ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดโปง “ทุนเทาสแกมเมอร์” เปย์หนัก จัดเกรด “เหยื่อ” ค้ามนุษย์

อาชญากรรม
15:23
108
เปิดโปง “ทุนเทาสแกมเมอร์” เปย์หนัก จัดเกรด “เหยื่อ” ค้ามนุษย์

ศูนย์ปฏิบัติการไท่ซี จ.ตาแก้ว กัมพูชา ทางตอนใต้ของกรุงพนมเปญ ถูกทีมเฉพาะกิจของรัฐบาลเกาหลีใต้เข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา คือ ฐานสแกมเมอร์สำคัญศูนย์ไท่ซี มีอาคาร 4 ชั้น จำนวน 11 อาคาร บริหารจัดการโดย Prince Group ของ “เฉิน จื้อ”สถานที่แห่งนี้รู้จักกันในชื่อ “หยวนฉู่”แหล่งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในเขมร แต่ขณะนี้กลายเป็นอาคารว่างเปล่า ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ หลงเหลืออยู่เลย

“สถานการณ์ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ สแกมเมอร์และคอลเซนเตอร์ในกัมพูชายังเหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้น แม้ที่ผ่านมาไทยจะมีปิดด่านชายแดนหรือมีประสานการเข้าปราบปรามตรวจค้นในบางจุดของทางการจีนก่อนหน้านี้รวมทั้งการเข้าค้นของเกาหลีใต้ พวกนี้แค่ย้ายฐานไปที่อยู่ในเมืองอื่นๆซึ่งอยู่ที่ติดชายแดนไทยและเวียดนามไม่ได้ปิดฐานทั้งหมด” จารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล (Immanuel Foundation) กล่าวกับไทยพีบีเอสออนไลน์

ปอยเปต-ไพลิน-บาเวต “ฐานหลัก” แก๊งสแกมเมอร์

ในช่วง 2-3 ปีที่แล้ว แม้จะมีการประสานข้ามแดนเพื่อเข้าตรวจค้นและช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ชาวไทย กลับมาจากกัมพูชาแต่ทางการไทยแทบไม่เคยได้รับความร่วมมือแม้จะทราบอาคาร หรือตึกที่เป็นเป้าหมายเข้าค้นเจอเพียงความว่างเปล่าเพราะมีการส่งสัญญาณให้เคลื่อนย้ายออกจากชั้นเดิมเพื่อนำอุปกรณ์และคนหนีไปยังชั้นที่สูงขึ้น

แม้ขณะนี้จะมีการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา แต่จำนวนเหยื่อของแก๊งสแกมเมอร์กลับไม่ได้ลดจำนวนลงมีการคาดการณ์ว่าอาจจะขยายจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

ฐานสแกมเมอร์ที่อยู่ในปอยเปต เมืองไพลิน ยังอยู่เหมือนเดิมและที่เมืองบาเวต เมืองกัมปอต กันดาร,เมืองตาแกว เมืองแกบและติด จ.สวายเรียง ใกล้ชายแดนเวียดนาม ส่วนเมืองสีหนุวิลล์ เดิมที่เป็นฐานสำคัญอีกแห่งหนึ่งแต่หลังช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการขยายออกมายังเมืองอื่น จากเดิมที่มีอยู่ไม่กี่จุด 

นอกจากเป็นเมืองสแกมเมอร์ คอลเซนเตอร์ ฐานหลักการหลอกลวงออนไลน์แล้วสื่อต่างประเทศ ยังมีการระบุถึงกระแสข่าวการค้าอวัยวะของเหยื่อที่ถูกหลอก แต่ยังไม่พบข้อเท็จจริงใดๆทั้งสิ้น แม้ที่ผ่านมามูลนิธิฯได้ให้ความช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ถึงจำนวน 1,100 คน ล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือเหยื่อกลับคืนสู่ไทยได้มากว่า 70 คน

เกาหลีใต้ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลำดับต้นๆ “เหยื่อค้ามนุษย์”

จารุวัฒน์ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันยังมีคนไทยยังตกค้างอยู่ในกัมพูชาเยอะมาก ทั้งกลุ่มที่เป็นเหยื่อและเป็นตัวการ เฉพาะในพื้นที่จ.กัมปอตและเมืองบาเวต มีประมาณกว่า 3 ,000 คนจากการประสานงานกับองค์กรต่างประเทศ พบมีเหยื่อจากประเทศต่าง ๆที่ถูกหลอกเข้าไปในกัมพูชาจำนวนมาก

