วันนี้ (13 พ.ย.2568) ตำรวจสอบสวนกลางตรวจยึดโฉนดที่ดินกว่า 400 ฉบับ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน 389 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 7,200 ไร่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท รวมถึงได้รับคืนจากผู้เกี่ยวข้องของเครือข่ายผู้กระทำความผิดในคดี "วัดพระบาทน้ำพุ"
ภายหลังตำรวจขยายผลจับกุมนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี และนายอลงกต พูลมุข หรืออดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนถูกดำเนินคดีในความผิดกรณีฉ้อโกงเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ และอยู่ระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญขาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่รับแปลงทรัพย์สินซึ่งเป็นเงินบริจาคของวัด เบื้องต้นยอมรับว่ามีทรัพย์สินวัดบางส่วนซึ่งเครือข่ายผู้ต้องหาโอนต่อไปยังบุคคลอื่นและยังไม่ถูกนำมาคืน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่นำไปครอบครองเร่งนำมาคืนให้ตำรวจ เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า เดิมเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นสืบสวนไว้ทั้งหมด 24 ประเด็น ผลการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้ตัดบางประเด็นทิ้ง เนื่องจากไม่พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง คงเหลือประเด็นที่ต้องสืบสวนต่ออีก 4 ประเด็น คือ การตรวจสอบเลขบัตรประชาชนและใบสุทธิของอดีตพระอลงกตที่มีข้อมูลไม่ตรงกัน เพื่อดำเนินคดีในข้อหาปลอมเอกสาร, การสืบเส้นทางการเงินที่ถูกนำไปให้ประชาชนกู้ยืม
รวมถึงการนำเงินไปให้ผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดและเจ้าของบริษัทเอกชนกู้ยืม ซึ่งทำธุรกิจด้านเฮลิคอปเตอร์ เฉพาะนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเฮลิคอปเตอร์ พบเส้นเงินหนึ่งที่ให้กู้ยืมกว่า 90 ล้านบาท กรณีนี้ต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายฟอกเงินหรือความผิดตามมาตรา 147 และ 157 หรือไม่
ส่วนกรณีที่ปรากฏข้อมูลพบนักร้องเรียนซึ่งเป็นอดีตตลกและนักแสดงบางส่วน อาจเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนักร้องเรียน ยังไม่พบว่ามีการกระทำความผิด เป็นเพียงการนำเงินไปว่าจ้างให้มีการจัดแสดงดนตรีในโครงการของวัด
สำหรับการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มเติม ชุดสืบสวนระบุว่าอาจจะจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและมีความใกล้ชิดกับอดีตพระอลงกตอีก 4-5 คน แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาพยานหลักฐานสำหรับขอศาลออกหมายจับ
ด้าน พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ระบุว่า จากการสืบสวนพบกลุ่มผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินบางส่วนไปแปลงสภาพ และกระจายให้ประชาชนเป็นผู้ครอบครอง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐ เบื้องต้นพบเส้นเงินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทถูกนำไปผ่านมือกลุ่มบุคคลเพื่อให้กู้ยืม
ส่วนมาตรการป้องกันดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ในวัดอื่น ๆ หรือวัดที่เคยเกิดเหตุการณ์ทุจริตทั่วประเทศนั้น ขณะนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานพระพุทธศาสนา ตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะหน่วยงานระดับจังหวัด สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการจัดทำบัญชีของวัดที่เริ่มมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้าไปติดตามดูแล แทนการปล่อยให้เจ้าอาวาสหรือไวยาวัจกรวัดทำหน้าที่ดูแลบัญชีด้วยตัวเอง
อ่านข่าว
แจ้งความติวเตอร์ หลอกลงคอร์สเรียนเสียหาย 5 ล้านบาท
นายอำเภอยืนยัน "เกาะสมุย" ปลอดภัย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 2.4
กรมการปกครอง ถอนสัญชาติ "ก๊กอาน - บุตร" หลังสอบพบ อาจเอี่ยว "ค้ามนุษย์- ฟอกเงิน- สแกมเมอร์"











