ภาพความทรงจำที่ยังคงอยู่ของพสกนิกรชาวไทย พร้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ คือ องค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงประทับเคียงข้าง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าพื้นที่จะห่างไกลหรือทุรกันดารเพียงใด
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีปณิธานแน่วแน่ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีพระราชดำริผ่านโครงการในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้
"ศาลารวมใจ" แหล่งเรียนรู้และศูนย์รวมจิตใจของชุมชน
ต้นปี พ.ศ.2519 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างห้องสมุดอเนกประสงค์ขึ้นเพื่อพระราชทานแก่ราษฎรทุกเพศ ทุกวัย และทุกระดับความรู้ แม้กระทั่งผู้ที่อ่านหนังสือไม่ออกที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลต่าง ๆ โดยทรงพระกรุณาพระราชทานชื่อห้องสมุดนี้ว่า "ศาลารวมใจ"
ศาลารวมใจส่วนหนึ่งจัดเป็นห้องสมุด มีหนังสือหลายประเภท เช่น คู่มือการเกษตร ความรู้ทั่วไป จนถึงนวนิยาย มีภาพติดผนังและสมุดภาพเกี่ยวกับเมืองไทยประกอบด้วยคำอธิบายง่ายๆ เพื่อให้ราษฎรรู้จักเมืองไทยมากขึ้น รู้จักความเป็นไปของบ้านเมืองในปัจจุบัน และเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างท้องถิ่นของตนกับประเทศและโลกกว้าง ทั้งนี้ก็ด้วยพระราชประสงค์ที่จะทรงเสริมสร้างความภูมิใจในชาติ ความหวงแหนมรดกของชาติ และปลูกฝังความรักความสามัคคีของชนในชาติสมดังชื่อ "ศาลารวมใจ"
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2527 ศาลารวมใจบ้านวัดจันทร์ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2527 ศาลารวมใจบ้านวัดจันทร์ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
อีกส่วนหนึ่งของศาลารวมใจจัดเป็นห้องปฐมพยาบาล มียาพระราชทานพื้นฐานจัดไว้ช่วยเหลือชาวบ้าน โปรดเกล้าฯ ให้คัดเลือกราษฎรในหมู่บ้านมาเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลศาลารวมใจ และให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้ไปรับการฝึกอบรมหลักสูตร "หมอหมู่บ้าน" สอนให้รู้จักการปฐมพยาบาล ความรู้ด้านสุขภาพอนามัย และการประสานงานในการจัดส่งผู้ป่วยหนักไปโรงพยาบาล
ศาลารวมใจส่วนใหญ่สร้างใกล้วัดหรือในวัด เพื่อให้วัดคงความเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน และเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนเช่นที่เคยเป็นมาแต่โบราณกาล วัดกับศาลารวมใจจะได้เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เสริมสร้างความผูกพันระหว่างชาวบ้านและพระศาสนาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ศาลารวมใจที่จัดสร้างเป็นแห่งแรกคือศาลารวมใจพร้าว ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ต่อมาก็มีศาลารวมใจเพิ่มขึ้นในหมู่บ้านและจังหวัดอื่น ๆ เป็นลำดับ
คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นผู้มีน้ำพระทัยอ่อนโยน เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา ทุกครั้งที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร จะทรงพบว่ามีราษฎรป่วยเจ็บด้วยโรคต่าง ๆ ไปเฝ้าฯ กันเป็นจำนวนมาก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์ที่ตามเสด็จช่วยตรวจรักษา หากคนไข้คนใดจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็จะโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ในภาคนั้น ๆ แต่หากว่าตนไข้ผู้นั้นเป็นโรคที่ต้องการแพทย์เฉพาะโรคที่ไม่มีในจังหวัดนั้น ๆ ก็ให้นำตัวส่งเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุดจนกว่าจะหาย
