ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ทนายอั๋น" กางผังโอนเงิน ฮั้วเลือกตั้งสว. ดักคอ DSI อย่าตัดจบที่ 8 คน

การเมือง
16:09
47
"ทนายอั๋น" กางผังโอนเงิน ฮั้วเลือกตั้งสว. ดักคอ DSI อย่าตัดจบที่ 8 คน
อ่านให้ฟัง
07:05อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
”ทนายอั๋น“ แฉเส้นเงินขบวนการฮั้ว สว. 8 ผู้ต้องหา “2 สว.ตัวจริง - 6 เครือข่ายพรรคการเมืองดัง” โอนจ่าย “สว.สอบตก” ค่าต่างตอบแทน และโอนต่อท่อไปยังนักการเมือง ช. วอนอย่าตัดจบผู้กระทำความผิดตามสำนวนอั้งยี่-ฟอกเงิน ที่ 8 คน

วันนี้ (4 ธ.ค.2568) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อขอให้คุ้มครองความเป็นอิสระและความโปร่งใสในการพิจารณาคดีพิเศษของดีเอสไอ พร้อมกับภาพเส้นทางการเงินของกระบวนการฮั้ว สว. ที่มีรายชื่อของสมาชิกวุฒิสภาตัวจริง จำนวน 2 ราย และเครือข่ายพรรคการเมืองดัง ซึ่งถูกดำเนินคดีเป็นผู้ต้องหาในคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จากทั้งหมด 8 คน มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับคนจำนวนมาก โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ทราบความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาว่า กกต. ได้ส่งหนังสือสอบถามมายังอธิบดีดีเอสไอ เรื่องการทำสำนวนคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ดีเอสไอได้มีการสอบสวนคนในพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ หรือได้มีการแจ้งข้อหาบุค คลใดของพรรคหรือไม่ และถือเป็นการแทรกแซงการทำคดีหรือไม่ เนื่องจากอธิบดีดีเอสไอต้องมีการตอบหนังสือ ให้รายละเอียดต่าง ๆ

ทั้งนี้เชื่อว่าสำนวนคดีฮั้ว สว. ตามกฎหมาย กกต.ที่มีผู้ต้องหา 229 ราย อาจจะมีการล้มคดีภายหลังการยุบสภาได้ นอกจากนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เห็นเป็นข่าว ได้มีพยานตัวหลัก ในจังหวัดขอนแก่นกลับคำให้การกับดีเอสไอ และทราบว่าในอนาคต อาจจะมีคนแถวภาคเหนือมากลับคำให้การอีก

"ก่อนหน้านั้นได้เปิดเผยภาพเส้นทางการเงินของบุคคลคนหนึ่ง ที่มีการโอนให้เจ้าหน้าที่ กกต.และภายหลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ กกต. รายดังกล่าวได้ถูกไล่ออกแล้ว และเมื่อเปิดเส้นทางการเงินครั้งที่ 2"

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากกต.และดีเอสไอได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา 8 คนซึ่งคาดหวังว่าครั้งนี้จะเกิดแรงสะเทือน เพราะมีตัวละครที่อยู่ในเส้นทางการเงินครั้งนี้จำนวนมากและเป็นตัวละครทางสายใต้ เช่น อักษรย่อ น. อักษรย่อ ม. โดยเฉพาะ อักษรย่อ ม. และ อักษรย่อ อ. ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตัวจริง โดยอย่างยิ่ง อักษรย่อ อ. คือ หัวจ่าย ส่วน อักษรย่อ ม. มีเส้นเงินจำนวนมาก ขณะที่ อักษรย่อ ล. คือ อดีตคณะทำงานของรัฐมนตรีในกระทรวงมหาดไทย ส่วนอักษรย่อ ว. มีการโอนเงินให้ผู้สมัคร

ดังนั้นอยากจะถามดีเอสไอว่าจะตัดจบแค่ 8 คนนี้เท่านี้หรือ ในเมื่อทั้ง 8 คนนี้มีเส้นเงินโยงใยกันและโยงไปเครือข่ายอื่นในภาคอีสานด้วย ทั้งยังโอนไป อักษรย่อ อักษรย่อ ช. ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เหนือตอนล่างกลางตอนบน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่สำนวนจะตัดจบแค่ 8 คนนี้

