กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์ เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ย. 2568 ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชากังวลอย่างยิ่งต่อการรายงานข่าวของหลายสื่อที่อ้างคำกล่าวของผู้นำไทยที่ระบุว่า ไทยได้ระงับการปฏิบัติตามการลงนามในถ้อยแถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งมีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียนปีนี้ ร่วมลงนามและเป็นสักขีพยานด้วย
โดยมีรายงานว่า เหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย บริเวณพนมทรอป ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ถูกใช้เป็นเหตุผลในการระงับการปฏิบัติตามของฝ่ายไทย รวมถึงการยกเลิกการกำหนดการปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายในวันที่ 12 พ.ย.
รัฐบาลกัมพูชาขอปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่อ้างว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ทุ่นระเบิดส่วนใหญ่ตลอดแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย ซึ่งเกิดจากสงครามกลางเมืองกัมพูชาเมื่อเกือบ 3 ทศวรรษก่อนยังไม่ได้รับการเก็บกู้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบากและเป็นพื้นที่ชายแดนที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน
กัมพูชาขอยืนยันว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามถ้อยแถลงที่ได้ลงนามร่วมกัน พร้อมยืนยันอีกครั้งว่ากัมพูชาในฐานะผู้สนับสนุนและรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไม่เคยใช้ทุ่นระเบิดใหม่ใดๆ และจะไม่มีทางทำเช่นนั้น
ขณะที่สำนักข่าวเฟรช นิวส์ สื่อกัมพูชา รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ ปลัดกระทรวงกลาโหมกัมพูชาบรรยายสรุปแก่ผู้ช่วยทูตทหารจาก 12 ประเทศ เกี่ยวกับความคืบหน้าในการปฏิบัติตามถ้อยแถลงร่วมดังกล่าว ซึ่งลงนามร่วมกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงกลาโหมกัมพูชาสรุปประเด็นสำคัญที่เห็นชอบร่วมกันหลายประการ ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย การถอนอาวุธหนัก การกำจัดทุ่นระเบิด การยุติปัญหาเขตแดนโดยสันติ การร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และกระบวนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมทั้งย้ำถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการปฏิบัติตาม และแสดงความพร้อมที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทย เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศและประชาชนของทั้งสองประเทศ
กต.ยื่นหนังสือประท้วงกัมพูชาเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิด
ขณะที่นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด พร้อมเปิดเผยว่า ไทยดำเนินการประท้วงไปยังฝ่ายกัมพูชาต่อเหตุการณ์นี้ พร้อมระบุด้วยว่า ไทยจะดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินการตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวาด้วย พร้อมยืนยันว่า ฝ่ายไทยจะชะลอการส่งตัวนายทหารกัมพูชา 18 นายออกไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน
และในวันนี้ (11 พ.ย.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรี และในช่วงบ่ายจะติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บและรับฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย จากนั้นจะมีการประเมินการดำเนินมาตรการต่างๆ ต่อไป
อ่านข่าว : ธปท.ย้ำระบบสแกนหน้าแบงก์ไทยปลอดภัย-มีเทคนิคตรวจจับ AI
ควานหาสันติภาพ"ทหารไทยเหยียบกับระเบิด"เสียงปริศนาสั่งหยุดยิง











