วันนี้ ( 12 พ.ย.2568) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึง กรณีที่ข่าวว่า ผักสดหลาย ชนิดราคาปรับเพิ่มขึ้น กว่าเท่าตัว โดยเฉพาะผักชีในจังหวัดพิจิตร มีราคาสูงถึง400บาท/กก. จากปัญหาน้ำท่วมแหล่งผลิตในภาคเหนือและภาคกลาง เป็นบริเวณกว้างว่า ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาวะราคาจำหน่ายผักสดพบว่าในบางพื้นที่เพาะปลูกผักสดโดยเฉพาะผักชีประมาณ 10-15% ถูกน้ำท่วมผลผลิตเสียหาย แต่ในส่วนของแหล่งเพาะปลูกใหญ่ในภาคอีสานยังเพาะปลูกได้ตามปกติ เบื้องต้นได้ประสานให้นำผักสดจากภาคอีสานเข้าไปเสริมในตลาด โดยเฉพาะตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไทย เชื่อว่าภายใน 1-2 วัน ราคาผักสดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
ยอมรับว่าในช่วง 2- 3 วันที่ผ่านมาราคาผักสดหลายชนิดในบางพื้นที่ปรับเพิ่มขึ้นจริง เช่น ผักชี ต้นหอม ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง โดยเฉพาะผักชีราคาขึ้นไปแพงสุดถึงกก. ละ350บาท แต่ขณะนี้ ราคาได้เริ่มปรับลดลงแล้วมาอยู่ที่ก.ก. 200-250 บาท และ คาดว่าภายใน1-2 วันราคาผักสดจะปรับลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติ
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า กรมฯได้ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายผักในตลาดช่วงปลายฤดูฝน และพบว่า ผักชี เป็นผักที่มีราคาจำหน่ายปรับสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยราคาผักชีเกรดดีที่มีความสมบูรณ์เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 250 บาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ราวกิโลกรัมละ 130 บาท) ขณะที่ผักชีเกรดรอง ซึ่งได้รับความเสียหายบางส่วนจากฝนตก ยังคงมีจำหน่ายในตลาดในราคาประมาณ 130 บาทต่อกิโลกรัม
กรมเร่งดำเนินการประสานความร่วมมือกับสมาคมตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทยและภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตจากแหล่งปลูกอื่นเข้าทดแทนในตลาด และลดความตึงตัวของราคา คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า เมื่อผลผลิตจากแหล่งใหม่ทยอยออกสู่ตลาด ราคาผักชีจะเริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนของสาเหตุของการปรับขึ้นราคาผักในช่วงนี้ มาจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะน้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูกที่ทำให้ผักบางส่วนได้รับความเสียหาย และสภาพอากาศที่มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรไม่สามารถเตรียมแปลงเพาะปลูกใหม่ได้ทัน อีกทั้งผักชีที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวถูกฝนชุก ทำให้ใบช้ำหรือเน่า ต้องคัดแยกมากขึ้น ส่งผลให้ผักชีที่มีคุณภาพดีมีปริมาณลดลง ราคาจึงปรับสูงขึ้นตามคุณภาพสินค้า
สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งไม่ใช่แหล่งปลูกหลัก ต้องขนส่งผักชีจากภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปจำหน่าย ทำให้ใช้เวลาขนส่งนานขึ้น ประกอบกับผักชีเป็นผักที่เน่าเสียง่าย จึงเกิดการสูญเสียระหว่างทางบางส่วน ส่งผลให้ผักชีเกรดสมบูรณ์มีราคาสูงกว่าปกติ
“ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ดังกล่าว ได้เร่งประสานความร่วมมือกับสมาคมตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย รวมถึงผู้ประกอบการค้าส่ง–ค้าปลีก และเครือข่ายสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อบริหารจัดการผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะการนำผักชีจากแหล่งเพาะปลูกอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น นครราชสีมา ชัยภูมิ ลพบุรี และสระบุรี เข้ามาทดแทนในตลาด เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน”
อ่านข่าว:
กกร. ค้านร่างกม. 3 ฉบับ ชี้ขาดประเมินผลกระทบ ซ้ำซ้อนกม.เดิม
เตือนชาวนาระวัง “แมลงบั่ว” ศัตรูร้ายทำลายข้าวมาพร้อมกับอากาศหนาว
นบมส.ทุ่มงบ 1.28 พันล้าน ดูแลมันสำปะหลัง เพิ่มรายได้เกษตรกร











