เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2568 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด พ.ท.หญิงดวงรัตน์ แร่ทองขาว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประจำแผนกเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ และหัวหน้าแผนกควบคุมเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ กองเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ กรมการเงินทหารบก กองทัพบก กับพวก
กรณีเปลี่ยนแปลงและอนุมัติหมายเลขบัญชีผู้รับเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญและเงินอื่นที่จ่ายในระบบออนไลน์ ให้เป็นเลขที่บัญชีของตนเองและบัญชีของสามี ระหว่างปี 2555-2563 จำนวน 572 ครั้ง รวมเป็นเงิน 230 ล้านบาท นำไปหมุนเวียนใช้เป็นประโยชน์ส่วนตน
คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติชี้ว่า การกระทำของ พ.ท.หญิงดวงรัตน์ มีมูลความผิดทางอาญาและทางวินัยอย่างร้ายแรง ส่วนนายธนู สามี ขณะเกิดเหตุรับราชการในสังกัดกรมการขนส่งทหารเรือ และกรมช่างโยธาทหารเรือ มีมูลความผิดทางอาญาและทางวินัยอย่างร้ายแรง และให้แจ้งกองทัพบกดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย
ส่วน พ.ท.หญิง วิมลฉวี หัวหน้าแผนกเบี้ยหวัดที่ได้ให้ พ.ท.หญิงดวงรัตน์ เข้าใช้รหัสผู้ใช้และรหัสผ่าน อนุมัติเบิกเงินในระบบ e-pension ให้แก่ผู้มีสิทธิ ในกรณีที่ พ.ท.หญิงวิมลฉวี ลาหรือมีภารกิจอื่นเป็นครั้งคราว
ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของ พ.ท.หญิงวิมลฉวี จากการไต่สวน ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่การที่ พ.ท.หญิงวิมลฉวี ไม่ใช้ความระมัดระวังในการเก็บรักษาพาสเวิร์ด จนเกิดความเสียหายต่อทางราชการ จึงมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ส่วนอีกคนหนึ่ง พ.อ.อนุสรณ์ คุ้มอักษร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเบี้ยหวัด บําเหน็จ บำนาญ จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
แต่การที่ พ.อ.อนุสรณ์ไม่ตรวจสอบการปฏิบัติและไม่ควบคุมกำกับดูแล จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง จึงให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนดำเนินการตามหน้าที่
อ่านข่าว
โปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชฯ-เหรียญรัตนาภรณ์ "จุฑาทิพย์ วิลาด"
นายกฯ บินเชียงใหม่ตามคดีจับยาเสพติด 10 ล้านเม็ด-ออกบัตร ปชช.เถื่อน











