วันนี้ (10 พ.ย.2568) ทันโลก กับ Thai PBS รายงาน รัฐบาลทหารเมียนมาเดินหน้ารื้อถอนอาคารรวม 148 แห่ง บริเวณพื้นที่ชายแดนด้านที่ติดกับประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์ รวมถึงเรือนนอนคนงานหลายหลัง อาคารโรงพยาบาล 4 ชั้น 1 หลัง อาคารธุรกิจคาราโอเกะ 2 ชั้น 1 หลัง ธุรกิจสปา 1 หลัง และอาคารกีฬาอีก 1 หลัง
เครือข่ายข่าวโทรทัศน์ CNA ของสิงคโปร์รายงาน อ้างอิงข้อมูลดังกล่าว ซึ่งเผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์ The Global New Light of Myanmar ของรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) อย่างไรก็ดี สำนักข่าว AFP ระบุว่า ยังไม่อาจยืนยันข้อมูลดังกล่าว แม้มีกลุ่มชาวบ้านระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งก็ตาม
ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญระบุคาดการณ์ว่า การบุกทลายที่ตั้งของเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์ของรัฐบาลทหารเมียนมาเป็นไปในวงจำกัด จัดฉาก และรายงานข่าวเพียงเพื่อต้องการจะลดกระแสกดดันของประชาคมนานาชาติ ในขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการต่าง ๆ ของเครือข่ายมิจฉาชีพยังดำเนินการต่อเนื่องได้โดยกำไรลดลงไม่มาก
ทั้งนี้เนื่องจาก เครือข่ายธุรกิจมิจฉาชีพออนไลน์ ซึ่งมักตกแต่งที่ทำการอย่างหรูหรา เป็นแหล่งรายได้ และผลกำไรของกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ซึ่งเป็นพันธมิตรสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาในสงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้น และลากยาวตั้งแต่รัฐบาลทหารเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2564
รายงานระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาถูกประชาคมนานาชาติ โดยเฉพาะจีน ซึ่งมีพลเรือนหลายคนตกเป็นเหยื่อ กดดันให้ปราบปรามเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์ตั้งแต่เดือน ก.พ.2568 ซึ่งในช่วงนั้นมีรายงานข่าวว่า คนงานเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์ถึงราว 7,000 คนอพยพออกจากเมียนมา และทางการไทยระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งถึงพื้นที่ชายแดนเมียนมา
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศบุกทลาย KK Park หนึ่งในศูนย์กลางเครือข่ายมิจฉาชีพบริเวณพื้นที่ชายแดนเมียนมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2568 หลังจากรายงานการพบศูนย์กลางเครือข่ายมิจฉาชีพเพิ่มขึ้นหลายแห่งของสำนักข่าว AFP รวมถึง KK Park แต่สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากดาวเทียม Starlink ถูกตัดขาด
ต่อมา SpaceX (Space Exploration Technologies Corporation) ของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) อภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน แถลงยืนยันว่า บริษัทฯ ได้ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งไปยังอุปกรณ์รับสัญญาณกว่า 2,500 หน่วยที่ติดตั้งใกล้พื้นที่ต้องสงสัยเป็นที่ตั้งของเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์บริเวณชายแดนเมียนมาแล้ว
รายงานระบุว่า การบุกทลาย KK Park ของรัฐบาลทหารเมียนมานั้นมีกลุ่มคนงานที่เป็นสแกมเมอร์ หรือทำหน้าที่ติดต่อหลอกลวงเหยื่อออนไลน์ ถูกจับกุมกว่า 2,000 คน ในขณะที่อีกราว 1,500 คนหลบหนีข้ามพรมแดนมายังฝั่งไทย รายงานระบุด้วยว่า คนงานจำนวนมากเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ที่ถูกหลอกให้ทำงาน ในขณะที่มีบางส่วนที่ทำงานโดยสมัครใจ
อ่านข่าวเพิ่ม :
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นคืออะไร ? ถอดบทเรียน "ฟิลิปปินส์" ประเทศที่เจอพายุไม่หยุดหย่อน