เนื่องจากเวลาที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรนั้น ในบางจุดมีคนป่วยมาก แพทย์ตามเสด็จไม่สามารถจะตรวจได้ในเวลาอันจำกัด พระองค์ก็โปรดเกล้าฯ ให้จัด "หน่วยแพทย์พระราชทาน" เดินทางไปให้การตรวจรักษาโดยเฉพาะตามจุดต่าง ๆ บางครั้งก็เดินทางทางรถยนต์ บางครั้งทางเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ แล้วแต่ภูมิประเทศ
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2526 เสด็จฯ ไปบ้านจาร ตำบลม่วง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2526 เสด็จฯ ไปบ้านจาร ตำบลม่วง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร
ทรงเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงตระหนักดีว่าเมืองไทยนี้มีศิลปวัฒนธรรมอันดีงามมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ หากสมัยนี้ลูกหลานไทยสนใจแต่อารยธรรมสมัยใหม่ หรือวัฒนธรรมของชาติอื่น มิช้าอดีตที่ไทยเคยยิ่งใหญ่รุ่งเรืองไม่แพ้ชาติใด ๆ ก็คงจะลบเลือนหายไป ดังนั้นจึงทรงหยิบยกตัวอย่าง ของความเป็นไทยอันงดงามมาเชิดชูให้ปรากฏเพื่อเตือนตาเตือนใจไทยให้รำลึกไว้เสมอว่าคนไทยเรา มีฝีมือทุกด้านควรแก่การภาคภูมิใจ
ชุดไทยจิตรลดา เป็นชุดไทยพิธีตอนกลางวัน ผ้าซิ่นป้ายเป็นผ้าไหมยกดอกมีเชิงหรือยกดอกทั้งตัว เสื้อแขนยาว ผ่าอก คอกลม มีขอบตั้ง
ชุดไทยจิตรลดา เป็นชุดไทยพิธีตอนกลางวัน ผ้าซิ่นป้ายเป็นผ้าไหมยกดอกมีเชิงหรือยกดอกทั้งตัว เสื้อแขนยาว ผ่าอก คอกลม มีขอบตั้ง
เมื่อ พ.ศ. 2503 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีกำหนดการที่จะตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรป และประเทศสหรัฐอเมริกา
ทรงพระราชดำริว่า แม้เราจะมีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมในการแต่งกายของเราเองอยู่แล้วแต่สตรีไทยก็ยังไม่มีเครื่องแต่งกายชุดประจำชาติ จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้ผู้ที่เชี่ยวชาญในการออกแบบเครื่องแต่งกาย คิดปรับปรุงแบบเสื้อที่สตรีไทยแต่งกันมาแต่โบราณกาลให้ทันสมัย เพื่อทรงใช้เป็นชุดไทยประจำชาติในระหว่างที่เสด็จฯ ไปทรงเยือนต่างประเทศครั้งนั้น ผลก็คือไทยเราได้มีชุดไทยประจำชาติที่สง่างามและเหมาะสมไว้ใช้ในโอกาสต่างๆ มาจนทุกวันนี้ ซึ่งเรียกกันว่า "ชุดไทยพระราชนิยม"
ชุดไทยพระราชนิยม มีดังนี้ 1.ชุดไทยเรือนต้น 2.ชุดไทยจิตรลดา 3.ชุดไทยอมรินทร์ 4.ชุดไทยบรมพิมาน 5.ชุดไทยจักรี 6.ชุดไทยดุสิต 7.ชุดไทยศิวาลัย 8.ชุดไทยจักรพรรดิ์ ทั้งนี้ จะสังเกตว่า ชื่อชุดไทยต่างๆ เหล่านี้ เป็นชื่อเกี่ยวกับพระที่นั่งหรือพระตำหนัก ซึ่งมีความสอดคล้องกันกับโอกาสและความเหมาะสมในการใช้เครื่องแต่งกายชุดไทยด้วย
ชุดไทยจักรี เป็นชุดที่ใช้ผ้าซิ่นแบบเดียวกับไทยบรมพิมาน แต่เสื้อเป็นสไบเฉียง ใช้ในโอกาสงานพิธีกลางคืน
ชุดไทยจักรี เป็นชุดที่ใช้ผ้าซิ่นแบบเดียวกับไทยบรมพิมาน แต่เสื้อเป็นสไบเฉียง ใช้ในโอกาสงานพิธีกลางคืน
ปัจจุบันนี้ ชุดไทยประจำชาติได้เป็นที่นิยมในหมู่สตรีไทยและสังคมไทยทั่วไป ทั้งยังได้เผยแพร่ชื่อเสียงความงดงามด้วยศิลปะทั้งปวงไปยังนานาประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่บรรดาสตรีไทย ที่ได้พระราชทานแนวพระราชนิยมเป็นแบบแผนการแต่งกายประจำชาติสำหรับสตรีขึ้น เป็นการส่งเสริมเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทยตามลำดับยุคสมัย ที่จะต้องปรากฏต่อไปเป็นประวัติศาสตร์ของชาติสืบชั่วกาลนาน
ทรงพิทักษ์รักษาสรรพสิ่ง
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โปรดธรรมชาติยิ่งนัก พระองค์เข้าพระทัยดีว่าป่าไม้ ต้นน้ำลำธารมีความสำคัญต่อชีวิตคนอย่างไรบ้าง จะทรงสอนข้าราชบริพารเสมอให้ช่วยรักษาป่า ระหว่างที่เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่นั้น หากทรงว่างพระราชกิจ ตกบ่ายจะทรงพระราชดำเนินไปตามทางเท้าขึ้นเขาเข้าป่าไปเสมอ ถ้าทรงพบว่ามีคนทิ้งก้นบุหรี่ลงบนกองใบไม้แห้ง และไฟกำลังคุขึ้น จะทรงตำหนิและรับสั่งกับข้าราชบริพารว่าไม่ควรทิ้งเชื้อไฟลงในป่า เพราะใบไม้แห้งเป็นเชื้อไฟอย่างดี หากเกิดไฟไหม้ ไฟจะลุกลามไปอย่างรวดเร็วทำให้ดับยาก และจะก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นได้อย่างมากมาย สัตว์ป่าจะแตกตื่นและอาจจะตายในกองไฟได้
ทุกครั้งที่ทรงพระดำเนินไปพบว่าไฟกำลังลุกอยู่ ณ จุดไหน จะทรงหยุดขบวนและมีพระราชเสาวนีย์ให้คนในขบวนไปดับไฟเสีย หากลุกลามเกินกำลังที่จะดับกันเองได้ ก็มีพระราชเสาวนีย์ให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้มาดำเนินการ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นที่จะอบรมชาวบ้านให้ช่วยกันรักษาป่า เช่น สมุดภาพที่โปรดเกล้าฯ ให้ทำขึ้นพระราชทานศาลารวมใจเมื่อเกือบยี่สิบปีมาแล้ว ก็ได้ทรงสอดแทรกเรื่องรักษาป่าและต้นน้ำลำธารไว้ด้วย
เมื่อได้ทรงพบว่าป่าไม้ถูกทำลายจนเหลือน้อยลงทุกที สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงทรงริเริ่มโครงการป่ารักน้ำขึ้นเป็นครั้งแรกที่จังหวัดสกลนคร เมื่อ พ.ศ. 2525 โปรดเกล้าฯ ให้หาที่ดินที่รกร้างว่างเปล่า หรือป่าที่เสื่อมโทรมแล้วเพื่อนำต้นไม้ไปปลูก และให้ชาวบ้านช่วยกันดูแล ทรงนำความขึ้นกราบบังคมทูลปรึกษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในเรื่องต้นไม้ที่จะนำไปปลูก โปรดให้ปลูกต้นไม้หลายจำพวกด้วยกัน คือไม้โตเร็ว เช่น กระถินยักษ์ ยูคาลิปตัส เพื่อให้ช่วยเป็นร่มเงาแก่ไม้เศรษฐกิจ เช่น ไม้สัก ไม้แดง ไม้เต็งรัง เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีไม้ใช้สอย เช่น ไม้ไผ่ แคบ้าน กระถิน ไม้เหล่านี้ปลูกสับหว่างกันไป เมื่อไม้เศรษฐกิจเติบโตแข็งแรง ก็อนุญาตให้ชาวบ้านตัดไม้โตเร็วและไม้ใช้สอยออกไปใช้ได้
สวนสัตว์ป่านั้น ทรงพระราชดำริที่จะอนุรักษ์ไว้ไม้ให้สูญพันธุ์มานานแล้ว ก่อนที่จะตื่นตัวเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่นปัจจุบันนี้ เวลาเสด็จฯ ไปต่างจังหวัด มักมีชาวบ้านนำสัตว์ป่ามาถวาย เช่น นกเหงือก ไก่ฟ้า กระจง เป็นต้น จะโปรดเกล้าฯ ให้ส่งไปเลี้ยงไว้เพื่อขยายพันธุ์ เมื่อมีจำนวนมากแล้ว ก็ให้นำไปปล่อยคืนสู่ป่า
ส่งเสริมอาชีพและศิลปาชีพ
การส่งเสริมให้คนไทยในภูมิภาคต่างๆ ผลิตงานด้านศิลปหัตถกรรมเป็นอาชีพเสริม นอกเหนือจากการเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพหลัก งานศิลปาชีพอยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งก่อตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 21 ก.ค.พ.ศ.2519
การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ นอกจากจะเป็นการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรและราษฎรแล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทย และพัฒนาคุณภาพของฝีมือให้ดียิ่งขึ้น จนสามารถผลิตสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้งสร้างสรรค์งานฝีมือชิ้นเยี่ยม ไว้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติอีกด้วย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงตระหนักถึงความสำคัญของชาวไร่ชาวนาผู้ผลิตอาหาร ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของมนุษย์ จึงทรงพระราชดำริที่จะจัดหาอาชีพเสริมให้แก่เกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรมีกำลังใจที่จะทำนาทำไร่ต่อไป ไม่ต้องขายที่ดิน ไม่ต้องเป็นหนี้สิน และไม่ต้องทิ้งถิ่นไปทำมาหากินตามเมืองใหญ่ อันจะก่อให้เกิดปัญหาความแออัดของชุมชนในเมืองใหญ่ตามมาอีก
สิ่งที่จะเป็นอาชีพเสริมนั้น จะต้องเป็นอาชีพที่ประกอบอยู่ที่บ้านได้ในเวลาที่ว่างจากการทำไร่ทำนา หรือเมื่อดินฟ้าอากาศไม่อำนวยให้เพาะปลูก หรือแม้แต่ผู้ไม่มีดินจะเพาะปลูก ก็จะสามารถประกอบอาชีพเสริมนี้ได้ด้วยทรัพยากรธรรมชาติหรือวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตน และด้วยภูมิปัญญาตลอดจนด้วยฝีมือของเขาเอง นี่คือที่มาของพระราชดำริในการนำศิลปหัตถกรรมมาเป็นอาชีพเสริมให้แก่ชาวไร่ชาวนาไทย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โปรดการปฏิบัติงานแบบครบวงจร เมื่อทรงสนับสนุนให้ชาวบ้านทอผ้าไหม ก็ให้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและสาวไหมไปพร้อมกันด้วย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โปรดการปฏิบัติงานแบบครบวงจร เมื่อทรงสนับสนุนให้ชาวบ้านทอผ้าไหม ก็ให้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและสาวไหมไปพร้อมกันด้วย
นักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์
การศึกษาของชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะเป็นการวางรากฐานแก่ชีวิต และความเป็นอยู่ของราษฎร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยและประจักษ์ในความสำคัญของปัญหานี้ จึงทรงเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาอย่างเต็มพระกำลัง ด้วยวิญญาณแห่งความเป็นแม่และครูที่ทรงมีอยู่อย่างเปี่ยมล้น
เด็กจากครอบครัวยากจนแต่เล่าเรียนดีและสามารถเป็นหลักครอบครัวต่อไปได้ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ (ภาพจาก : หน่วยราชการในพระองค์)
เด็กจากครอบครัวยากจนแต่เล่าเรียนดีและสามารถเป็นหลักครอบครัวต่อไปได้ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ (ภาพจาก : หน่วยราชการในพระองค์)
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มิได้ทรงมุ่งแก้ปัญหาเพียงทางใดทางหนึ่งเท่านั้น หากแต่ทรงแก้ปัญหาทุกด้านไปพร้อม ๆ กัน เช่น ทรงพบครอบครัวที่ยากจนขาดที่ทำกินและมีลูกมาก ก็จะทรงพิจารณาหาอาชีพให้แก่พ่อแม่ และพระราชทานการศึกษาแก่ลูก การศึกษานั้นไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นการศึกษาหลักสูตรต่าง ๆ เสมอไป หากเด็กคนใดอยู่ในวัยเรียนมีผลการเรียนดีพอสมควร มีความมานะพยายาม และต้องการเรียนต่อจริง ๆ ก็จะส่งเสียให้เรียนไปตามความสามารถของเด็กนั้นจนถึงระดับปริญญาตรี แต่หากเด็กคนในที่มีอายุมากเกินกว่าจะกลับมาเข้าชั้นเรียนเดียวกับเด็กอื่น ๆ ได้ ก็จะทรงส่งเสริมให้เรียนวิชาชีพตามความสนใจและความสามารถของเด็ก ทั้งนี้ รวมถึงเด็กแขนขาพิการตาบอดและหูหนวก ที่ทรงพบว่ามีความสามารถพอจะเรียนต่อได้อีกด้วย
ทรงเป็นขวัญและกำลังใจ
เมื่อหลายสิบปีก่อน ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของไทย ประสบปัญหาภายในประเทศอย่างรุนแรงจนอาจกล่าวได้ว่าตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด แผ่นดินลุกเป็นไฟไปแทบทั้งสิ้น มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ยั่งยืนยงอยู่ได้ท่ามกลางไฟสงครามที่ลุกอยู่รอบ ๆ ประเทศ แม้กระนั้น ทหาร ตำรวจพลเรือน และอาสาสมัครผู้ป้องกันประเทศชาติ ก็ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในการปะทะกับกองกำลังต่างชาติตามแนวชายแดน รวมทั้งกับผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ
วันที่ 1 มีนาคม 2518 เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมทหารและตำรวจตระเวนชายแดน อ.เชียงคำ จ.เชียงราย (ภาพจาก : หน่วยราชการในพระองค์)
วันที่ 1 มีนาคม 2518 เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมทหารและตำรวจตระเวนชายแดน อ.เชียงคำ จ.เชียงราย (ภาพจาก : หน่วยราชการในพระองค์)
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยในปัญหาความมั่นคงของชาติและเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละเหล่านี้อย่างยิ่ง พระองค์โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยี่ยมเยียนพวกเขาเหล่านี้จนถึงฐานปฏิบัติการ ทรงนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปพระราชทาน และหลายครั้งที่ทรงนำพระเครื่องไปพระราชทานเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ ยามใดที่มีข่าวการปะทะและต้องสูญเสียบุคคลเหล่านี้ ก็ทรงเศร้าสลดพระราชหฤทัยและจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่บุคคลนั้นรวมทั้งครอบครัวทันที
จนถึงวันที่ 2 เม.ย. พ.ศ.2518 อันเป็นวันคล้ายวันสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิรลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงก่อตั้ง "มูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์" ขึ้น เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ ตลอดจนครอบครัวของผู้ที่พิการหรือเสียชีวิต นอกเหนือจากสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ
มีพระราชปฏิสันถารกับเจ้าหน้าที่ทหารที่บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด (ภาพจาก : หน่วยราชการในพระองค์)
มีพระราชปฏิสันถารกับเจ้าหน้าที่ทหารที่บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด (ภาพจาก : หน่วยราชการในพระองค์)
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าเกิดความอบอุ่นใจว่ายังมีแนวหลังคอยห่วงใย เมื่อบาดเจ็บล้มตายก็จะไม่ถูกทอดทิ้งให้เผชิญชีวิตอยู่เพียงลำพัง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิรลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานมูลนิธิสายใจไทยฯ มาจนปัจจุบัน
นอกเหนือจากที่ทรงเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าแล้ว แนวหลังก็มีความสำคัญมิใช่น้อย ทรงสนับสนุนให้แนวหลังมีความรักชาติ ความสามัคคี และมีวินัย เช่น ทรงสนับสนุนกิจกรรมของลูกเสือแห่งชาติ และลูกเสือชาวบ้าน โดยสืบเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนานดังที่ได้เห็นประจักษ์กันอยู่จนทุกวันนี้
ที่มา : หน่วยราชการในพระองค์, มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
อ่านข่าว : พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต











