วิกฤตเด็กเกิดน้อย มูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ ชู “นมแม่” สร้างต้นทุนมนุษย์ของชาติ

มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กรมอนามัย สสส. จัดประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 9 เพื่อให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และการพัฒนาระบบสนับสนุนที่ยั่งยืน สร้างรากฐานสำคัญพัฒนาเด็กไทย ให้เติบโตขึ้นไปเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ

ทั้งนี้ ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกิน 20 % ของจำนวนประชากร และเผชิญกับวิกฤตเด็กเกิดน้อยกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นปีที่ 4 โดยปี 2567 มีเด็กเกิดใหม่เพียง 4.6 แสนคน

ประกอบกับอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทย ยังไปไม่ถึงเป้าหมายที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด ทำให้การดูแลเด็กไทยเป็นประเด็นเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ ที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต

มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายจัด “การประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 9” ภายใต้หัวข้อ “Breastfeeding : Make it Happen, Make it Happy” ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย.2568 ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น

พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ให้ความสำคัญกับการทำให้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ในระบบบริการสาธารณสุขของประเทศ และมีกระบวนการทั้งในโรงพยาบาลและชุมชน ที่จะช่วยก่อให้เกิดความสุขทั้งผู้รับและผู้ให้บริการ

จากจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดน้อยลงอย่างมาก ร่วมกับจำนวนผู้สูงอายุทวีจำนวนมาก จนเป็นสังคมผู้สูงอายุ เป็นวิกฤตในการบริหารจัดการของประเทศ ที่จะทำอย่างไรให้เรามีเด็กที่มีคุณภาพ มีพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่พร้อมในการใช้ชีวิตและภาระรับผิดชอบในอนาคต

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ร่วมกับการให้การเลี้ยงดูที่มีคุณภาพในวัยเริ่มต้นชีวิต เป็นความท้าทายในการประชุม เรามีความรู้อะไรใหม่ๆ มีกระบวนการวิธีการอย่างไร ที่จะช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ซึ่งลูกจะได้รับนมแม่ และกระบวนการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพจริง

เป้าหมายที่สำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ เกิดการขับเคลื่อนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระดับองค์กรและระดับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการนำองค์ความรู้และข้อเสนอแนะที่ได้ ไปปรับใช้ในการพัฒนานโยบาย เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติได้อย่างมีความสุข และช่วยให้อย่างน้อย เด็กไทยในวัยแรกเกิดสามารถได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนแรก ให้ได้ร้อยละ 50 ไม่กินแม้แต่น้ำ ภายใน พ.ศ.2568

ศาสตราจารย์ คลินิก พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ กล่าวว่า ในเวทีการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 9 นี้ ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ นักวิชาการ จะได้อัปเดตความรู้และแนวปฏิบัติล่าสุด ครอบคลุมในทุกมิติของการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตั้งแต่ Pre-and In-Hospital Care (การดูแลก่อนคลอดและในโรงพยาบาล) ไปจนถึง Continuing Care for Continuing Breast feeding (การดูแลต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมนมแม่ที่บ้าน)

รวมถึงการนำเสนอ New Knowledge, New Challenges, New Hope (องค์ความรู้ใหม่ ความท้าทายใหม่ และความหวังใหม่) คณะกรรมการได้พยายามกลั่นกรอง ประเด็นองค์ความรู้ใหม่ๆในเรื่องประโยชน์ของน้ำนมแม่ การเตรียมตัวตั้งแต่ตั้งครรภ์ อะไรคือเรื่องที่แม่มักลืม หรือไม่ได้ใส่ใจ การตัดสินใจเลือกวิธีคลอด การปรับกระบวนการ สิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล ที่เอื้อให้แม่ให้นมแม่ได้สะดวก คลินิกนมแม่คุณภาพใกล้บ้าน จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

การรู้เท่าทันสื่อสังคมออนไลน์ แหล่งข้อมูล กลไกการตลาด งานวิจัยนวตกรรมในการส่งเสริมนมแม่ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร ฟังคำตอบ นมแม่กับโลกร้อน PM 2.5 ไมโครพลาสติก สารเสพย์ติด และนมแม่กับ Stem cell เป็นต้น เรียนรู้ด้วยกัน นำไปใช้อย่างมีความสุข

การประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 9 “Breastfeeding : Make it Happen, Make it Happy” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยจัดการประชุมแบบ Hybrid ทั้งออนไซต์และออนไลน์ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียด และลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ www.thaibfconference.com

อ่านข่าว : ทหารเมียนมาอ้างยึด Starlink 30 เครื่องจากฐานสแกมเมอร์

ธุรกิจ “เฉิน จื้อ” ในกัมพูชา และประเทศต่าง ๆ

วุฒิสภาเห็นชอบ "อนันต์-ณรงค์" นั่ง กกต.คนใหม่