วันนี้ (23 พ.ย. 2568) นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ว่า น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี และยะลา รวม 44 อำเภอ หน่วยบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบรวม 28 แห่ง แบ่งเป็น โรงพยาบาล 7 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)
และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) 21 แห่ง ในจำนวนนี้ต้องปิดบริการ 7 แห่ง คือ รพ.สต.หูแร่ รพ.สต.บ้านพรุ รพ.สต.หินผุด รพ.สต.ทุ่งตำเสา และ สอน.พะดง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, รพ.สต.ฉลุง อ.เมืองสตูล และ รพ.สต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล มีการเปิดศูนย์พักพิงแล้ว 41 แห่ง ผู้อพยพรวม 1,027 คน ได้จัดทีมแพทย์ดูแลสุขภาพประชาชนในศูนย์พักพิงต่อเนื่อง รวมถึงติดตามดูแลกลุ่มเปราะบางรวม 3,397 ราย
โดยสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย สาเหตุจากการจมน้ำ 3 ราย ไฟฟ้าดูด 1 ราย และดินถล่มทับบ้าน 1 ราย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย ซึ่งการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 22 - 25 พ.ย. 2568 ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง จึงมีโอกาสเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่หากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง
ขณะที่ข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี พบว่า ทุกจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 12 เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากจึงขอให้เฝ้าระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยบริการสาธารณสุข เตรียมจัดบริการดูแลประชาชน และที่สำคัญ สื่อสารความเสี่ยงย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุ การจมน้ำ และไฟฟ้าดูด รวมถึงเฝ้าระวังโรคต่างๆ ทั้งเลปโตสไปโรสิส อาหารเป็นพิษ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก เมลิออยโดสิส ที่มีโอกาสพบการป่วยเพิ่มขึ้นได้ในช่วงนี้
อ่านข่าว:
เตือน เลี่ยงถนน 14 สายภาคใต้ ทางหลวงชนบทเผยยังผ่านไม่ได้
สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติ 10 อำเภอ - นักท่องเที่ยวติดค้างหาดใหญ่ทยอยอพยพ
สตูลประกาศเขตภัยพิบัติทั้งจังหวัด อ.ละงูหนักสุดน้ำทะลักท่วมเขตเศรษฐกิจ











