ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ส่องประวัติ "เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ"

การเมือง
16:20
55
ส่องประวัติ "เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ"
เปิดประวัติ "เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ" สถานที่คุมขังผู้ต้องหา ท่ามกลางปมร้อน VIP กลุ่มนักโทษจีนเทา

ประเด็นร้อนส่งท้ายเดือนพฤศจิกายน 2568 เกิดขึ้นหลังกรมราชทัณฑ์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนอดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และผู้คุมกว่า 14 คน หลังพบว่าผู้ต้องขังกลุ่ม "จีนเทา" ได้รับสิทธิพิเศษในห้องขัง ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ มีด ไฟแช็ก ไปจนถึงการให้หญิงสาวเข้าเยี่ยม

วันนี้ (21 พ.ย. 2568) นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีและโฆษกกรมราชทัณฑ์ จึงนำทีมเข้าตรวจค้น "แดน 8" ซึ่งมีผู้ต้องขังมากกว่า 900 คน ท่ามกลางกระแสย้ายผู้บัญชาการเรือนจำจากข้อกล่าวหา "เอื้อประโยชน์" ให้ผู้ต้องขังชาวจีนระดับวีไอพี

พาไปเปิดแฟ้มประวัติเรือนจำที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี บทบาท และพัฒนาการของ "เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ" หนึ่งในเรือนจำสำคัญ ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังคดีดัง บุคคลมีชื่อเสียงมากมาย

"เรือนจำพิเศษ" มีหน้าที่และอำนาจ คือ 1. ควบคุมผู้ต้องขังซึ่งเป็นคนฝาก ผู้ต้องขังระหว่างคดีในเขตอำนาจศาลที่เรือนจำตั้งอยู่ และนักโทษเด็ดขาดที่มีกำหนดโทษซึ่งอยู่ในอำนาจการควบคุมตามที่กำหนด 2. ดำเนินการทางทัณฑปฏิบัติแก่ผู้ต้องขัง 3. จัดการศึกษา อบรม พัฒนา ปรับปรุง แก้ไขพฤติกรรม และฝึกวิชาชีพแก่ผู้ต้องขัง

4. ดำเนินการเกี่ยวกับการทำงานและการใช้แรงงานผู้ต้องขัง 5. จัดสวัสดิการ ให้การสงเคราะห์ และพัฒนาสุขภาพอนามัยแก่ผู้ต้องขัง รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับการสุขาภิบาล 6. ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย

บทบาทเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังที่กระทำผิดเฉพาะในเขตฝั่งพระนคร ยกเว้นเขตมีนบุรี เขตหนองจอก เขตลาดกระบัง และผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติด เมื่อศาลพิพากษาจำคุกคดีถึงที่สุดแล้ว จึงย้ายไปคุมขังที่เรือนจำอื่นต่อไป

อ่านข่าว : ราชทัณฑ์ค้นเพิ่มแดน 8 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - ย้ายผู้ต้องขังจีน VIP แล้ว

"เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ" ประวัติยาวนาน 

"เรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร" มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เป็นเรือนจําที่ถูกกําหนดชื่อเปลี่ยนไปตามภารกิจ ไม่น้อยกว่า 8 ชื่อ เดิมตั้งอยู่ที่ เลขที่ 436 ถนนมหาไชย ต.สำราญราษฎร์ อ.พระนคร จ.พระนคร 

ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้โปรดเกล้าฯ ให้ซื้อที่ดิน ต.ตรอกคำ ถนนมหาไชย สร้างคุกขึ้นใหม่ เรียกว่า "กองมหันตโทษ" และมีหน่วยงานราชการที่จัดการเกี่ยวกับงานคดีนักโทษตั้งอยู่ที่ถนนหน้าหับเผย บริเวณกระทรวงยุติธรรม เดิม ที่สนามหลวง

"กองมหันตโทษ" สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2432 หรือ ร.ศ.108 (นับจากการสร้างคุกปัจจุบันนับอายุได้ 136 ปี) ตึกที่ขังนักโทษมีทั้งหมด 4 หลัง ขังนักโทษไทยและต่างประเทศ ภายใน "คุกกองมหันตโทษ" แบ่งออกเป็นแดนรับนักโทษใหม่ เรือนนอน และโรงครัว ส่วนหนึ่งเป็นที่สำหรับนักโทษทำงาน หรือ ฝึกอาชีพประเภทต่าง ๆ

ในสมัยนั้นห้องน้ำสมัยนั้นยังไม่มีการสร้างส้วมไว้ในโรงนอน การขับถ่ายผู้ต้องขังจะต้องขับถ่ายบนถังไม้ เรียกว่า "ถังเมล์" รุ่งเช้าผู้ต้องขังก็หิ้วนำไปทิ้งที่แดนเกษตรด้านหลังเรือนจำ 

แบบอาคารของคุกนำมาจากเรือนจำ Brixton ของต่างประเทศ โดยพระยาไชยวิชิตสิทธิสาสตรา (นาค ณ ป้อมเพชร) เป็นผู้ดูแลการออกแบบ การก่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2433 (ร.ศ.109)  