สำหรับพฤติการณ์ของบุคคลในเส้นทางการเงินที่นำมาเปิดเผยในวันนี้(4 ธ.ค.2568) ล้วนมีความเชื่อมโยงตั้งแต่ก่อนเลือก สว. ระหว่างเลือก สว. และภายหลังเสร็จสิ้นการเลือก สว. ยกตัวอย่าง อักษรย่อ น. มีการรับโอนทั้งหมด 165 ครั้ง โอนออกไป 480 ครั้ง หมายความว่า มีการโอนเงิน”ออก” มากว่า “รับโอน” ซึ่งรับโอนไปทั้งสิ้น 1.3 ล้านบาท ส่วนจำนวนเงินโอนออกไป คือ 1.6 ล้านบาท

ขณะที่อักษรย่อ ม. ซึ่งเป็นตัวการหลักสายใต้ ปัจจุบันเป็น สว. พบข้อมูลว่ามีการรับโอนทั้งหมด 162 ครั้ง แต่โอนออกไป 269 ครั้ง ซึ่งยอดเงินในการรับโอน รวม 17 ล้านบาท แต่โอนเงินออกไป 16 ล้านบาท นอกจากนี้ อักษรย่อม. รายนี้ยังโอนเงินให้ สว.สอบตก 10 กว่าคน เพื่อเป็นค่าต่างตอบแทน และยังโอนให้ สส.พรรคการเมืองหนึ่ง มีการโอนเข้า-ออก และรับโอนจาก สส.พรรคการเมืองเช่นเดียวกัน

ส่วนอักษรย่อ อ. ที่เป็นตัวการหลักเช่นกัน ปัจจุบันเป็น สว. และเป็นหัวจ่าย หาผู้สมัคร สว. ในสายใต้ พบข้อมูลรับโอนเงิน 169 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท และมีการโอนเงินออกจำนวน 700 กว่าครั้ง เป็นเงิน 4 ล้านกว่าบาทเช่นกัน ทั้งนี้ ในวันที่ดีเอสไอประกาศข่าวว่าจะออกหมายเรียกผู้ต้องหา 8 ราย ว่ากันว่า อักษรย่อ ม. และ อ. ที่เป็น สว.ตัวจริงที่อยู่ระหว่างประชุมกรร มาธิการฯ ถึงกับหน้าดำคร่ำเครียด เดินออกจากห้องประชุม แต่อีกสองวันกลับหน้าตายิ้มแย้ม อ้างบอกว่าเคลียร์ได้แล้ว ซึ่งสอดรับกับวันที่มีข่าวว่า สว.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ประกาศต่อที่ประชุม สว. และพวกพ้องสีน้ำเงินว่าเธอจะกลับมาเป็น สว.อีกครั้ง

“มองว่าไม่ควรตัดจบแค่ 8 คนนี้ เพราะ 8 คนนี้ไม่เพียงโอนให้ สว.สอบตก แต่ล้วนโอนต่อไปให้อักษรย่อ ช. ซึ่งเป็นนักการเมืองดัง และยังโอนไปเครือข่ายสายอีสานด้วย จึงขอรอดูว่าดีเอสไอจะตัดจบหรือไม่ อย่างไร”

นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมาทราบข้อมูลจากสายลับว่ามีการประชุมของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ที่ดีเอสไอและอัยการประชุมกันจริง แต่มีสายข่าวสีน้ำเงินอยากต้องการตัดจบที่ 8 คนเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีการล้มคดี และต้องขอบคุณดีเอสไอและอัยการที่ไม่ยอม และดึงไว้ไม่ให้ตัดจบแค่ 8 คน เพราะจำนวนผู้เกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินมีมากกว่านี้ จึงอยากขอให้เกียรติประชาชนบ้าง และวอนอย่าล้มคดี 

อ่านข่าว:

 จ่อยื่นฟ้องป.ป.ช.-ศาลปกครอง เอาผิด ม.157 นายกฯแป้น-ผวจ.สงขลา

นายกฯ ลั่น คนเพื่อนน้อย เมินคดีเขากระโดง -ฮั้วสว. ไม่มีหนี้ต้องตอบแทนใคร

อันตราย หากปล่อย "องค์กรพัง" หากจำเป็น (ต้อง) ฆ่าน้อง ฟ้องนาย