วันนี้ (17 พ.ย.2568) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่ายังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลเรื่องเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่ได้หารือกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว หากรัฐบาลประกาศ พ.ร.ฎ.เรียกประชุม รัฐสภาพร้อมเปิดได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากช่วงปลายพฤศจิกายน สมาชิกรัฐสภา สส. และกรรมาธิการบางส่วนยังมีภารกิจต่างประเทศ แต่ต้นธันวาคมไม่มีปัญหา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะประสานเมื่อใด
ประธานรัฐสภากล่าวต่อว่า จากข่าวไม่เป็นทางการ กรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยากให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญวันที่ 8-9-10 ธ.ค. ซึ่งรัฐสภาก็พร้อมไม่มีปัญหา หากรัฐบาลประสาน จะเชิญวิป 3 ฝ่าย คือ วิปวุฒิสภา วิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน หารือเพื่อกำหนดเวลาอภิปรายให้เรียบร้อย
สำหรับวาระ 2 จะขึ้นอยู่กับกรรมาธิการที่สงวนคำแปรญัตติ และ สส.ที่ยื่นแปรญัตติ แต่สมาชิกรัฐสภาที่ไม่ได้แปรญัตติจะอภิปรายไม่ได้เหมือนวาระ 1 หลังพิจารณาวาระ 2 เสร็จ ต้องเว้น 15 วันก่อนเข้าวาระ 3 ดังนั้น รัฐธรรมนูญจะแก้ไขเสร็จสิ้นเมื่อมีมติเห็นชอบวาระ 3
นอกจากนี้ ประธานรัฐสภายังเห็นว่าการบัญญัติคณะผู้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่มี ส.ส.ร. แต่มีเฉพาะกรรมาธิการ เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 43 คนที่จะหารือสรุป โดยเฉพาะวาระ 3 ที่ต้องเห็นชอบทั้งฉบับ ก่อนนำร่างลงประชามติพร้อมเลือกตั้งทั่วไปช่วงปลาย มี.ค. หรือ ต้น เม.ย. ก่อนเข้าสู่กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และประชามติครั้งที่ 2
สำหรับการลงมติกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้ เห็นว่าความเห็นใกล้เคียงกันมาก แม้บางประเด็นโต้แย้ง แต่คาดว่าวาระ 2 และ 3 จะเรียบร้อย โดยประเด็นขัดแย้งใหญ่อย่าง ส.ส.ร. อาจขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างจากรัฐสภา 70 คนที่สภาแต่งตั้งจากประชาชน ก็ไม่ขัด หาก ส.ส. รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภาคุยกันจบ ก็จะไปสู่ประชามติและเลือกตั้งได้
อ่านข่าวอื่น :
ครบ 1 ปีชนะเลือกตั้ง ของกินแพงขึ้น "ทรัมป์" กลับลำลดภาษีซื้อใจฐานเสียง
"ทนายอั๋น" ยื่นหนังสือ กกต.จี้ฟ้องคดีอาญา จนท.กกต.รับเงินผู้ถูกดำเนินคดี "คดีฮั้ว สว."