โดยเฉพาะอินเดียอยู่ในลำดับต้นๆ รองลงมา คือ เกาหลีใต้ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทยและกลุ่มประเทศแอฟริกาใต้ เช่น อูกันดา เคนยา นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนกระจายไปที่เมืองเมียวดีในเมียนมา

“ฝั่งที่ถูกส่งไปเมียนมาเขาจะไม่ยุ่งกับคนไทย...กลุ่มชาวเกาหลีใต้ที่รัฐบาลของเขาประสานนำตัวกลับไป คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 100 คน น่าจะเป็นระดับหัวขบวนการเชื่อว่าเขาคงต้องมีการคัดกรองอีกครั้งว่ามีใครบ้างเป็นเหยื่อและอยู่ในระดับที่เรียกว่าหัวขบวนการค้ามนุษย์”

ในฐานะที่มูลนิธิอิมมานูเอล เป็นองค์กรเอกชนที่ให้ความช่วยเหลือเหยื่อในขบวนการค้ามนุษย์ จารุวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า วิธีการหลอกลวงเหยื่อในแต่ละประเทศ เพื่อให้มาทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซนเตอร์ สแกมเมอร์ไม่แตกต่างกันมากนักกลุ่มเป้าหมายหลักส่วนใหญ่ คือ กลุ่มวัยทำงาน

หากเป็นชาวเกาหลีจะต้องอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 24-35 ปี ส่วนประเทศอื่น ๆ วัย 18- 30 ปีขึ้นไป แต่จะไม่เกิน 45 ปี วิธีการ คือ โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล เพจเฟซบุ๊ก รับสมัครพนักงาน เช่น รับพนักงานขับรถ พนักงานเสิร์ฟ เชฟ และหลอกล่อว่า รายได้ดี มีสวัสดิการและความปลอดภัย เสนอให้ค่าจ้างเดือนละ 12,000-30,000 บาท

หลังมีผู้สนใจสมัครเข้ามา ทางขบวนการค้ามนุษย์ หรือ “ม้า” ก็จะเชิญเข้ากลุ่ม LINE หรือ Telegram และสร้างสมาชิกปลอม เพื่อโพสต์ข้อความหลอกให้เชื่อว่ามีผู้สมัครงานจริง เช่น ภาพการเดินทาง ภาพสำนักงาน หรือภาพบัตรประชาชนพร้อมเงินสดของผู้สมัครคนอื่น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อถือ
มีการตั้งกลุ่มไลน์เฉพาะเพื่อให้เหยื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่ม มีการพูดคุยกันตลอดเวลา แต่คนทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มไลน์ คือ “ม้า” และหากเหยื่อเข้าไปอยู่ในนั้น ก็จะตกพะวงเชื่อโดยสนิทใจ

“นอกจากนี้ หลังเลิกงาน มีการไลน์ ชวนกันไปรับประทานอาหารตรงนั้น ตรงนี้ คุยกันในไลน์ว่า วันนี้ทำงานได้รับโบนัส เป็นค่าที่พัก ลักษณะการคุยในไลน์ เหมือนมีกลุ่มคนที่ทำงานอยู่จริง ๆ หากเหยื่อหลงเชื่อก็จะให้เดินทางมากรุงเทพฯแล้วหลอกล่อไปเรื่อย ๆตามสถานการณ์”

และหลังจากนั้นจะมีนายหน้าติดต่อ ให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชีและสแกนหน้าอ้างว่าเป็นบัญชีรับเงินเดือนหรือบัญชีค่าใช้จ่ายในการทำงาน แต่จริงๆแล้วกลับถูกนำไปเป็นบัญชีม้าเพื่อใช้ฟอกเงินและกระทำผิดทางเทคโนโลยี

จารุวัฒน์ บอกอีกว่า เมื่อขั้นตอนการเปิดบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว ทางขบวนการค้ามนุษย์จะอ้างว่าสำนักงานในกรุงเทพฯ เต็ม และขอให้ผู้เสียหายเดินทางไปรับการอบรม หรือ “ฝึกงาน” ที่สำนักงานสาขา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา

เพื่อนำตัวไปยังจุด “พักคอย” ซึ่งเป็นบ้านพักของคนไทยอยู่ในเขตชาแยแดน ซึ่งทำหน้าที่เก็บ ”หัวคิว” หรือ “ค่าหัว” โดยจะมีชายฉกรรจ์มากกว่า 10 คน เป็นชุดคุมตัวพาข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปยังกัมพูชา พอถึงปลายทางเหยื่อก็จะถูกยึดบัตรประชาชน โทรศัพท์มือถือ และการบังคับให้เปิดเผยรหัสบัญชีธนาคาร

“พวกนี้จะถูกนำไปขังและบังคับให้ทำงานในลักษณะ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงประชาชนไทยรายอื่นให้โอนเงิน...แม้ปัจจุบันจะมีการปิดด่านชายแดนไปแล้วก็ตาม แต่ยังมีหลายช่องทางธรรมชาติ นำเหยื่อลักลอบเข้าไปได้”

ทุนเทาจัดเกรด “ค้ามนุษย์” เปย์ขบวนการฯ หัวละ 3 หมื่น

แม้ในหลายๆประเทศจะมีการเผยแพร่และเสนอข้อมูลกันอย่างครึกโครมว่า “กัมพูชา” ไม่ปลอดภัย หากเดินทางเข้าไปอาจมีความเสี่ยงสูงต่อการตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกทำร้ายร่างกาย กักขัง หน่วงเหนี่ยว ไม่สามารถออกจากที่พัก

แต่ จารุวัฒน์ เล่าว่า ก็ยังมีคนเชื่อ โดยขบวนการฯจะอ้างว่า สถานที่ทำงาอยู่ในกรุงเทพ ฯแต่ต้องไปอบรมกับสาขาในต่างจังหวัด จึงทำให้คนที่อยู่ในกลุ่มเชื่อว่าคงไม่เป็นไร เพราะเดินทางไป-กลับแค่วันเดียว

แต่ข้อเท็จจริง คือ เมื่อเดินทางมาถึงมีคนไปรับจริงเพื่อเข้าสู่ขบวนการควบคุม โดยชายฉกรรจ์ โดยนำเหยื่อไปไว้ที่ “จุดพักคอย” ใกล้ชายแดนไทย รอขั้นตอนการส่งออกไปค้ามนุษย์ เครือข่ายพวกนี้มีอยู่หลายเครือข่าย แต่สุดท้ายปลายทางบรรจบอยู่ที่กัมพูชา

สำหรับขบวนการค้ามนุษย์จะมีรายได้จากค่าหัวเหยื่อที่ถูกหลอกไป ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หัวละ 4,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับเกรด หรือ “คุณภาพ” ของเหยื่อการคัดเกรดขึ้นอยู่กับความรู้และความสามารถ เช่น หากเป็นล่ามและสามารถแปลภาษาได้ ค่าหัวอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท/คน หรือในกรณีที่เหยื่อพูดภาษาไทย-จีน ,ไทย-อังกฤษและแปลภาษาได้ด้วย นายทุนชาวจีนจะเพิ่มค่าหัวให้

และหากใครสามารถหลอกล่อพวกที่จบปริญญาตรี เก่งคอมพิวเตอร์ได้ แก๊งค้ามนุษย์จะให้ค่าหัวเพิ่มราคาอยู่ที่ 30,000 บาท แต่ถ้าเป็นเกรดธรรมดาทั่วไป ระดับบัญชีม้า ขบวนการค้ามนุษย์ก็จะได้ค่าหัว 4,000-7,000 บาท/คน ขึ้นอยู่กับการถูกจัดระดับ และคนพวกนี้ เมื่อถูกส่งเข้าไปทำงานอยู่ในฐานคอลเซนเตอร์ หรือ สแกมเมอร์จะถูกใช้ประโยชน์ในเรื่องการฟอกเงิน

ปัจจุบันมีฐานสแกมเมอร์และคอลเซนเตอร์ อยู่ติดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขตเมืองอุดรมีชัย ฝั่งตรงข้ามช่องจอม โอร์เสม็ด , จ.บันเตียนเมียนเจย -ฝั่งตรงข้ามปอยเปต อรัญประเทศ, เมืองไพลิน ฝั่งตรงข้ามบ้านแหลม และบ้านผักกาด เกาะกง ฝั่งตรงข้ามบ้านหาดเล็ก

อ่านข่าว

เปิด 4 ตัวตึง นักธุรกิจเขมร “ลับพันลึก” บัญชีดำสหรัฐฯ คว่ำบาตร

เส้นทาง “เฉิน จื้อ” CEO ปริ๊นซ์ กรุ๊ป สหรัฐฯฟ้องริบทรัพย์ครั้งแรกโลก

ผ่าอาณาจักร Call center- Scammer ศูนย์กลาง “เขมร-เมียนมา”