ปี พ.ศ. 2433 ผู้ต้องขังชุดแรกที่ย้ายมาอยู่เรือนจำแบบใหม่มี 200 คน ก่อนจะทยอยเพิ่มขึ้น ได้แก่ เดือนมีนาคม 9 คน, เมษายน 92 คน และกรกฎาคม อีก 490 คน รวมผู้ต้องขังจากคุกเก่าและผู้ต้องขังใหม่ที่ถูกส่งมาจากหัวเมืองต่างๆ ตลอดปีนั้นทั้งสิ้น 1,000 คน

เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - บางขวาง - คลองเปรม

ต่อมา ในปี พ.ศ. 2470  ได้มีการก่อสร้างเรือนจำที่ ต.บางขวาง จ.นนทบุรี แล้วเสร็จในปี 2474 โดยย้ายผู้ต้องขังโทษสูง จาก กองมหันตโทษ ไปคุมขัง เรียกชื่อเรือนจำนี้ว่า "เรือนจำมหันตโทษ" ต่อมาจึงเปลี่ยนเรียกชื่อว่า เรือนจำกลางบางขวาง มาจนปัจจุบัน

ส่วน "กองมหันตโทษ" เดิม เปลี่ยนเรียกชื่อ "เรือนจำลหุโทษ" โดยย้ายผู้ต้องขังทั้งหมดจากกองลหุโทษ ที่ถนนหับเผย ซึ่งยุบเลิกเพื่อสร้าง กระทรวงยุติธรรม คุมขังไว้ 

ปี พ.ศ. 2484 ยกกองลหุโทษเป็น "เรือนจำกลางประจำเขตคลองเปรม" ในปี พ.ศ. 2496 ยกกองลหุโทษเป็น "เรือนจำกลางคลองเปรม" ปี พ.ศ. 2505 ย้าย "เรือนจำกลางคลองเปรม" มาสร้างที่ ต.ลาดยาว อ.บางเขน จ.พระนคร (กรุงเทพมหานครในสมัยนั้น)

พ.ศ. 2506 ได้กำหนดแยกเรือนจำกลางคลองเปรม และเรือนจำจังหวัดพระนครและธนบุรีออกจากกัน แต่ยังอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และใน พ.ศ. 2513 ยุบเรือนจำกลางคลองเปรม ต.สำราญราษฎร์ อ.พระนคร มาอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ต.ลาดยาว จ.พระนคร ส่วนเรือนจำที่อยู่ถนนมหาไชย ใช้ชื่อว่า "เรือนจำจังหวัดพระนครและธนบุรี" 

พ.ศ. 2516 มีประกาศจากคณะปฏิวัติเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงของไทยเป็น "กรุงเทพมหานคร" จึงเรียกเรือนจำนครหลวงกรุงเทพธนบุรี ว่า "เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร"

พ.ศ. 2530 พื้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เดิม ที่อยู่บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน จากที่ประชุม วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 โดยคณะกรรมการโครงการกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อใช้พื้นที่เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติและความเป็นมาของกิจการราชทัณฑ์ในประเทศไทย และจัดสรรพื้นที่ที่เหลือเป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระนางเจ้าสิริกิติ์ เรียก "สวนรมณีนาถ" 

พ.ศ. 2534 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ย้ายผู้ต้องขังมาไว้ยังหอเรือนจำใหม่ จำนวน 360 คน โดยมีนายณรงค์ชัย สุวารี เป็นผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครที่ใหม่นี้เป็นคนแรก และเริ่มทำการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2535

ปัจจุบัน เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 33 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร  

10 รายชื่อ ผู้บัญชาการเรือนจำ ในยุคแรก

สำหรับรายชื่อ "ผู้บัญชาการเรือนจำ" 10 คนแรก มีรายชื่อดังนี้  

1. พ.ต.อ.พระยาพัศดีกลาง พ.ศ. 2458-2475

2. พระบริหารทัณฑนิติ พ.ศ. 2475-2480

3. หลวงอรรถกัลยาณวินิจ พ.ศ. 2480-2482

4. พ.ต.ต.หลวงรักษาสุขศานติ พ.ศ. 2482-2484

5. ร.ต.ท.เสถียร ลายลักษณ์ พ.ศ. 2484-2486

6. ขุนอภิจิตรสุรทัณฑ์ พ.ศ. 2486-2488

7. นายบรรยง มกราภิรมย์ พ.ศ. 2488-2489

8. พระบริหารทัณฑนิติ พ.ศ. 2489-2490

9. ขุนนิยมบรรณสาร พ.ศ. 2490-2492

10. ขุนพิสิฐนนทเดช พ.ศ. 2492-2494

ปัจจุบัน เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 33 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คนปัจจุบัน คือ นายมานพ ชมชื่น 

