบชาวเกาหลีใต้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมในกัมพูชาแล้วกว่า 300 คดี เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปี 2565 ซึ่งมีไม่ถึง 100 คดี
ข้อมูลการแจ้งเหตุลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา พบว่าตัวเลขเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า จาก 21 คดีในปี 2566 และเพิ่มเป็น 221 คดีเมื่อปี 2567 และในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 ตัวเลขการแจ้งเหตุลักพาตัวเพิ่มเป็น 300 คดี มากกว่าปี 2567
ขณะนี้ทางการเกาหลีใต้ ประกาศยกระดับคำเตือนการเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ และพื้นที่เสี่ยงอื่น ๆ ในกัมพูชาแล้ว พร้อมทั้งร้องขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งมักจะเอาเงินและสวัสดิการดี ๆ มาล่อ
มิจฉาชีพอาจใช้วิธีโฆษณาผ่านทางออนไลน์ โดยให้สัญญาว่าจะได้เงินเดือน 8-15 ล้านวอน หรือสูงสุดแตะ 340,000 บาทต่อเดือน ให้ตั๋วเครื่องบินและที่พักฟรี ไม่ต้องมีทักษะพิเศษใดก็มาทำงานได้ เป็นรูปแบบการหลอกไปทำงานสุดคลาสสิกที่ทำให้พลเมืองหลายชาติตกเป็นเหยื่อ
แม้ว่าเกาหลีใต้จะกดดันโดยตรงไปยังรัฐบาลกัมพูชา แต่ในอีกด้านก็แสดงความตั้งใจที่จะยกระดับความร่วมมือกับหลายชาติในอาเซียน เพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามแดนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากเกาหลีใต้จะจัดการในกัมพูชาแล้ว ยังเตรียมเชื่อมโยงกับขบวนการอาชญากรรมในเกาหลีใต้เองด้วย
วิเคราะห์โดย : ทิพย์ตะวัน ธีรนัยพงศ์
อ่านข่าว : "ผู้นำเกาหลีใต้" สั่งระดมช่วยพลเรือนถูกหลอก-ลักพาตัวในกัมพูชา
แท็กที่เกี่ยวข้อง: