ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

10 มาตรการลด PM2.5 กทม. จัดโปรสู้ฝุ่น-ตั้งเป้า WFH 3 แสนคน

10 มาตรการลด PM2.5 กทม. จัดโปรสู้ฝุ่น-ตั้งเป้า WFH 3 แสนคน
อ่านให้ฟัง
07:36อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กทม.จับมือ ทส.-สภาอุตสาหกรรม-ค่ายรถยนต์ เปิดตัวโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5” รณรงค์ตรวจสภาพรถลดฝุ่น PM2.5 พร้อมเดินหน้า 10 มาตรการเข้ม ลดการเผาทางการเกษตร ตั้งเป้าปีนี้ WFH 300,000 คน

วันนี้ (29 ต.ค.2568) เวลา 10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5” ยกระดับมาตรการรับมือสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2569 โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, น.ส.ยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุมศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ชั้น 2 กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศให้กรุงเทพมหานคร เป็นเขตควบคุมมลพิษในช่วงเดือน พ.ย.-มี.ค.ของทุกปี วันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ “Green List Plus โปรสู้ฝุ่น ลด PM2.5” รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ เพื่อลดและขจัดมลพิษในกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้จัดกลุ่มมาตรการเป็น 4-3-3 คือ 4 กฎหมายเข้ม 3 ร่วมมือรอบด้าน และ 3 ปกป้องสุขภาพประชาชน รวมเป็น 10 มาตรการ ดังนี้

  • โครงการรถคันนี้ลดฝุ่น เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนต่อเนื่องปีที่ 3 ซึ่งวันนี้ได้พัฒนาเป็น Green List Plus สำหรับรถ 4 ล้อ จึงเชิญชวนให้นำรถมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ ณ ศูนย์บริการที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรับส่วนลดค่าแรง ค่าอะไหล่ หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2568 ถึงวันที่ 31 ม.ค.2569 ตั้งเป้าหมาย 500,000 คัน
  • มาตรการเขตมลพิษต่ำ (LEZ) จากเดิมห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก เป็นห้ามวิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ยกเว้นรถที่ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) ซึ่งได้เปิดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://lez.bangkok.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา มีรถ 6 ล้อขึ้นไป ลงทะเบียนแล้วกว่า 4,600 คัน
  • มาตรฐานค่าควันดำ จากเดิมไม่เกินร้อยละ 30 เป็นไม่เกินร้อยละ 20 พร้อมขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยผลักดันกฎหมายจนสำเร็จลุล่วงและมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.2568 เป็นต้นไป แต่ยังมีกฎกระทรวงอีกฉบับที่ต้องร่วมกันผลักดัน เพื่อลดระยะเวลารถที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐานออกมาวิ่งใช้งาน
  • สถานที่ก่อสร้าง โรงงาน และสถานประกอบการ รถที่ใช้งานทุกคันจะต้องมีค่าควันดำไม่เกินมาตรฐาน และลงทะเบียนบัญชีสีเขียวกับกรุงเทพมหานคร
  • ติดตั้งระบบ CEMs ในโรงงานที่มีหม้อไอน้ำ (Boiler) และแก้ไขค่ามาตรฐาน NOx SO2 และ TSP ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมในการยกร่างกฎหมาย
  • ลดการเผาทางการเกษตรของจังหวัดโดยรอบกรุงเทพมหานคร โดยใช้กลไกเขตควบคุมมลพิษในการทำข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เริ่มหารือกับจังหวัดนครนายกแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา
  • ยกระดับการแจ้งเตือนค่าฝุ่น ผ่าน Cell Broadcast อยู่ระหว่างหารือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พัฒนาระบบการพยากรณ์สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้า 3-7 วัน และให้ประชาชนแจ้งปัญหาเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ผ่าน Traffy Fondue รวมทั้งการติดตั้ง Super Station Real Time เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์
  • จัดทำห้องปลอดฝุ่น ในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวันเรียนและระดับชั้นอนุบาล 1-3 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครให้ครบทุกห้อง
  • Work From Home ในปีนี้ ตั้งเป้าหมายคนเข้าร่วม 300,000 คน พร้อมเชิญชวนลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นเครือข่าย Work From Home ซึ่งจัดทำแนวทางไว้ 2 รูปแบบ คือ เมื่อกรุงเทพมหานครประกาศขอความร่วมมือ และ Work From Home ต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ตลอดเดือน ม.ค-มี.ค.2569
  • ปลูกต้นไม้ล้านต้น เพื่อเป็นแนวกำแพงในการกรองฝุ่น โดยเฉพาะในพื้นที่โซนตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนปลูกต้นไม้แล้วกว่า 2.2 ล้านต้น
กรุงเทพมหานคร มี 2 ฤดู คือ ฤดูฝนกับฤดูฝุ่น ขณะนี้ฤดูฝนเรื่องของน้ำท่วมผ่านไปแล้ว กำลังจะเข้าสู่ฤดูฝุ่น ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดฝุ่นก็คือเรื่องรถยนต์ ซึ่งมีการใช้เครื่องยนต์ดีเซล การเผาชีวมวลจากพื้นที่รอบข้าง รวมถึงสภาพอากาศที่จะมาในช่วงปลายปีนี้ มาตรการเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำมาใช้แก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ กทม.ช่วงฤดูฝุ่นของปีนี้

สำหรับโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5” เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เช่น กระทรวงพลังงาน กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบายฝุ่น PM2.5 จากภาคการขนส่ง ด้วยการเชิญชวนประชาชนให้นำรถยนต์ขนาดเล็กเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จะสามารถลดการเกิดมลพิษและฝุ่นควันในไอเสียรถยนต์ได้อย่างมาก

จากการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง จะสามารถลดควันดำได้มากกว่า 50% และในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และค่ายรถยนต์ให้การสนับสนุนจัดโปรโมชันให้ส่วนลดราคาค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพเครื่องยนต์ฟรีกว่า 55 รายการ และให้ส่วนลดราคาค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่ และค่าแรงสูงถึง 50% ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 1,745 ศูนย์บริการ หรือศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของผู้ค้าน้ำมัน 5 แห่ง

อ่านข่าว : "สุชาติ" บินไปศรีลังกา ต้น พ.ย.ติดตามสุขภาพ "พลายประตูผา-พลายศรีณรงค์"  

“ธารา” ชี้ MOU แร่แรร์เอิร์ธ สหรัฐฯ หวังแทรกห่วงโซ่ของจีน 

แท็กที่เกี่ยวข้อง: