ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับขบวนการขายข้อมูล ปชช. พบรั่วไหลกว่า 9 ล้านรายชื่อ เสียหาย 300 ล้าน

อาชญากรรม
17:14
141
จับขบวนการขายข้อมูล ปชช. พบรั่วไหลกว่า 9 ล้านรายชื่อ เสียหาย 300 ล้าน
DE - ตำรวจลุย 8 จุด จับ 6 ผู้ต้องหา ขายข้อมูลส่วนตัวประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย พบข้อมูลหลุดกว่า 9 ล้านรายชื่อ มูลค่าความเสียหาย 300 ล้านบาท "พล.ต.ท.จิรภพ" ท้าเปิดข้อมูลนักการเมือง-ตำรวจ ยันหากเอี่ยวกระทำความผิดดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น

วันนี้ (7 พ.ย.2568) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 8 จุดใน จ.เชียงราย ,อุดรธานี ,สระบุรี ,ปทุมธานี,สมุทรสาคร ,ประจวบคีรีขันธ์ ,ชลบุรี และ ภูเก็ต พร้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ รวม 6 คน ในข้อหากระทำความผิดฐาน เป็นผู้เก็บรวบรวม ครอบครอง หรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือผู้ถึงแก่กรรม ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลหรือผู้ถึงแก่กรรมนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อนำไปใช้หรือให้บุคคลอื่นใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด กระทำโดยการซื้อ เสนอซื้อ ขาย เสนอขาย แลกเปลี่ยน เสนอแลกเปลี่ยน หรือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

พร้อมตรวจยึดของกลาง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง อุปกรณ์สำรองข้อมูล 9 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 7 บัญชี และ อุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง 4 รายการ

นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่าการจับกุมดังกล่าวว่า เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีการประกาศขาย ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนผ่านเพจ Facebook โดยข้อมูล ที่มีการซื้อขายจะประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ บัญชีไอดีแอปพลิเคชันไลน์ และบัญชีธนาคาร เพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดออนไลน์

ตำรวจจึงได้สืบสวนพร้อมล่อซื้อข้อมูลดังกล่าว จำนวนกว่า 2.3 ล้านรายชื่อ โดยเมื่อนำรายชื่อที่ได้รับมา ไปตรวจสอบกับระบบแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (Thai police online) ปรากฏว่ารายชื่อที่ได้เป็นผู้เสียหายในคดีที่ถูกหลอกลวงออนไลน์และแจ้งความไว้แล้ว จำนวน 4,630 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 298 ล้านบาท ตำรวจจึงสืบสวนขยายผล

จากการสอบถามถึงแหล่งที่มาของข้อมูล กลุ่มผู้ต้องหารับว่าข้อมูลส่วนใหญ่ได้มาจากกลุ่มลักลอบ ทำเว็บพนันออนไลน์ แอปพลิเคชันกู้เงินออนไลน์ แอปพลิเคชันหลอกลวงขอข้อมูลผิดกฎหมาย ก่อนจะนำมาลักลอบขายให้กับมิจฉาชีพในตลาดมืด ซึ่งนอกเหนือจากรายชื่อกว่า 2 ล้านรายชื่อที่ล่อซื้อแล้ว ยังพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีข้อมูลส่วนบุคคลเก็บไว้เพิ่มเติมอีกกว่า 6 ล้านรายชื่อ รวมพบข้อมูลส่วนบุคคลที่รั่วไหล ประมาณ 9 ล้านรายชื่อ

ซึ่งนอกจากการติดตามจับกุมมิจฉาชีพเหล่านี้เพื่อตัดตอนขบวนการหลอกลวงประชาชนแล้ว กระทรวงดีอี ยังจะดำเนินการมาตรการ ระงับสัญญาณโทรศัพท์ตามแนวพื้นที่ชายแดน ควบคู่กับจำกัดปริมาณซิมโทรศัพท์มือถือเพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดของกลุ่มสแกมเมอร์ เช่น การจำกัดสิทธิ์การครอบครองซิมและมาตรการยืนยันตัวตน ซึ่งในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถระงับการใช้งานของซิมโทรศัพท์มือถือที่ตรวจสอบแล้วเข้าข่ายถูกนำมาใช้กระทำความผิดรวมถึงไม่ได้มีการอัปเดตข้อมูลแล้วกว่า 90,000 ซิม

ขณะที่แนวทางการปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้านนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าหลังจากได้มีการประชุมร่วมกับตำรวจจากนานาชาติเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว เบื้องต้นได้มีมติจัดคณะทำงานร่วมกันโดยจะมีการส่งรายชื่อของแต่ละประเทศเพื่อเข้าร่วมซึ่งแนวทางการดำเนินงานจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศที่มีสแกมเมอร์อยู่ เช่น กัมพูชา เมียนมา และลาว โดยไทยได้ส่งพิกัดที่ตั้งของฐานสแกมเมอร์ในประเทศกัมพูชาซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 2 จุด ไปให้ตำรวจกัมพูชาแล้วส่วนการดำเนินการจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา ส่วนตำรวจไทยจะเน้นการตัดวงจร กลุ่มผู้ก่อเหตุที่อาศัยประเทศไทยในการหลอกลวง เช่น การกวาดล้างบัญชีม้า เครือข่ายคอลเซนเตอร์ที่ใช้เครื่องซิมบ็อกซ์ก่อเหตุ

เบื้องต้นเชื่อว่าหากสามารถกวาดล้างเครื่องซิมบ็อกซ์ได้ก็จะช่วยให้ กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่สามารถโทรศัพท์มาหลอกลวงประชาชนได้ รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อสแกนหาบัญชีม้า และระงับอายัดเงินของผู้เสียหายให้ทันเวลา ซึ่งกรณีที่ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าอาจจะมีนักการเมืองหรือตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ส่วนตัวอยากขอให้ผู้ที่มีข้อมูลเข้ามาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่และหากตำรวจตรวจสอบแล้วว่าเป็นข้อเท็จจริงก็จะดำเนินการจับกุม ซึ่งการตรวจสอบก็สามารถดำเนินการได้ผ่านการตรวจสอบเส้นทางการเงินและความสัมพันธ์ที่อาจจะเชื่อมกัน ยืนยันจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยไม่ละเว้น

นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ยังระบุว่า ตำรวจยังได้เร่งประสานโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อทำการสกัดกั้นเพจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

อ่านข่าว :

รถทัศนศึกษาตกข้างทาง จ.นครสวรรค์ นักเรียนเจ็บ 30 คน

จับหญิงนำ “ลิงลม” เร่ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกลางตลาดถนนคนเดิน

กระบะ 2 คันขับซิ่ง เสียหลักพุ่งชนแรงงานสร้างถนน เสียชีวิต 3 คน