วันนี้ (12 พ.ย.2568) นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสรุปผลการบรรยายคณะทูตต่างประเทศเมื่อเช้านี้ ซึ่งมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศและอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเป็นผู้บรรยาย เพื่อให้รับรู้ถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย รวมถึงจุดยืนและแนวทางการดำเนินการของไทย
รมว.ต่างประเทศ ย้ำต่อคณะทูตว่าไทยให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงที่ไทยและกัมพูชาร่วมลงนามที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียในฐานะแนวทางที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน แต่จำเป็นต้องระงับไปจากพฤติกรรมที่ไม่จริงใจของกัมพูชา ซึ่งคณะทูตไม่ได้แสดงความกังวลหรือไม่เห็นด้วยต่อท่าทีนี้ของไทย แต่ก็มีคำถามเกี่ยวกับสถานะของถ้อยแถลงดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่าไทยขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามความจำเป็น เพื่อปกป้องอธิปไตยและเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่
นอกจากนี้ยังยืนยันด้วยว่าการระงับการดำเนินการตามถ้อยแถลงที่มาเลเซียจะไม่กระทบต่อการปราบปรามแหล่งอาชญากรรมออนไลน์ตามแนวชายแดน รวมถึงความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ในประเด็นนี้
ขณะที่ความร่วมมือทวิภาคีกับกัมพูชาภายใต้กรอบของกลไกจีบีซีจะถูกระงับไปก่อน ตามที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม เคยระบุไว้ แต่จะไม่รวมถึงความร่วมมือภายใต้กรอบเจบีซี
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังระบุถึงการดำเนินการตามกรอบของอนุสัญญาออตตาวาด้วยว่าจะมีการประชุมรัฐภาคีอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 1-5 ธ.ค.นี้ ซึ่ง รมว.ต่างประเทศอาจเดินทางไปร่วมด้วยตนเองหรืออาจส่งผู้แทนระดับสูงไปชี้แจง
อ่านข่าว :
ผบ.ทสส.เผยลุยเก็บกู้ทุ่นระเบิด 5 จุดนำร่อง ก่อนขยายจนครบ 13 พื้นที่
มาเลเซียหวังช่วยกอบกู้ข้อตกลงไทย-กัมพูชา
"อนุทิน" ปาดน้ำตาเยี่ยมทหารเหยียบทุ่นระเบิด ยืนยันดูแลเต็มที่











