สถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤตต่อเนื่องข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ย.2568 ระบุว่า ปริมาณน้ำท่วมในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงสูงถึง 2-3 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่อันตรายอย่างยิ่ง ภัยพิบัติครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งบ้านเรือน ชุมชน และโครงสร้างพื้นฐาน ประชาชนจำนวนมากกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพร้ายแรง เช่น ภาวะขาดน้ำและอาหารอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ในยามวิกฤตเช่นนี้ พลังน้ำใจจากทุกภาคส่วนคือสิ่งสำคัญที่สุด การส่งมอบความช่วยเหลือสามารถทำได้ผ่าน การบริจาคเงิน และ การบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ซึ่งทั้ง 2 ช่องทางมีความสำคัญและมีข้อดีที่แตกต่างกันในการช่วยให้ผู้ประสบภัยก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การบริจาคเงิน (Monetary Donation)
การบริจาคเงินผ่านหน่วยงานกลางที่น่าเชื่อถือ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการวิกฤต และเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงในด้านความคล่องตัว เพราะมีความยืดหยุ่นและการตอบสนองอย่างรวดเร็ว องค์กรหลัก เช่น สภากาชาดไทย และมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สามารถใช้เงินบริจาคเพื่อจัดซื้อสิ่งของที่จำเป็นที่สุดในแต่ละพื้นที่ได้อย่างคล่องตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
เงินมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินงานหลังน้ำลด ใช้สนับสนุนการฟื้นฟูระยะยาว ซึ่งครอบคลุมถึงการทำความสะอาดครั้งใหญ่ของชุมชน สถานที่ต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากกระบวนการทำความสะอาดมักมีภาระค่าใช้จ่ายสูง เช่น ค่าอุปกรณ์ทำความสะอาดและค่าใช้จ่ายในการขจัดสิ่งสกปรก
เงินบริจาคช่วยให้หน่วยงานสามารถจัดซื้อยาเฉพาะทาง หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะ และช่วยสนับสนุนเครือข่ายด้านการแพทย์ฉุกเฉิน และช่วยลดภาระในการคัดแยก จัดเก็บ และขนส่งสิ่งของบริจาคจำนวนมากที่อาจไม่ตรงตามความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
การบริจาคสิ่งของ (In-Kind Donation)
การบริจาคสิ่งของพื้นฐานที่จำเป็นคือ การให้ความช่วยเหลือที่สำคัญยิ่ง ในการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินและช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถอยู่รอดได้ทันที สิ่งของบริจาค เช่น น้ำดื่มสะอาด-อาหารแห้ง สามารถนำไปแจกจ่ายเพื่อให้ผู้ประสบภัยใช้ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตได้ในทันที
การบริจาคอาหารที่เก็บได้นาน เช่น อาหารแปรรูป อาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานที่บรรจุในถุง กระป๋อง ที่สามารถเก็บรักษาได้ที่อุณหภูมิห้อง จะมีประโยชน์มากในพื้นที่ที่ไฟฟ้าถูกตัด
การจัดเป็นชุดยังชีพ (Survival Kit) ให้พร้อมใช้ โดยบรรจุในถุงซิปล็อกหรือกล่องกันน้ำ ช่วยให้ทีมอาสาสมัครสามารถแจกจ่ายได้อย่างรวดเร็ว และลดความเสียหายของสิ่งของระหว่างทาง
นอกจากนี้ การบริจาคสิ่งของที่ช่วยแก้ปัญหาสุขอนามัย เช่น ยาแก้น้ำกัดเท้า หรือกระดาษชำระแบบเปียก สามารถบรรเทาความทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนังที่มากับน้ำท่วมได้ทันที
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ตัวอย่างสิ่งของที่ควรบริจาคเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
American Red Cross ให้ข้อมูลตัวอย่างสิ่งของที่ควรอยู่ใน Survival Kit หรือถุงยังชีพ เพื่อใช้เป็นแนวทางให้ผู้บริจาคสามารถนำไปจัดหาและส่งต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ควรบริจาคสิ่งของที่คงทน สามารถใช้ได้ทันที และมีสุขอนามัยที่ดี
1. หมวดอาหารและน้ำดื่ม
- น้ำดื่มบรรจุขวด ขนาด 600–1,500 มิลลิลิตร
- อาหารกระป๋องที่มีฝาดึง เช่น ปลากระป๋อง, ทูนากระป๋อง, ไข่พะโล้กระป๋อง, ผักกาดดองกระป๋อง
- อาหารพร้อมทานสำเร็จรูป เช่น ข้าวสวยพร้อมทานแบบฉีกซอง หรืออาหารปรุงสุกในถุงรีทอร์ทเพาช์
- อาหารแห้งให้พลังงานสูง ขนมปังกรอบ/แครกเกอร์ที่ไม่มีไส้ครีม, หมูหยอง, หมูแผ่นแบบแพ็คสูญญากาศ, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, กล้วยตาก
- เครื่องดื่ม นมกล่อง UHT หรือน้ำผลไม้
- อาหารสำหรับเด็กเล็ก นมผงและขวดนม
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ข้อแนะนำสำหรับจิตอาสาทำอาหาร กรมอนามัยแนะนำเมนูที่คงทนและเสียยาก ได้แก่ ข้าวน้ำพริกปลาย่าง ไข่ต้ม และ ข้าวผัดกะเพราหมูหรือไก่ที่เน้นรวนให้แห้ง
2. หมวดยาและชุดปฐมพยาบาล
- ยาแก้น้ำกัดเท้า ยาเชื้อราจำเป็นอย่างยิ่งในการบรรเทาอาการจากแช่น้ำนาน
- เกลือแร่ (ORS) สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสีย
- ยาสามัญ
- ยาแก้ปวด ลดไข้ (พาราเซตามอล), ยาแก้ท้องเสีย
- อุปกรณ์ทำแผล แอลกอฮอล์, เบตาดีน, พลาสเตอร์ปิดแผลกันน้ำ, สำลี
- โลชั่น/ยาทา/จุดกันยุง เนื่องจากยุงจะเพิ่มจำนวนมากหลังน้ำท่วม
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
3. หมวดของใช้ส่วนตัวและสุขอนามัย
- กระดาษชำระแบบเปียก (ทิชชู่เปียก) ใช้เช็ดตัวแทนการอาบน้ำได้ในภาวะขาดน้ำประปา
- ผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิง
- ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กเล็กและผู้ใหญ่
- กางเกงในแบบใช้แล้วทิ้ง สำหรับชายและหญิง เพื่อสุขอนามัยที่ดีเพราะไม่สามารถซักตากได้
- ถุงดำขนาดใหญ่และหนา เพื่อให้เก็บสิ่ของที่ได้รับบริจาคมาไม่ให้เปียก
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
4. หมวดอุปกรณ์ฉุกเฉิน
- ไฟฉายพร้อมถ่านสำรอง หรือไฟแช็กและเทียนไข เพราะพื้นที่น้ำท่วมมักถูกตัดไฟ
- แบตเตอรีสำรอง (พาวเวอร์แบงก์) ควรชาร์จไฟให้เต็ม เพื่อใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน
- เสื้อชูชีพ ควรมีให้เพียงพอสำหรับสมาชิกในบ้าน โดยเฉพาะเด็กและคนชรา
- นกหวีดใช้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
- ที่เปิดกระป๋อง หากบริจาคอาหารกระป๋องที่ไม่มีฝาดึง
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ข้อควรระวังด้านสุขอนามัยในการบริโภคอาหาร
กรมอนามัย ระบุว่า ผู้ที่ได้ทำอาหารปรุงสำเร็จเพื่อแจกจ่าย ควรเลือกเมนูที่มีลักษณะแห้ง ไม่ใส่กะทิ และ หลีกเลี่ยงของหมักดอง หากมีการปรุงอาหารไว้ล่วงหน้าไม่ควรเกิน 4 ชั่วโมง สำหรับอาหารกระป๋อง เมื่อผู้ประสบภัยได้รับของมาแล้ว ควรสังเกต "วันเวลาที่ผลิต" และ "วันหมดอายุ" ที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ หากพบว่าอาหารมีกลิ่นเหม็นบูด ควรทิ้งทันที และในกรณีที่ยังสามารถใช้ครัวได้ ควรนำอาหารมาอุ่นให้ร้อนก่อนกินทุกครั้ง
การช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้ง
ท่ามกลางภัยพิบัติ สัตว์เลี้ยงก็เป็นกลุ่มที่เปราะบางและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อกระแสน้ำเชี่ยว หน่วยงานในพื้นที่ เช่น คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือและเปิดรับบริจาคสำหรับสัตว์เลี้ยง สิ่งที่จำเป็นสำหรับการบริจาค ได้แก่ อาหารสัตว์สำเร็จรูป ทั้งแบบเม็ดและแบบเปียก รวมถึง เวชภัณฑ์สัตว์ เช่น ยาป้องกันเห็บหมัด
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
สุดท้าย พลังความร่วมมือจากคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเงินที่มอบความยืดหยุ่นในการจัดการวิกฤตและฟื้นฟูระยะยาว หรือการบริจาคสิ่งของที่จำเป็นเพื่อช่วยชีวิตในนาทีฉุกเฉิน ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้ประสบภัยทั้งคนและสัตว์ในภาคใต้สามารถกลับสู่การใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
ที่มา : กรมอนามัย, Create a flood pack, Build A Kit
อ่านข่าวอื่น :
สายด่วน "1784" ปภ. ขยายเพิ่ม 30 คู่สาย รองรับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือ
สธ.จัดทีมแพทย์ พร้อมตั้ง รพ.สนาม 7 แห่ง รองรับผู้ป่วยน้ำท่วมหาดใหญ่











