วันนี้ (4 ธ.ค.2568) ผู้ประสบภัยพิบัติจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 10 จังหวัด กำลังเร่งฟื้นฟูบ้านเรือน สถานประกอบการ รวมถึงเคลื่อนย้ายรถที่ถูกน้ำท่วมออกจากถนน พร้อมรวบรวมหลักฐานความเสียหายเพื่อยื่นเคลมประกันภัย เรียกค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ที่ทำไว้กับบริษัทประกันภัย
รักษาการผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต นพพล เบี้ยวไข่มุข ระบุว่าสถานะกองทุนประกันชีวิตมีสภาพคล่องสำรองมากกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับผลกระทบ หากบริษัทประกันชีวิตถูกเพิกถอนใบอนุญาตจากการบริหารผิดพลาด ซึ่งเป็นเพียงกรณีปลายน้ำเท่านั้น ยืนยันว่าสภาพคล่องเพียงพอต่อความเสี่ยงทั้งหมด สำหรับการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ ภาคธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยกำลังร่วมมือกันดูแล ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
ด้านผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย ชนะพล มหาวงษ์ ยอมรับว่ากองทุนยังมีภาระจ่ายเงินชดเชยจากประกัน (เจอ จ่าย จบ) ในช่วงโควิด-19 โดยปัจจุบันจ่ายเคลมไปแล้วกว่า 30,000 ราย จากทั้งหมดเกือบ 800,000 ราย แต่ล่าสุดกำลังติดตามการยื่นเคลมประกันน้ำท่วมภาคใต้อย่างใกล้ชิด ประเมินเบื้องต้นว่าคงไม่กระทบสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทประกัน เนื่องจากจำนวนกรมธรรม์มีไม่มาก และบริษัทมีบทเรียนจากอดีต ทำให้ระมัดระวังในการขายกรมธรรม์ประกันภัยมากขึ้น
นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการ คปภ. ด้านกำกับธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่าขณะนี้มีผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคใต้ 10 จังหวัด ยื่นแจ้งเคลมประกันภัยแล้ว แยกเป็นประกันภัยรถยนต์กว่า 17,000 คัน และบ้านเรือน-ที่อยู่อาศัยประมาณ 25,000 ราย โดยประเมินค่าความเสียหายเบื้องต้นมูลค่าประมาณ 17,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการยื่นเคลมเพิ่มต่อเนื่อง คปภ. ยืนยันจะติดตามสถานการณ์การยื่นเคลมประกันรถยนต์และที่อยู่อาศัยกับบริษัทประกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสียหายต่อไป
อ่านข่าวอื่น :
นายกฯ ลงนามยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน "สงขลา" มีผลตั้งแต่ 5 ธ.ค.
เกณฑ์ใหม่ คปภ. ช่วยผู้ประสบภัยใต้ รถจมน้ำทั้งคันคืนทุนประกันเต็ม