สำหรับนายมานพ ล่าสุด วันที่ 19 พ.ย.68 ถูกย้ายไปเป็น ผู้ตรวจราชการกรมฯ มีประวัติบรรจุรับราชการที่กรมราชทัณฑ์ ก่อนไปเติบโตที่สำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม และกลับมาเป็นเลขานุการกรมราชทัณฑ์ ก่อนเป็นผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ สมุทรสาคร สมุทรปราการ ก่อนดำรงตำแหน่ง ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเรือนจำสำคัญ 

สถานที่คุมขังบุคคล คดีดัง - คดีอุกฉกรรจ์ 

นักการเมือง ดารานักแสดง ไฮโซ อินฟลูเอนเซอร์ เดินเข้าคุกในคดีความผิดต่างกรรมต่างวาระ เช่น คดีฉ้อโกง คดีพนันออนไลน์ คดีฟอกเงิน รวมถึงคดีร่วมกันฆ่าฯ  

"แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์"

คดีอินฟลูเอนเซอร์ไลฟ์ขายทองที่ลุกลามสู่ข้อกล่าวหา "ฉ้อโกงประชาชน" จนตกเป็นคดีใหญ่ที่สังคมจับตา

"ทนายตั้ม-คดีลวงเงินเจ๊อ้อย"

กรณีร้องเรียนว่ามีการหลอกลวงเงินลงทุน จนนำไปสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดี

"ผู้กำกับโจ้" (ปี 2564)

คดีสะเทือนวงการสีกากี เมื่อ ปี 2564 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "อดีต ผกก.โจ้" พร้อมพวก 6 คน ถูกกล่าวหาว่าใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

"ดิไอคอน กรุ๊ป"

ผู้ต้องหา 17 คน ในคดีฉ้อโกงและธุรกิจผิดกฎหมาย ถูกส่งตัวเข้าฝากขังในแดนแรกรับของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งคดีอาญา–การเงินที่เป็นกระแสใหญ่

ผู้ต้องขังชาวจีน "วีไอพี"

เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถูกพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง ล่าสุดวันนี้ 21 พ.ย. 2568 มีการตรวจค้นแดน 8 ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเป็นการตรวจค้นซ้ำ หลังจากมีปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมาและพบสิ่งของต้องห้ามจำนวนมาก

ผลการตรวจค้น ราชทัณฑ์ ระบุว่า พบสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของไม่อนุญาตให้มีครอบครองหรือใช้ในเรือนจำ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ตามมาตรา 72 และมาตรา 73 และยังพบสิ่งของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกเกินจำเป็นหลายรายการ อาทิ ตู้เย็น, ไมโครเวฟ, แอร์เคลื่อนที่ ไปจนถึงการครอบครองสิ่งของราคาแพงในหมู่ผู้ต้องขังชาวจีน นอกจากนี้ ยังพบกาแฟซองจำนวนมาก ซึ่งอาจถูกใช้แทนค่าสำหรับเล่นพนันของผู้ต้องขังชาวจีน

ด้าน พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ปฏิบัติการจู่โจ่มเข้าตรวจค้นครั้งนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้รายงานข้อร้องเรียนให้ทราบแล้ว ซึ่งสิ่งที่พบก็ตรงตามข้อมูลที่ได้รับร้องเรียน ทั้งเรื่องห้องใต้บันได, กล่องถุงยางอนามัย รวมถึงการนำผู้หญิงเข้าไปบริการผู้ต้องขังชาวจีนซึ่งเป็นเรื่องที่รับไม่ได้

สำหรับมาตรการสอบสวนเจ้าหน้าที่ รมว.ยุติธรรม มีคำสั่งแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 28 พ.ย.นี้ และเบื้องต้น ได้สั่งย้าย นายมานพ ชวนชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่เรือนจำ รวม 15 คน

สำหรับแดน 8 ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นแดนใหญ่ มีผู้ต้องขังมากที่สุดคือ ประมาณ 900 คน มีหลายเชื้อชาติ ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังที่กระทำผิดซ้ำซาก ซึ่งที่ตั้งแดน 8 อยู่ลึกที่สุดของพื้นที่เรือนจำ มี 2 อาคาร แยกเป็นอาคารเรือนนอน 1 หลัง และ อาคารสูทกรรม หรือ โรงครัว 1 หลัง ซึ่งผู้ต้องขังชาวจีนได้ใช้เป็นพื้นที่รวมกลุ่มกระทำความผิดและซุกซ่อน สิ่งของต้องห้ามและสิ่งผิดกฎหมาย)

ที่มา : เรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร

อ่านข่าว :  มง 3 ใกล้เข้ามา! เชียร์สุดใจ "วีนา ปวีนา" จับมือ 2 คนสุดท้าย Miss Universe 2025 รอบตัดสิน

ปฏิทินธันวาคม 2568 เดือนแห่งความอบอุ่น ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วยรอยยิ้ม

รู้จัก "ฟาติมา" สาวเม็กซิโกผู้เอาชนะ ADHD คว้ามงกุฎ Miss Universe 2025