ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยืดเยื้อ 36 วัน สหรัฐฯ ชัตดาวน์ 2568 ยาวนานสุดในประวัติศาสตร์อเมริกา

ต่างประเทศ
19:44
92
ยืดเยื้อ 36 วัน สหรัฐฯ ชัตดาวน์ 2568 ยาวนานสุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
จนถึงวันนี้ สหรัฐฯ ชัตดาวน์ ยืดเยื้อนาน 36 วันแล้ว ทำสถิติใหม่เป็นครั้งที่ยาวนานและเสียหายทางเศรษฐกิจมากสุดในประวัติศาสตร์ GDP ลด พนักงานรัฐ 1.4 ล้านคนไร้เงินเดือน ชาวอเมริกันล้านคนขาดสวัสดิการอาหาร เศรษฐกิจหยุดชะงัก คาดเสียหายถาวร 1.4 หมื่นล้านเหรียญ

วันนี้ (5 พ.ย.2568) CNN รายงาน การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือที่เรียกกันว่า "ชัตดาวน์" ครั้งนี้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2568 (ตามเวลาสหรัฐฯ) เมื่อสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันเรื่องงบประมาณประจำปีได้ ส่งผลให้หน่วยงานรัฐหลายแห่งหยุดทำงานชั่วคราว ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรครีพับลิกันกับพรรคเดโมแครต

ซึ่งโต้เถียงกันเรื่องนโยบายชายแดนและค่าใช้จ่ายรัฐบาล จนถึงวันนี้ (5 พ.ย.2568) การชัตดาวน์นี้ยืดเยื้อมา 36 วันแล้ว ถือเป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ แซงหน้าชัตดาวน์ปี 2561-2562 ที่ยาว 35 วัน และน่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจรุนแรงที่สุดด้วย

เศรษฐกิจชะงัก-ประชาชนอดอยาก

ตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ชาวอเมริกันเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบโดยตรง คนล้านคนที่พึ่งพาสวัสดิการอาหารไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ ทำให้ครอบครัวยากจนหลายล้านครัวเรือนต้องเผชิญความหิวโหย พนักงานรัฐบาลกองกลาง 1,400,000 คนถูกเลิกจ้างชั่วคราว (Furloughed) แม้หลายคนยังต้องทำงานโดยไม่รับเงินเดือน สร้างความเครียดทางการเงินมหาศาล

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหยุดปล่อยออกมา เช่น รายงานการจ้างงานรายเดือน (Jobs report) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการตัดสินใจนโยบาย ส่งผลให้อยู่ในสภาวะกำลังบินในหมอก อย่างที่นักเศรษฐศาสตร์ เดวิด เคลลี จาก JPMorgan Asset Management เปรียบเปรย

ตามรายงานของโกลด์แมน แซคส์ การชัตดาวน์นี้ คาดจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP จริงในไตรมาส 4 ชะลอตัวลงร้อยละ 1.15 จากเดิมที่คาดโตร้อยละ 3-4 ในไตรมาส 3 ส่งผลให้ GDP โตเหลือแค่ร้อยละ 1 ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี

สำนักงบประมาณรัฐสภา (CBO) ที่เป็นกลางประเมินว่าความเสียหายรวมอยู่ที่ร้อยละ 1-2 ของ GDP และถ้าหากยืดเยื้อถึง 8 สัปดาห์ (ปลายพฤศจิกายน) คาดเศรษฐกิจจะสูญเสียถาวร 7,000 - 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 2.3-4.6 แสนล้านบาท แม้ส่วนใหญ่จะฟื้นตัวได้เมื่อรัฐบาลเปิด แต่ส่วนที่เสียไปจะไม่กลับมา เช่น ค่าใช้จ่ายที่เลื่อนออกไปและโอกาสทางธุรกิจที่พลาด

ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนหรือไม่ ?

ชัตดาวน์ปี 2561-2562 แม้ยาวนาน 35 วัน แต่กระทบแค่ร้อยละ 10 ของงบประมาณรัฐบาล เพราะเป็นการปิดบางส่วน แต่ครั้งนี้ปี 2568 ครอบคลุม 100 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณทั้งหมด ทำให้หน่วยงานรัฐหยุดเกือบทั้งหมด อเล็ก ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์การเมืองหลักจากโกลด์แมน แซคส์ ชี้ว่า นี่คือการชัตดาวน์ที่กระทบเศรษฐกิจหนักที่สุดในประวัติศาสตร์

เพราะเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวอยู่แล้ว จากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภาษีนำเข้าสูง การย้ายถิ่นฐานต่ำ และการผ่อนชำระหนี้เงินกู้สำหรับนักศึกษากลับมา นอกจากนี้ การชัตดาวน์ครั้งนี้ยังทำให้ธนาคารกลางต้องตัดสินใจลดดอกเบี้ยแบบมองไม่เห็น เพราะไม่มีข้อมูลจ้างงานเดือน ต.ค.

เจอร์โรม พาวเวลล์ ประธาน Fed เปรียบว่า "เหมือนขับรถในหมอก ถ้าเห็นไม่ชัด ก็ต้องชะลอ" ซึ่งอาจทำให้ Fed เลื่อนการลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.ออกไป

ข้อมูลเศรษฐกิจเพี้ยน-การเมืองร้อนฉ่า

ในช่วงกลางเดือน ต.ค. มีรายงานเศรษฐกิจชิ้นเดียวที่ออกมาได้ คือ ดัชนี CPI เดือน ก.ย. ซึ่งใช้คำนวณการปรับค่าครองชีพสำหรับสวัสดิการสังคมสูงวัย (Social Security) แต่รายงานอื่น ๆ เช่น การใช้จ่ายผู้บริโภค อัตราเงินเฟ้อที่ Fed ชอบใช้ หยุดนิ่งทั้งหมด

ส่งผลให้การว่างงานเดือน ต.ค.อาจพองตัว เพราะสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) จะนับพนักงานเลิกจ้างชั่วคราวเป็นคนว่างงาน แม้พวกเขาจะกลับมาทำงาน นักวิเคราะห์อย่างเคลลีบอกว่า น่าตกใจที่ทั้ง 2 พรรคใหญ่ ยอมให้ประชาชนเจ็บปวดเพื่อผลประโยชน์การเมือง

ปธน.ทรัมป์ เคยตั้งคำถามนโยบายจ่ายค่าจ้างย้อนหลังให้พนักงานเลิกจ้าง แม้จะเซ็นกฎหมายรับรองไว้ในสมัยแรก แต่ทำเนียบขาวยังไม่ยืนยันว่าจะจ่ายเงินคืนเมื่อชัตดาวน์จบ ซึ่งถ้าไม่จ่าย ความเสียหายจะถาวรยิ่งขึ้น

ข่าวดี คือ ถ้าชัตดาวน์จบลงสัปดาห์หน้า (ราวกลางพฤศจิกายน) โกลด์แมน แซคส์คาดว่าไตรมาส 1 ปี 2569 GDP จะโตพุ่งร้อยละ 3.1 จากการชดเชยที่เลื่อนไป เช่น พนักงานกลับทำงานและเงินรัฐบาลไหลกลับเข้าสู่ระบบ CBO ก็เห็นด้วยว่าส่วนใหญ่จะฟื้นได้ แต่ถ้าทรัมป์ไม่จ่ายค่าจ้างย้อนหลัง หรือชัตดาวน์ยืดเยื้อ ก็อาจไม่เป็นตามคาดการณ์ สุดท้าย การชัตดาวน์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขเศรษฐกิจที่กระทบ แต่สะท้อนความแตกแยกทางการเมืองที่อาจฉุดรั้งมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกในระยะยาว

อ่านข่าวอื่น :

เครื่อง UPS ตกเคนทักกีคร่า 7 ชีวิต พบเคยประจำการ "การบินไทย"

ลอยกระทง "คลองเปรมประชากร" ร่วมไว้อาลัยพร้อมสืบสานประเพณี